Page 236 - สังคมโลก
P. 236
8-42 สังคมโลก
และป กปอ้ งผ ลป ระโยชนข์ องต นเอง ดังน ัน้ อ งคก์ ารร ะหวา่ งป ระเทศจ ึงต ้องป รบั น โยบายใหส้ อดคลอ้ งแ ละป รบั ด ลุ ยภาพ
เพื่อสร้างสมดุลของความขัดแย้งระหว่างประเทศร่ำรวยและประเทศที่ยากจน ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีความร่วมมือ
ระหวา่ งป ระเทศท ยี่ ากจนม ากย ิง่ ข ึน้ ท ำใหอ้ ำนาจก ารต อ่ ร องม มี ากย ิง่ ข ึน้ โดยเฉพาะอ ยา่ งย ิง่ จากก ารข ึน้ ม าเปน็ ม หาอำนาจ
ใหม่ของบราซิล รัสเซีย อินเดียและจีน (BRIC) ซึ่งประเทศเหล่านี้ยังประกาศว่าตนยังเป็นประเทศที่ยากจนอยู่ทำให้
กลุ่มของป ระเทศท ี่ย ากจนมีอ ำนาจก ารต ่อร องเพิ่มข ึ้นเป็นอ ย่างมาก และส ามารถร ับมือกับป ระเทศที่ร่ำรวยกว่าได้ จน
บางครั้งน ำไปส ู่ความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจม ากขึ้นโดยเฉพาะค วามข ัดแย้งร ะหว่างส หรัฐอเมริกากับจ ีน เป็นต้น
จากร ะเบียบโลกที่ม ีความเปลี่ยนแปลง จากส องขั้วมหาอำนาจท ี่ม ีความแ ตกต่างท างอ ุดมการณ์ทางการเมือง
(Bipolarity) จนถึงอ ำนาจเดี่ยวในพหุขั้วอ ำนาจ (Uni-multipolarity) ของสหรัฐอเมริกาในช ่วงหลังก ารล ่มสลายของ
สหภาพโซเวียต จนกระทั่งในปัจจุบันที่เป็นยุคการมีขั้วอำนาจหลายขั้ว (Multipolarity) รวมถึงการที่ประเทศต่างๆ
หันเข้ามารวมกลุ่มในภูมิภาคซึ่งเกิดขึ้นคู่ขนานกับการรวมตัวในระดับโลกก็เพื่อเป็นดุลอำนาจในการต่อรองระหว่าง
กลุ่มองค์การระหว่างป ระเทศมากยิ่งข ึ้น ในแต่ละข ั้วพยายามร วมก ลุ่มปกป้องผ ลประโยชน์ในกลุ่มของต น นักวิชาการ
ได้ให้ความเห็นว่าการรวมกลุ่มในระดับภูมิภาคก็เพื่อการจัดการเรื่องเอกราช (Independence) การพึ่งพาอาศัย
ซึ่งกันและกัน (Interdependence) และการปรับเปลี่ยนเป็นแบบระหว่างประเทศ (Internationalisation) เพื่อ
ให้เกิดสันติภาพและความมั่นคง และเป็นการตอบโต้กระบวนการโลกาภิวัตน์66 ดังนั้นความร่วมมือระหว่างกลุ่มใน
ระดับโลกแ ละภูมิภาคจ ึงม ีความล ะเอียดอ่อน ต้องอ าศัยการปรับตัวที่ม ีลักษณะแบบข ้ามว ัฒนธรรม (cross-cultural)
ที่ต้องอาศัยความใจกว้างยอมรับความแตกต่างให้มาก ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและอุปสรรค
ของความร่วมมือในแต่ละภูมิภาค ดังนั้นองค์การระหว่างประเทศจึงต้องมีการสร้างบรรทัดฐานของความสัมพันธ์
ในระดับสากลให้เกิดขึ้น มีหลายแนวคิดที่พยายามมองวิถีปฏิบัติในการจัดการผลประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่ายใน
ระดับสากล แนวคิดโลกาธรรมาภิบาล (Global governace) มองว่าเป็นมวลรวมของกิจกรรม กฎระเบียบ กลไก
ที่เกี่ยวข้องกับธรรมาภิบาลที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ โดยมีความหลากหลายของระดับต่างๆ ซึ่งสามารถ
ตัดแบ่งได้เป็นส่วนๆ ทั้งนี้ รัฐและตัวแสดงอื่นๆ ได้จัดกิจกรรมและการจัดการความร่วมมือดังกล่าวรวมเข้าได้
ด้วยก ัน เป็นโครงส ร้างห ลวมๆ ของก ารจัดการร ะเบียบในระดับรวมทั้งโลกไม่ว่าจ ะเป็นเชิงส ถาบันหรือเชิงบ รรทัดฐาน
ซึ่งจ ะไปส ร้างเงื่อนไขก ำหนดแ นวทางในก ารป ระพฤตปิ ฏิบัตขิ ึ้น67 อย่างไรก ็ตาม โลกาธ รร มาภบิ าลแ ตกต ่างจ ากอ งค์การ
ระหว่างป ระเทศร ะดับส ากลเนื่องจากป ัญหาเชิงน โยบายข องโลกาธ รร มาภบิ าลค รอบคลุมท ุกเรื่อง ไมไ่ดแ้ บ่งว ่าเป็นเรื่อง
เศรษฐกิจ สังคมหรือก ารเมืองไว้อ ย่างชัดเจน จึงไม่มีองค์กรใด้เข้าไปจัดการป ัญหาได้อย่างเหมาะส ม
นอกจากน ี้ ในศ ตวรรษท ี่ 21 ภัยค ุกคามท ีท่ ้าทายค วามม ัน่ คงม คี วามซ ับซ ้อนแ ละข นาดท ีก่ วา้ งใหญเ่ กินข อบเขต
ของภูมิภาคจะจัดการได้เพียงลำพัง เช่น ปัญหาการก่อการร้าย ปัญหาภาวะโลกร้อน ปัญหาเหล่านี้ต้องอาศัยความ
ร่วมมือและความรู้สึกร่วมกันในกรอบของความร่วมมือในองค์การระหว่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศจึงมี
ความส ำคัญต่อป ัญหาต่างๆ เหล่านี้ ถึงแ ม้ว่าบางครั้งองค์การฯ จะป ระสบกับปัญหาค วามย ุ่งยากต ่างๆ ในทางป ฏิบัติ
ก็ตาม องค์การจึงต ้องมีความยืดหยุ่นในก ารทำงานทั้งเชิงน โยบายและเชิงป ฏิบัติ ภารกิจข องอ งค์การระหว่างป ระเทศ
66 Edward BEST and Thomas CHRISTIANSEN, Regionalism in International Affairs, อ้างอิงใน ขจิต จิตตเสว ี อ้างแ ล้ว
หน้า 412
67 โลกาธรร มาภิบ าลไม่ใช่ “รัฐบาลโลก” หรือระเบียบข องโลก หรือกระบวนการในลักษณะ บน-ล่าง ที่ม ีโครงสร้างลำดับชั้นของอ ำนาจ
แต่อ ย่างใด องค์ป ระกอบมีหลายส่วนค ือ 1) กฎร ะเบียบหรือกฎหมายระหว่างป ระเทศ 2) ปทัสถาน (Soft Law) 3) โครงสร้างต ่างๆ เช่น องค์การ
ระหว่างป ระเทศ องค์การข ้ามช าติ ข้อต กลงเฉพาะก ิจ การป ระชุมร ะดับโลก 4) ระบอบก ฎเกณฑร์ ะหว่างป ระเทศ นอกจากน ีย้ ังม ี ธรร มาภบิ าลเอกชน
ซึ่งบ างค รั้งก ฎร ะเบียบม ีอ ิทธิพลต ่อก ารกร ะท ำข องร ัฐบาล ดูเพิ่มเติม Magaret P. KARNS and Karen A. MINGST, International Organiza-
tions: The Politics and Process of Global Governance ใน ขจิต จิตตเสวี เพิ่งอ้าง หน้า 414
ลิขสิทธิข์ องมหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธิราช