Page 233 - สังคมโลก
P. 233
องค์การร ะหว่างประเทศ 8-39
เรือ่ งท่ี 8.3.1
อุปสรรคข ององค์การร ะหวา่ งประเทศ
ในย คุ โลกาภ วิ ตั น ์ พฒั นาการข องค วามส มั พนั ธร์ ะหวา่ งป ระเทศในส งั คมโลกม กี ารเปลีย่ นแปลงไปอ ยา่ งร วดเรว็
และก ว้างขวาง จากความส ัมพันธ์ระหว่างรัฐก ับร ัฐเปลี่ยนไปส ู่ความสัมพันธ์ในลักษณะใหม่ท ี่ม ีต ัวแ สดงและเครือข ่าย
ใหม่ๆ ปรากฏ ข ึ้นม า การเมืองร ะหว่างป ระเทศต ้องต ระหนักถ ึงป รากฏก าร ณโ์ลกาภ วิ ัตน แ์ ละค วามร ู้สึกในก ารอ ยูร่ ่วมก ัน
ในโลก จากก ารเมืองร ะหว่างประเทศ (International relations) การเมืองโลก (world politics) และกลายเป็นการ
เมืองของทั้งโลก (global politics) มากขึ้น เนื่องจากมนุษย์อยู่ร่วมกันเสมือนกับเป็นเพื่อนบ้านกันทั้งโลก (global
neighbourhood)61 หรือเป็นค วามรับผิดชอบของค นทั่งโลกร ่วมกัน องค์การร ะหว่างป ระเทศในฐานะตัวแสดงห นึ่ง
ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศย่อมหลีกหนีบริบทดังกล่าวนี้ไปไม่ได้ ผลกระทบจากปรากฏการณ์ดังกล่าวย่อมส่ง
ผลกับองค์การร ะหว่างป ระเทศทั้งในท างบวกแ ละท างล บเช่นเดียวกัน
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา องค์การระหว่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับสากลต้อง
เผชิญก ับก ระแสข องค วามร ่วมม ือร ะหว่างป ระเทศร ูปแ บบใหมท่ ีท่ ้าทายก ระแสเดิมเพิ่มม ากข ึ้น กระแสภ ูมิภาคน ิยมเป็น
ความร ่วมม ือร ูปแ บบใหม่ท ี่ได้แ พร่ข ยายไปท ุกภ ูมิภาคท ั่วโลกซ ึ่งน ับว ่าเป็นป รากฏ ก ารณ์ค ู่ข นานท ี่เกิดข ึ้นก ับก ารป ฏิบัติ
ภารกิจขององค์การร ะหว่างป ระเทศในร ะดับส ากล ลักษณะค วามส ัมพันธ์เชิงส ถาบันม ีค วามเปลี่ยนแปลงไปและม ีม ิติ
ของความร ่วมม ือในด ้านต่างๆ เพิ่มม ากขึ้น
อุปสรรคขององค์การระหว่างประเทศกรณีตัวอย่างจากการปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ
คือการขาดเจตจำนงท างการเมืองแ ห่งรัฐ (political will of State) ซึ่งเป็นอ ุปสรรคที่สำคัญในการนำเอาระบบค วาม
มั่นคงร ่วมกันม าปฏิบัติใช้ รัฐต ่างล ังเลในก ารส ่งทหารไปร ่วมปฏิบัติการร ักษาก ับสหประชาชาติห ากร ัฐนั้นๆ ไม่ได้เป็น
ผู้บัญชาการเอง ดังกรณีตัวอย่าง สหรัฐอเมริกาปฏิเสธส่งกองกำลังไปช่วยปฏิบัติการรักษาสันติภาพภายใต้กอง
กำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ (United Nations Protection Force: UNPROFOR) ในยูโกสลาเวีย แต่
สหรัฐอเมริกาก ลับส ่งก องก ำลังเข้าไปในม าเซโดเนีย (Macedonia) เพื่อป ้องกันก ารแ ทรกแซงและบ ัญชาการกองก ำลัง
ด้วยตนเอง หลังจ ากป ี 2000 เป็นต้นมา สหประชาชาติต ้องประสบกับปัญหาก ารส นับสนุนการเงินที่ตกต่ำซ ึ่งส วนท าง
กับภารกิจท ี่เพิ่มม ากขึ้น รวมถึงภ ารกิจฟื้นฟูร ัฐห ลังจ ากสงคราม
ปัญหาการปฏิบัติการอันชอบธรรมของมาตรการการบีบบังคับเพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคง หาก
ปราศจากฉ นั ทาม ตขิ องค ณะม นตรคี วามม ัน่ คงท ัง้ 5 ประเทศ การท ำงานข องร ะบบค วามม ัน่ คงร ว่ มก นั ข องส หประชาชาติ
กด็ เู หมอื นจ ะไมเ่ ปน็ ผ ล การต ดั สนิ ใจเขา้ แ ทรกแซงในเรือ่ งใดน ัน้ จ ะไดร้ บั ก ารพ จิ ารณาอ ยา่ งร ะมดั ระวงั เชน่ สหประชาชาติ
เลือกที่จะไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างชัดเจนในกรณีพิพาทจีนกับทิเบตหรือปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับ
ปาเลสไตน์ ในท างต รงก นั ข า้ มส หประชาชาตกิ ลบั ล งโทษข ัน้ ร นุ แรงก บั อ ริ กั ก รณรี กุ รานค เู วตเมือ่ ป ี 1990 และส ถานการณ์
ความร ุนแรงในโซมาเลียเมื่อป ี 1992 แต่กลับเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ข องกองกำลังร ัสเซียบุก เชชเนีย (Chechnya) ในป ี
2000 เป็นต้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวจะเห็นความไม่เสมอภาคของมาตรการเข้าแทรกแซงและการใช้กำลังบีบบังคับ
ของสหประชาชาติที่มีต ่อนานาป ระเทศ ที่ใช้อ งค์การระหว่างประเทศเป็นเวทีข องก ารป กป้องผ ลป ระโยชน์ข องประเทศ
ตนเองอ ยู่
61 ขจิต จิตตเสรี อ้างแล้ว หน้า 399
ลขิ สทิ ธ์ขิ องมหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช