Page 80 - การจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์
P. 80
11-72 การจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์
5.5 ความคลาดโคง้ (field curvature) เป็นผ ลจ ากก ารท ีแ่ สงบ ริเวณข อบเลนสห์ ักเหไปต ัดก ันก ่อนถ ึง
ระนาบที่แ สงบ ริเวณก ลางเลนส์หักเหไปตัดกัน กล่าวค ือ จุดตัดของแสงจ ากบริเวณข อบเลนส์กับแสงบ ริเวณ
กลางเลนส์จ ะอยู่ต ่างร ะนาบก ัน แต่อยู่บนพ ื้นผ ิวโค้งเดียวกัน พื้นผิวโฟกัสภาพจึงไม่ใช่ร ะนาบแ ต่เป็นพื้นผิว
โค้ง ถ้าว ัตถุอ ยู่ไกลจากเลนส์มาก พื้นผ ิวโค้งน ี้ จะเป็นพ ื้นผิวโค้งพาราโบลอยด์ (พื้นผ ิวท ี่ได้จ ากก ารหมุนเส้น
โค้งพาราโบลา) การโฟกัสภ าพของเลนส์ท ี่ไม่มีความคลาดโค้งกับเลนส์ท ี่มีความคลาดโค้ง ดังภาพที่ 11.66
ระนาบของว ัตถุ ระนาบข องภาพ
เลนส์อุดมคติ (ไม่มีค วามคลาดโค้ง)
วัตถุ
ภาพ
เลนส์ที่ม ีความคลาดโค้ง
ภาพที่ 11.66 การโฟกสั ภ าพข องเลนสท์ ไ่ี มม่ ีความคลาดโค้งกบั เลนส์ทมี่ ีความคลาดโค้ง
ผลจ ากความคลาดโค้งของเลนส์ส ังเกตได้ง่ายจ ากภ าพบนฉ ากรับภาพที่ฉ ายจากเครื่องฉ ายภาพนิ่ง
คือ บริเวณขอบภาพจะไม่ช ัด เนื่องจากอ ยู่น อกระนาบโฟกัสภ าพของเลนส์ การแ ก้ไขทำได้ 2 วิธี วิธีแรกใช้
การเลื่อนฉากรับภาพเพื่อหาตำแหน่งที่ภาพชัดที่สุด อีกวิธีหนึ่งแก้ไขโดยนำเลนส์เว้าที่เหมาะสมมาประกบ
กับเลนส์นูนซ ึ่งจะช ่วยให้ได้ภ าพท ี่ดีข ึ้น
5.6 ความคลาดรงค์ เป็นความคลาดของเลนส์ที่เกิดขึ้นเมื่อแสงขาวหักเหผ่านเลนส์ที่ไม่ได้แก้
ความคลาดส ี โดยแ สงข าวจ ะก ระจายอ อกเป็นแ สงส ีต ่างๆ ซึ่งป ระกอบด ้วยแ สงส ีม ่วง สีน้ำเงิน สีเขียว สีเหลือง
สีแสด และแสงสีแดง เนื่องจากด ัชนีหักเหเปลี่ย นไปต ามค วามยาวคลื่นของแ สง แสงส ีต่างๆ เหล่าน ี้ จึงห ักเห
ผ่านเลนสไ์ปต ัดก ันค นละจ ุด ถา้ ว ตั ถอุ ยูไ่กลม าก รงั สแี สงจ ากว ัตถซุ ึง่ เป็นร ังสขี นานจ ะต ัดก ันบ นแ กนข องเลนส์
โดยแสงสีแดงจะตัดกันที่จุดที่ห่างจากเลนส์ม ากที่สุด แสงสีน้ำเงินจ ะตัดกันที่จุดที่ใกล้เลนส์มากที่สุด ส่วน
แสงสีเหลืองจะตัดกันที่จุดที่อยู่ระหว่างจุดตัดของแสงสีแดงกับจุดตัดของแสงสีน้ำเงิน เรียกว่า ความคลาด
รงคต์ ามแ นวแ กน (axial chromatic aberration) หรือ ความคลาดร งคต์ ามแ นวย าว (longitudinal chromatic
aberration) แต่ถ้าเป็นวัตถุที่มีลักษณะเป็นจุดซึ่งอยู่นอกแกนของเลนส์ แสงสีน้ำเงินจะตัดกันที่จุดที่อยู่สูง