Page 54 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 54
6-44 ความรทู้ างสงั คมศาสตร์และเทคโนโลยสี �ำ หรบั นักนเิ ทศศาสตร์
เปน็ เป้าหมายสำ� คัญของญปี่ นุ่ ด้วยเหตผุ ลหลายอย่าง เช่น แรงงานราคาถกู บรรยากาศในการลงทนุ และ
ความสัมพันธ์ทดี่ ีกับคนญี่ปุ่นในชว่ งสงครามโลกคร้ังทส่ี อง
ในช่วงทศวรรษที่ 2530 ไทยไดป้ ระโยชน์อยา่ งมากจากการขยายฐานโรงงานของญ่ีปนุ่ และการ
ผลติ สนิ คา้ เพอื่ สง่ ออก ไมว่ า่ จะเปน็ ชนิ้ สว่ นสนิ คา้ ทสี่ ง่ ไปประกอบยงั ตา่ งประเทศ หรอื ตวั สนิ คา้ ทเี่ สรจ็ สมบรู ณ์
แลว้ นอกจากนยี้ งั ไดป้ ระโยชนจ์ ากภาคบรกิ ารโดยเฉพาะการทอ่ งเทยี่ ว และรายไดจ้ ากแรงงานไทยในตา่ ง
ประเทศ ตวั เลขการเตบิ โตของ GDP ไทยอยู่ในระดับ “สูงมาก” ชว่ งต้นทศวรรษ (เติบโตระดบั เลขสอง
หลกั ระหวา่ ง พ.ศ. 2531-2533) ชว่ งปลายของทศวรรษ 2530 กลมุ่ ทุนไทยหน้าใหมๆ่ หลายรายสามารถ
สะสมความม่ังคั่งจากการด�ำเนินธุรกิจชนิดใหม่ๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ โทรคมนาคม การเงิน จนกลาย
เปน็ กลมุ่ ทนุ เอกชนขนาดใหญไ่ ด้ อยา่ งไรกต็ ามการเตบิ โตของเศรษฐกจิ ท่ีรอ้ นแรงในทศวรรษ 2530 กลับ
ควบคุมไมอ่ ย่แู ละเข้าสูภ่ าวะฟองสบูใ่ นช่วงสน้ิ ทศวรรษ ประเทศไทยตอ้ งยอมลอยตวั ค่าเงินบาท ใน พ.ศ.
2540 และกลายเป็นจุดเริม่ ต้นของ “วกิ ฤตการณต์ ้มย�ำกุ้ง” ท่แี พร่ระบาดไปทั่วเอเชยี
เมอ่ื ปี พ.ศ. 2540 มกี ารลอยตวั คา่ เงนิ บาท ทำ� ใหเ้ ศรษฐกจิ ไทยทก่ี เู้ งนิ จากตา่ งประเทศเพอ่ื ขยาย
กจิ การ มหี นเี้ พมิ่ ขนึ้ เปน็ จำ� นวนมหาศาล ทศิ ทางของภาคธรุ กจิ ไทยหลงั วกิ ฤตเศรษฐกจิ จงึ เปน็ การปรบั ตวั
เพ่ือแก้ไขปัญหาเหล่านี้ กลุ่มทุนไทยที่แข่งขันไม่ได้ต้องยอมขายกิจการให้ต่างชาติ ทุนไทยที่เคยเติบโต
อยา่ งกระจดั กระจายในยุคระหวา่ งปี พ.ศ. 2530-2540 เร่มิ ควบรวมกันเพือ่ ความอยู่รอด ในขณะเดยี วกัน
การลงทนุ ของทง้ั ภาครฐั และภาคเอกชนลดลงมากเพอ่ื ลดหนแ้ี ละหลกี เลยี่ งการใชจ้ า่ ยเงนิ เปน็ ปรมิ าณมากๆ
ซึ่งในระยะสั้นถือเป็นมาตรการที่มีประโยชน์ แต่ในระยะยาวจะท�ำให้โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจเร่ิม
ล้าสมัย การส่งออกหลังการลดค่าเงินบาทกลับย่ิงเด่นชัดขึ้น เพราะค่าเงินบาทท่ีอ่อนลงท�ำให้ราคาสินค้า
ไทยในตลาดตา่ งประเทศสามารถแขง่ ขนั ไดเ้ พม่ิ ขนึ้ โครงสรา้ งเศรษฐกจิ ทเ่ี นน้ การสง่ ออกในทศวรรษ 2530
จงึ เปลย่ี นมาเปน็ การพง่ึ พงิ การสง่ ออกอยา่ งสมบรู ณใ์ นทศวรรษนี้ สว่ นตลาดภายในประเทศกลบั ยงั ไมเ่ ตบิ โต
นัก เนอ่ื งจากประเทศไทยกดค่าแรงให้ต่�ำเพอื่ ประโยชนข์ องการสง่ ออก ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยหลังปี
2540 จนถงึ ปจั จบุ ัน คือการปรับตวั ของภาคธรุ กจิ ให้เขม้ แข็งข้นึ เศรษฐกจิ ไทยในยคุ นขี้ ับเคลอ่ื นโดยภาค
เอกชนเปน็ หลกั
หลังวิกฤตต้มย�ำกุ้งในปี พ.ศ. 2540 ประเทศไทยเร่ิมก้าวเป็นประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลาง
ประชาชนมรี ายได้ประชาชาตติ อ่ หวั (GNI per capita) เพ่มิ จาก 710 ดอลลาร์สหรฐั ใน ค.ศ. 1980 มา
เปน็ 4,150 ดอลลารส์ หรฐั ในปี ค.ศ. 2010 และมคี ณุ ภาพชวี ติ ทด่ี ขี นึ้ แตก่ ต็ อ้ งแลกมาดว้ ยทรพั ยากรธรรมชาติ
ทหี่ มดไป และสภาพแวดลอ้ มทเี่ สอ่ื มโทรม เกดิ ปญั หาชอ่ งวา่ งในการกระจายรายได้ และความไมเ่ ทา่ เทยี ม
กนั ของชนบทกบั เมอื ง เกดิ ปญั หาสงั คมตามมาอกี หลายประการ ในขณะเดยี วกนั เศรษฐกจิ ของไทยตอ้ งพง่ึ
พิงต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งเศรษฐกิจโลกเองก็มีความผันผวนอย่างหนัก ดังจะเห็นได้จากวิกฤตเศรษฐกิจ
โลกใน ค.ศ. 2008 ที่ยงั เรื้อรังและโครงสร้างเศรษฐกจิ ของประเทศไทยทีพ่ ัฒนาต่อเน่อื งมาถึงปจั จุบัน กย็ งั
ไมส่ ามารถกา้ วขา้ มการเปน็ ประเทศอตุ สาหกรรมแบบ “รบั จา้ งผลติ ” ทไ่ี มม่ เี ทคโนโลยรี ะดบั สงู มากนกั และ
อาศัยค่าแรงราคาถูกในภูมิภาคเป็นจุดเด่น ซึ่งจะท�ำให้เศรษฐกิจไทยก�ำลังจะติดกับดักของประเทศก�ำลัง
พฒั นา