Page 15 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 15
ความรู้ดา้ นวิทยาศาสตรแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม 9-5
เร่ืองที่ 9.1.1
ความหมาย ความส�ำคัญ และประเภทของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
วิทยาศาสตร์มีประโยชน์ต่อมนุษย์และมีบทบาทส�ำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ผลจากการศึกษา
ค้นคว้าทางวทิ ยาศาสตร์ ทำ� ให้ประเทศชาติมคี วามเจรญิ กา้ วหน้าในด้านต่างๆ มากมาย เช่น การแพทย์
การสอ่ื สารคมนาคม การเกษตร การอุตสาหกรรม และการกฬี า เปน็ ต้น การพฒั นาใหบ้ คุ คลมคี วามรู้ทาง
วิทยาศาสตร์จะมีผลโดยตรงต่อการพัฒนาตนเอง ชุมชนและสังคม การน�ำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์
ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ไปประยุกต์ใช้จะท�ำให้มีประโยชน์ต่อชีวิตประจ�ำวันและเป็นส่วนหนึ่งของ
การสร้างคุณภาพชีวิตท่ีดี ด้วยเหตุนี้ความรู้ความเข้าใจพ้ืนฐานต่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจึงมีความ
ส�ำคญั กบั ประชาชนทกุ คน
1. ความหมายของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
วทิ ยาศาสตร์ มาจากคำ� วา่ “Science” ในภาษาองั กฤษ แปลวา่ “ความรทู้ ว่ั ไป” ซงึ่ มคี วามหมาย
กว้างมาก ที่เป็นเช่นน้ี สุนันท์ บุราณรมย์ และคณะ (2542: 18-19) ให้เหตุผลว่า มนุษย์สมัยก่อนยังมี
ความรเู้ รอื่ งเกยี่ วกบั ธรรมชาตแิ ละปรากฏการณท์ างธรรมชาตนิ อ้ ย เมอ่ื มคี นทคี่ น้ พบสง่ิ ตา่ งๆ และสามารถ
อธิบายปรากฏการณ์ตา่ งๆ ได้ จงึ สรุปส่งิ ท่คี น้ พบเหล่าน้ีวา่ เปน็ วิทยาศาสตรท์ งั้ หมด ซึง่ ยงั ไม่ถกู ตอ้ ง ทว่า
ความหมายทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน หมายถึง ความรู้ท่ีแสดงหรือพิสูจน์ได้ว่าถูกต้อง เป็นความจริง
โดยความรดู้ งั กลา่ วไดม้ าจากธรรมชาติ เรมิ่ ตน้ จากการสงั เกต การตง้ั สมมตฐิ าน การทดลองอยา่ งมรี ะเบยี บ
แบบแผน แล้วจึงสรุปเป็นทฤษฎีและกฎ จากนั้นก็มีการน�ำทฤษฎีและกฎท่ีได้ไปใช้ศึกษาหาความรู้ต่อไป
อย่างไรก็ดี ทฤษฎีและกฎสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าหากมีการทดลองและค้นคว้าที่น�ำไปสู่ทฤษฎีและ
กฎใหม่ที่น�ำมาหักล้างได้ ซ่ึงอาจกล่าวได้ว่า วิทยาศาสตร์เป็นการค้นหาความรู้ใหม่ท่ีถูกต้องและเป็นจริง
อย่างไม่มที ่ีสนิ้ สดุ
ทงั้ นี้ วทิ ยาศาสตรเ์ ปน็ วชิ าทคี่ น้ หาความรจู้ ากธรรมชาติ โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ จาก
นิยามน้ี สามารถแยกความหมายของวิทยาศาสตร์ ออกเป็น 2 ส่วน คือ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ดังนี้
1) ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ (Scientific knowledge) เปน็ ความรทู้ ไี่ ดจ้ ากธรรมชาติ โดยผา่ นการ
แสวงหาความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์ เชน่ การหาขอ้ เทจ็ จรงิ การคดิ รวบยอด หลกั การ สมมตฐิ าน ทฤษฎี หรอื
กฎ เปน็ ตน้
2) กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (Scientific process) เปน็ กระบวนการทท่ี �ำใหน้ กั วทิ ยาศาสตร์
สามารถค้นคว้าหาความรู้จากธรรมชาติได้อย่างมีระบบและประสิทธิภาพ ประกอบด้วย วิธีการแสวงหา
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ (Scientific method) ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (Scientific skill)
และเจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ (Scientific attitude) (สุนนั ท์ บรุ าณรมย์ และคณะ, 2542: 19)