Page 17 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 17
ความรดู้ ้านวิทยาศาสตร์และสง่ิ แวดลอ้ ม 9-7
1) เทคโนโลยีในลักษณะของกระบวนการ (Process) เป็นการใช้อย่างมีระบบของวิธีการทาง
วทิ ยาศาสตร์หรือความรตู้ ่างๆ ท่ไี ด้รวบรวมไว้ เพื่อนำ� ไปสผู่ ลในทางปฏบิ ตั ิ โดยเชื่อวา่ เป็นกระบวนการท่ี
เชอ่ื ถือไดแ้ ละน�ำไปสูก่ ารแกป้ ัญหาต่างๆ
2) เทคโนโลยีในลักษณะของผลผลิต (Product) หมายถึง วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ท่ีเปน็ ผลมาจากการ
ใช้กระบวนการทางเทคโนโลยี
3) เทคโนโลยีในลักษณะผสมของกระบวนการผลิตและผลผลิต (Process and Product) เชน่
ระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ึงมีการทำ� งานเปน็ ปฏิสมั พนั ธ์ระหวา่ งเครื่องกบั โปรแกรม
นอกจากนี้ เทคโนโลยี ยังสามารถแบ่งเป็นเทคโนโลยีธรรมดา หรือเทคโนโลยีข้ันพื้นฐาน และ
เทคโนโลยชี น้ั สงู หรอื ทเี่ รยี กวา่ ไฮเทค (High-Technology) ซง่ึ เปน็ เทคโนโลยที ต่ี อ้ งใชว้ ชิ าความรรู้ ะดบั
สงู ตลอดจนผลวิเคราะหว์ ิจยั เข้ารว่ มอยา่ งมาก เช่น เทคโนโลยีโทรคมนาคม พลงั งานปรมาณู และรถไฟ
ความเรว็ สูง เป็นต้น ประเทศใดก็ตามทม่ี ีความเจรญิ กา้ วหน้าทางเทคโนโลยี ประเทศนั้นก็จะมคี วามเจริญ
ก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชนก็จะดีข้ึนตามไปด้วย (ปิยวรรณ แสงสว่าง และ
สพุ ณั ณี ชวนสนทิ , 2540: 21) เหน็ ไดช้ ดั ในกลมุ่ ประเทศพฒั นาแลว้ ไมว่ า่ จะเปน็ สหรฐั อเมรกิ า กลมุ่ สหภาพ
ยโุ รป หรอื ในฝง่ั เอเชยี อยา่ งญป่ี นุ่ หรอื สงิ คโปร์ ประเทศเหลา่ นไ้ี ดใ้ หค้ วามสำ� คญั กบั การสง่ เสรมิ และพฒั นา
เทคโนโลยใี นประเทศในรปู แบบของการวจิ ัยและพัฒนา (Research and development หรอื R&D) ได้
มกี ารคดิ ค้นและน�ำเทคโนโลยเี หลา่ นี้มาใชใ้ นการด�ำเนินชวี ิตหรือในภาคการผลิต เช่น มีการสรา้ งหุ่นยนต์
เพอ่ื มาทำ� งานแทนคนในภาคการผลติ หรอื การคดิ คน้ อปุ กรณช์ ว่ ยเหลอื คนแกท่ ไี่ มส่ ามารถชว่ ยเหลอื ตวั เอง
ได้ให้สามารถด�ำรงชวี ติ ได้อย่างสะดวกสบายมากย่ิงขน้ึ เปน็ ตน้
อย่างไรก็ดี การน�ำเทคโนโลยีมาใช้ในการตอบสนองความต้องการของมนุษย์น้ัน เปรียบเสมือน
กับดาบสองคม คือ หากนำ� มาใช้อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม เทคโนโลยีนน้ั กจ็ ะใหค้ ุณประโยชนน์ านัปการ
ทว่า หากน�ำมาใช้อย่างไม่ถูกต้องจะท�ำให้เกิดผลเสียตามมามากมายเช่นเดียวกันเช่น การสร้างโรงไฟฟ้า
นิวเคลียร์ เพ่ือตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าภายในประเทศท่ีเพิ่มสูงข้ึน โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ
อตุ สาหกรรมและเศรษฐกจิ ชนั้ นำ� ของโลก ไมว่ า่ จะเปน็ สหรฐั อเมรกิ า กลมุ่ ประเทศอยี ู ญปี่ นุ่ จนี เกาหลใี ต้
ซง่ึ ประเทศเหลา่ นที้ จ่ี ำ� เปน็ ตอ้ งแสวงหาพลงั งานจากแหลง่ ตา่ งๆ เพอื่ นำ� ใชข้ บั เคลอื่ นภาคการผลติ ในประเทศ
อีกทั้งการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยังช่วยมีต้นทุนการผลิตตํ่ากว่าแหล่งพลังงานไฟฟ้าอ่ืนๆ อย่างไรก็ดี
แมโ้ รงไฟฟา้ นวิ เคลยี รจ์ ะเปน็ ทนี่ ยิ มเพม่ิ มากขนึ้ ในหลายประเทศทวั่ โลก ทวา่ ผลกระทบทเี่ กดิ จากโรงไฟฟา้
นิวเคลียร์ซึ่งแต่ละประเทศจะต้องยอมแบกรับความเสี่ยงดังกล่าวก็มีมากเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น
โศกนาฏกรรมที่เกิดจากอุบัติเหตุจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ระเบิดของโรงไฟฟ้า
นิวเคลยี รเ์ ชอร์โนบลิ ในประเทศยูเครน (ซึ่งในอดีตเปน็ สว่ นหนึ่งของสหภาพโซเวยี ต) ในปี พ.ศ. 2529 ที่
ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจ�ำนวนมากและหลายคนก็ต้องเผชิญกับโรคร้ายซ่ึงเป็นผลมาจากการได้รับสาร
กัมมันตรังสีมาจนถึงปัจจุบัน หรือเหตุการณ์แผ่นดินไหวคร้ังใหญ่ในญ่ีปุ่นเม่ือปี 2554 ท�ำให้เตาปฏิกรณ์
นิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมาเกิดปัญหา เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนักให้กับ
ประชาชนเกยี่ วกบั หายนะของโรงไฟฟา้ นวิ เคลยี รแ์ ละกอ่ ใหเ้ กดิ กระแสเรยี กรอ้ งใหม้ กี ารยตุ กิ ารใชโ้ รงไฟฟา้
นวิ เคลียร์ข้นึ ในหลายประเทศอกี ด้วย