Page 21 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 21

ความรูด้ า้ นวิทยาศาสตร์และสง่ิ แวดลอ้ ม 9-11

4. 	 ประเภทของวิทยาศาสตร์

       วิทยาศาสตร์โดยท่ัวไปแบง่ ออกเป็น 2 สาขา คือ วทิ ยาศาสตรบ์ รสิ ุทธิ์ หรือวทิ ยาศาสตรพ์ นื้ ฐาน
และวทิ ยาศาสตรป์ ระยุกต์ (สุนันท์ บุราณรมย์ และคณะ, 2542: 19-20) ดังนี้

       4.1 	วิทยาศาสตร์บริสุทธ์ิ (Pure science) หรือวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (Basic science) คือ
ความรทู้ างวทิ ยาศาสตรท์ ปี่ ระกอบความจรงิ ความคดิ รวบยอด หลกั การ ทฤษฎี และกฎ ความรเู้ หลา่ นถี้ อื
เปน็ พน้ื ฐานของวทิ ยาศาสตรป์ ระยกุ ต์ วทิ ยาศาสตรบ์ รสิ ทุ ธหิ์ รอื วทิ ยาศาสตรพ์ น้ื ฐานนไ้ี ดแ้ ยกแขนงออกเปน็
หลากหลายสาขา เช่น

            1) 	วิทยาศาสตร์กายภาพ (Physical science) เปน็ วทิ ยาศาสตรท์ ศ่ี กึ ษาหาความรธู้ รรมชาติ
เกี่ยวกับสง่ิ ไม่มีชวี ิต เชน่ วิชาฟสิ กิ ส์ เคมี ธรณีวิทยา ดาราศาสตร์ เปน็ ต้น

            2) 	วิทยาศาสตร์ชีวภาพ (Biological science) เป็นวิทยาศาสตรท์ ่ีศึกษาหาความรเู้ ก่ียวกับ
ธรรมชาติและสิ่งมชี วี ติ เช่น วิชาพฤกษศาสตร์ และสตั วศาสตร์ เป็นต้น

            3) 	วิทยาศาสตร์สังคม (Social science) หรือสังคมศาสตร์ เป็นวิทยาศาสตร์ท่ีศึกษาหา
ความรู้เกี่ยวกับการจัดระบบให้มนุษย์มีการด�ำรงชีวิตอย่างเป็นระเบียบเพื่อความสงบสุขของสังคม เช่น
รัฐศาสตร์ จิตวิทยา หรอื วิชาการศกึ ษา เป็นตน้

       4.2 	วิทยาศาสตร์ประยุกต์ (Applied science) เป็นการนำ� เอาความรวู้ ทิ ยาศาสตรบ์ ริสุทธิ์ หรอื
วิทยาศาสตร์พื้นฐานมาปรับใช้ เพ่ือตอบสนองความต้องการของมนุษย์และพัฒนาสังคมต่อไป เช่น
วทิ ยาศาสตรก์ ารเกษตร วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ เป็นต้น

       อยา่ งไรก็ตาม นักวิชาการบางกลมุ่ ก็ได้มกี ารแบ่งวิทยาศาสตร์ ออกเปน็ 2 สาขา ซ่ึงประกอบไป
ดว้ ย วทิ ยาศาสตรธ์ รรมชาติ และวิทยาศาสตร์สงั คม หรือสงั คมศาสตร์

       1.	 วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ (Natural science) เป็นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่มุ่งอธิบายถึง
ความรใู้ นเรอ่ื งวตั ถทุ มี่ อี ยใู่ นธรรมชาติ ซงึ่ แบง่ ยอ่ ยออกเปน็ วทิ ยาศาสตรบ์ รสิ ทุ ธ์ิ และวทิ ยาศาสตรป์ ระยกุ ต์

       2.	 วิทยาศาสตร์สังคม หรือสังคมศาสตร์ (Social science) เป็นการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรม
มนุษย์ในสังคมที่ย่อมเป็นไปตามกฎเกณฑ์หรือเหตุผลมารองรับ เช่น วิชาสังคมวิทยา รัฐศาสตร์ หรือ
นิติศาสตร์ เปน็ ตน้ (ปยิ วรรณ แสงสว่าง และสุพณั ณี ชวนสนิท, 2540: 12-13)

       อาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า วิทยาศาสตร์แบ่งออกเป็น 2 สาขาหลักซ่ึงมีความเกี่ยวโยงกัน ได้แก่
(1) วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ คือความรู้ทางวิทยาศาสตร์ท่ีเป็นความจริง เป็นความรู้พ้ืนฐานที่น�ำไปสู่
(2) วิทยาศาสตร์ประยุกต์ ซ่ึงเป็นการน�ำเอาความรู้จากวิทยาศาสตร์พื้นฐานมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์
สูงสุด อย่างไรก็ดี ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มท่ีมองว่า การแบ่งประเภทของ
วทิ ยาศาสตรส์ ามารถแบ่งเป็น (1) วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ซ่ึงรวมวิทยาศาสตร์บริสุทธ์ิและวิทยาศาสตร์-
ประยุกตไ์ วใ้ นกล่มุ เดยี วกัน และ (2) วิทยาศาสตรส์ งั คม ซง่ึ เปน็ การศกึ ษาเกยี่ วกับพฤตกิ รรมมนษุ ย์อยา่ ง
เปน็ ระบบ และมเี หตมุ ีผล ซ่ึงเปน็ กระบวนคิดแบบเดยี วกับการศกึ ษาหาความรู้ทางวิทยาศาสตรธ์ รรมชาติ
ทั่วไป
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26