Page 21 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 21

ความร้ดู ้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร 11-11
สอื่ สารและนำ� มาปรบั ใชเ้ ปน็ วทิ ยายทุ ธใ์ นการบรหิ ารจดั การองคก์ ร วฒั นธรรมการโฆษณาและการโฆษณา
ชวนเช่อื ในยคุ นี้จงึ แอบแฝงและตามแบบของฮอลลวี ดู (Hollywoodian hidden propaganda) โดยมกี าร
แทรกซมึ เข้าไปสู่วิถแี ละวธิ ีการสื่อสารของมนุษย์ในสงั คมสมัยใหมใ่ นยุคต่อมา

            2) พฒั นาการในชว่ งแรกของทฤษฎกี ารสอื่ สารยคุ ปัจจบุ ัน มกี ารปฏริ ปู แนวคดิ และแนวทาง
ของการพฒั นาการสอื่ สารในสงั คมใหม่ โดยสงั คมใหมต่ อ้ งอาศยั สารสนเทศเปน็ ปจั จยั หลกั ของการสรา้ งและ
ธำ� รงพฒั นาสงั คม จงึ มคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งสรา้ งและพฒั นาระบบสารสนเทศ ทงั้ ในองคก์ รและในสงั คม การสรา้ ง
สังคมให้เปน็ ระบบสารสนเทศ ของซมิ อง โนรา และอะแลง แมงก์ (Simon Nora และ Alain Minc) ท่ี
เสนอต่อรัฐบาลฝรงั่ เศส ในปี 1978 องค์กรจงึ กลายเปน็ องค์กรสารสนเทศ (Information Organization)
ตัง้ แตน่ ้นั มา

       สงั คมกลายเปน็ สงั คมสารสนเทศ (Information Society) ตอ้ งอาศยั การสนบั สนนุ ทางเทคโนโลยี
จากระบบคอมพวิ เตอร์ ซงึ่ เปน็ ปจั จยั หลกั ของการสรา้ งระบบสารสนเทศ สหรฐั อเมรกิ า ยโุ รปตะวนั ตก และ
ญ่ปี นุ่ จึงเริม่ ตน้ วางแผนพฒั นาทางด้านน้ีมาอย่างตอ่ เนอ่ื งต้ังแตต่ ้นทศวรรษ 1980 แผนของประเทศญีป่ ุ่น
คือการด�ำเนนิ การพฒั นาเทคโนโลยีโดยบรรษทั โทรเลขและโทรศัพทแ์ หง่ ชาติ (NTT) ภายใต้ยุทธศาสตร์
15 ปี เพ่อื พฒั นาระบบเครือข่ายสารสนเทศ (Information Network System) และไดก้ ลายเป็นแม่แบบ
สำ� คญั สำ� หรบั สาธารณรฐั เกาหลี มาเลเซยี และประเทศกำ� ลงั พฒั นาอกี หลายประเทศ ทงั้ นม้ี จี ดุ มงุ่ หมายเพอ่ื
น�ำเทคโนโลยีของชาติมาสร้างสังคมสารสนเทศที่พง่ึ ตนเองได้

       ต่อมาภายหลังความหมายของค�ำ “สังคมสารสนเทศ” ได้ขยายครอบคลุมมาถึงค�ำว่า “สังคม
ความรู้” (Knowledge Society) และ “สังคมส่ือสาร” สังคมความรู้ หมายถึง สังคมสารสนเทศท่ีเน้น
สารสนเทศประเภทความรสู้ ำ� คญั กวา่ ประเภทอน่ื เพราะเชอ่ื วา่ ความรคู้ อื สารสนเทศทพ่ี สิ จู นส์ รปุ แลว้ วา่ เปน็
ความจรงิ และมีสาระพร้อมจะน�ำไปใช้เป็นประโยชนต์ อ่ ชวี ิตและสังคม สังคมสือ่ สาร คอื สังคมสารสนเทศ
ท่ีประชากรสว่ นใหญม่ เี ครือ่ งมอื สอ่ื สารหรอื เทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมทจ่ี ะสอ่ื สารกนั ได้อย่างรวดเร็วและ
กว้างขวาง อาณาบรเิ วณของการสอื่ สาร ครอบคลมุ ทกุ ทอ้ งถนิ่ ของสงั คม และสามารถขยายออกไปไดท้ ่วั
โลก ทฤษฎีโลกาภวิ ัตนถ์ ือกำ� เนดิ ขึน้ ในบทความเร่อื ง Globalization โดยเรม่ิ ตน้ ขึ้นในปี 1983 ถึงแมว้ ่า
กอ่ นหนา้ นน้ั ในชว่ งหลงั สงครามโลกคร้ังที่สองได้มีการใช้ค�ำนกี้ นั แล้วในทางด้านการเงนิ (financial glo-
balization) ซงึ่ มีความหมายถงึ การคา้ ข้ามพรมแดนในระบบการเงนิ ระหว่างประเทศ

       1.2 	ในช่วงที่สองของทฤษฎีการสื่อสารยุคปัจจุบัน (ทศวรรษท่ี 1990) ซึ่งเร่ิมตั้งแต่ประมาณ
กลางทศวรรษ 1990 มาถงึ ปี 2002 นบั วา่ เปน็ ชว่ งวกิ ฤตทางทฤษฎที สี่ �ำคญั มากอกี ครงั้ หนงึ่ ในประวตั ศิ าสตร์
ทฤษฎีการส่ือสาร ทงั้ นี้เพราะถึงแมโ้ ลกจะมีเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเฉพาะระบบอนิ เทอรเ์ น็ตที่สามารถ
ท�ำให้ทุกองค์กรและทุกสังคมติดต่อเช่ือมโยงกันได้ในอาณาจักรไซเบอร์ (Cyberspace) หรือโลกไซเบอร์
แตโ่ ลกภายใตก้ ารบรหิ ารจดั การขององคก์ รโลก หรอื สหประชาชาตกิ ย็ งั อยใู่ นสภาพไรร้ ะเบยี บและแตกแยก
จลาจลกนั จนถงึ ขนั้ ทำ� ศกึ สงครามกนั ในแตล่ ะภมู ภิ าค รายงานการศกึ ษาปญั หาการสอื่ สารของโลก โดยคณะ
กรรมาธกิ าร “แมค็ ไบรด์” ของยเู นสโก ได้พบมาตัง้ แตป่ ี ค.ศ. 1978 วา่ ในโลกหนงึ่ เดียวน้ีมหี ลายความคดิ
หลายความเชอ่ื หลายความเหน็ “Many Voices, One World” (ช่อื ของรายงานที่พมิ พเ์ ป็นหนงั สือในปี
ค.ศ. 1979) ในความเป็นจริงน�ำมาสู่ความรู้สึกขัดแย้งในเชิงทฤษฎี เข้าท�ำนอง “ส่ือยิ่งมาก การส่ือสาร
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26