Page 46 - สังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
P. 46
11-36 สังคมและวัฒนธรรมอาเซยี น
แรก (1962–1971) การลงทนุ ของรฐั บาลขยายตวั มากขนึ้ หลายสบิ เทา่ ตวั แตผ่ ลผลติ จากการลงทนุ ดงั กลา่ ว
หาได้เป็นสัดส่วนอันน่าพอใจไม่ อัตราความเติบโตและผลผลิตนั้นไม่ทันกับอัตราการเพ่ิมของประชากร
ธุรกจิ ภาคเอกชนซงึ่ ถกู จ�ำกดั และควบคมุ โดยรฐั จงึ เติบโตไมท่ นั กบั ภาครัฐบาล ผลผลติ ของทกุ ภาคในชว่ ง
สบิ ปตี กลงไปกวา่ ครงึ่ หนง่ึ ของแผนทวี่ างไว้ เหตแุ หง่ ความตกตา่ํ ทางเศรษฐกจิ ประการหนง่ึ ซง่ึ สำ� คญั ยงิ่ คอื
การกำ� หนดความเรง่ ดว่ นทผี่ ดิ พลาด กลา่ วคอื แทนทพ่ี มา่ ซง่ึ เปน็ ประเทศเกษตรกรรมจะมงุ่ เนน้ การพฒั นา
เศรษฐกจิ ดา้ นการเกษตรกอ่ นกลบั หนั มาเนน้ การพฒั นาอตุ สาหกรรมหนกั ผลกระทบสำ� คญั ประการหนง่ึ คอื
ความตกตา่ํ ในการผลิตขา้ วเพื่อส่งออก ประกอบกับปญั หาการขาดแคลนข้าวภายในประเทศจนเกิดจลาจล
ในปี 1967 ข้าวเป็นสินค้าออกท่ีส�ำคัญของพม่า เม่ือข้าวเกิดขาดแคลนและการส่งออกท�ำได้น้อย ก็ท�ำให้
พม่าได้เงินตราต่างประเทศเข้ามาน้อย กลางปี 1971 พม่ามีเงินตราต่างประเทศส�ำรองอยู่เพียง 50 ล้าน
ดอลลาร์สหรัฐ ผลคือ เศรษฐกจิ พม่าตกต่าํ ลงอยา่ งมาก62
รัฐบาลทหารยุคสังคมนิยมได้ยอมรับความผิดพลาด และได้พิจารณานโยบายเศรษฐกิจใหม่โดย
ออกเปน็ นโยบายเศรษฐกจิ ระยะยาวและระยะสน้ั ของพรรคโครงการสงั คมนยิ ม แผนระยะยาวกำ� หนดกรอบ
ที่ 20 ปี (1971–1991) โดยแบ่งช่วงของโครงการออกเป็น 5 ช่วงๆ ละ 4 ปี เริ่มตั้งแต่ช่วงแผนท่ี 1 ปี
1971–1974 และช่วงท่ี 5 ซ่ึงในเวลาน้นั คาดว่าจะส้นิ สุดลงในปี 1988–1991 แผนพัฒนาฯใหม่น้เี ปลยี่ นจาก
เดิมที่มุ่งมั่นจะเปล่ียนประเทศให้เป็นประเทศอุตสาหกรรมโดยเร็วมาเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มต้น
มุ่งพัฒนาการเกษตร การประมง การปา่ ไม้ และการท�ำเหมืองแร่ ซง่ึ เปน็ ทรัพยากรทมี่ ีอยา่ งอุดมสมบูรณ์
ในพม่า การพัฒนาอุตสาหกรรมเน้นท่ีอุตสาหกรรมการเกษตร การเปลี่ยนแปลงท่ีส�ำคัญคือ การเปล่ียน
ความคิดจากความพยายามทจ่ี ะพงึ่ ตนเองทางเศรษฐกจิ มายอมรับความช่วยเหลอื จากตา่ งชาติมากข้นึ
รัฐบาลทหารชุดใหม่ที่ท�ำการรัฐประหารและยึดอ�ำนาจการบริหารประเทศภายใต้การน�ำของสภา
ฟน้ื ฟกู ฎและระเบยี บแหง่ รฐั หรอื สลอรก์ จากการปราบปรามประชาชนผปู้ ระทว้ งอยา่ งรนุ แรงในกลางปี 1988
นนั้ ทำ� ใหป้ ระเทศตา่ งๆ โดยเฉพาะประเทศในกลมุ่ สหภาพยโุ รป และสหรฐั อเมรกิ าไดท้ ำ� การประทว้ งรฐั บาล
พมา่ และระงบั การใหค้ วามชว่ ยเหลอื แกพ่ มา่ ทกุ ประเภท ยกเวน้ ความชว่ ยเหลอื ดา้ นมนษุ ยธรรม ภาวะทาง
เศรษฐกิจของพม่าจึงย่ิงตกตํ่าลงไปกว่าเดิมอีก รัฐบาลสลอร์กพยายามแก้ปัญหาด้วยการยกเลิกกฎหมาย
ท่ีเคยควบคุมการค้าของเอกชนและสหกรณ์ที่ไม่ให้ท�ำการค้าเสรี และได้มีการประกาศชักชวนให้บริษัท
เอกชนตา่ งชาตเิ ข้ามาลงทุนไดอ้ ยา่ งเสรี โดยใหค้ �ำม่นั สัญญาหลายประการ เพ่ือใหน้ กั ลงทนุ ม่นั ใจวา่ พม่า
จะไม่กลับมาใช้แนวทางสังคมนยิ มแบบเดมิ อีก เดอื นมีนาคม 1989 รฐั บาลสลอรก์ ได้ประกาศยกเลกิ ระบบ
เศรษฐกจิ แบบสงั คมนยิ ม ซง่ึ ใชม้ าตงั้ แตป่ ี 1962 และออกระเบยี บทางเศรษฐกจิ ของประเทศใหม่
แม้วา่ กิจการทีส่ ำ� คัญและเปน็ แหลง่ รายไดห้ ลักจะยังถกู ควบคมุ โดยรัฐ เช่น การค้าไม้ การส�ำรวจ
ขุดเจาะหาน้ํามัน อัญมณี การส่ือสาร และการธนาคาร ฯลฯ แต่เอกชนภายในประเทศก็มีอิสระในการ
ประกอบการค้าและด�ำเนินธุรกิจมากขึ้น โดยเศรษฐกิจพม่าในปัจจุบันได้กลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจท่ี
เจริญเติบโตรวดเร็วมากที่สุด และเป็นหน่ึงในเศรษฐกิจเกิดใหม่อันทรงพลังในอนาคตของภูมิภาคเอเชีย
ตะวนั ออกเฉยี งใต6้ 3
62 เรอ่ื งเดยี วกนั . น. 32, 39 -43.
63 Itai Zehorai. “The Rebirth of Burma”, Forbes. January 9, 2015. Available from: www.forbes.com/sites/
forbesinternational/2015/01/09/th-rebirth-of-Burma/ สบื คน้ เมือ่ 27 กันยายน 2558.