Page 45 - สังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
P. 45

สาธารณรฐั แหง่ สหภาพเมยี นมา 11-35

เรื่องที่ 11.2.3
เศรษฐกิจ

       ปจั จบุ นั ประเทศพมา่ มคี วามเปลยี่ นแปลงทางดา้ นเศรษฐกจิ การคา้ การเงนิ และการธนาคารอยา่ งสงู
ภายหลังจากการท่ีรัฐบาลพม่าเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากระบอบทหารสู่ระบอบประชาธิปไตย
และดำ� เนินการปฏริ ูป เศรษฐกิจสูก่ ลไกตลาดเสรีและระบบทุนนิยม ธนาคารโลกระบวุ า่ พมา่ เปน็ พรมแดน
สดุ ทา้ ยทางเศรษฐกจิ ของเอเชยี ท่รี อคอยการบกุ เบิกของนักลงทุนจากท่ัวโลก ด้วยความอุดมสมบรู ณ์ของ
ทรัพยากรธรรมชาติ แรงงาน และพลวตั ร การเปล่ียนแปลงทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองท่ีมีข้ึนหลัง
การเลอื กตัง้ ทัว่ ประเทศเมอ่ื ปี 2010 ท�ำใหน้ านาประเทศสนใจท่ีจะเขา้ ไปท�ำการค้าและบุกเบิกการลงทนุ ใน
พมา่ กนั มากยง่ิ ขนึ้ 61

       การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจคร้ังใหญ่ของพม่าเกิดขึ้นเม่ือนายพลเนวินท�ำรัฐประหาร
น�ำกองทัพเข้ายึดอ�ำนาจจากรัฐบาลพลเรือน และโดยเฉพาะอย่างย่ิงเมื่อสภาปฏิวัติประกาศใช้ “นโยบาย
สังคมนิยมวิถีพมา่ ” ในปี 1962 นโยบายนป้ี ระกอบด้วย หลักการพนื้ ฐานรวม 21 ประการ ที่มเี ป้าหมาย
การสร้างเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมหรือนัยหนึ่งเศรษฐกิจท่ีมีการวางแผน และมีการพัฒนาในการผลิต
ท้ังมวลอย่างเป็นสัดส่วน โดยมุ่งที่จะก�ำจัดการที่มนุษย์จะเอาเปรียบซ่ึงกันและกันด้วยการสร้างสังคมใหม่
ให้รุ่งเรืองย่ิงข้ึน เพ่ือให้เป็นไปตามนโยบายสังคมนิยมวิถีพม่า โดยเฉพาะการมีระบบเศรษฐกิจแบบ
สังคมนยิ ม ซง่ึ รฐั บาลทหารในขณะนน้ั พิจารณาวา่ เป็นเครอ่ื งมือในการแก้ไขสภาพเศรษฐกิจของประเทศที่
ตกอยใู่ นมือของชาวต่างชาติ และชาวพมา่ เชอ้ื สายอนิ เดยี และจนี สภาปฏวิ ัติได้ดำ� เนินนโยบายโอนกจิ การ
การคา้ ตา่ งๆ มาเปน็ ของรฐั สภาปฏวิ ตั ไิ ดว้ างระบบเศรษฐกจิ ทร่ี ฐั เปน็ ผคู้ วบคมุ ทำ� นองเดยี วกบั ทเ่ี คยใชก้ บั
ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศตา่ งๆ ในยโุ รปตะวนั ออก กจิ การขนาดใหญข่ องตา่ งชาตริ วมถงึ ธนาคารพาณชิ ย์
ทั้งภายในและต่างประเทศถูกโอนเป็นของรัฐ รัฐออกกฎหมายควบคุมรัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
ทั้งหมด ส่วนธุรกิจค้าปลีกท้ังสินค้าน�ำเข้าและสินค้าภายในประเทศตกอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์กรที่
รฐั จดั ตง้ั ขน้ึ ใหมท่ ม่ี ชี อื่ เรยี กวา่ องคก์ รรา้ นคา้ ของประชาชน (People’s Stores Corporation) ขณะเดยี วกนั
รฐั บาลทหารได้จดั ตง้ั รัฐวสิ าหกจิ ที่มีชือ่ ว่า สถาบันบรกิ ารทหาร (The Defense Services Institute) เมอ่ื
เดือนตุลาคม ปี 1963 สถาบันนี้มีหน้าที่เก่ียวข้องกับการค้าและธุรกิจหลายอย่างครอบคลุมต้ังแต่บริษัท
เรือและโรงแรมไปจนถึงการขายกะปิ ซึ่งเปน็ อาหารหลักอยา่ งหนงึ่ ของชาวพม่า

       ในช่วงสิบปีแรกรัฐบาลทหารสมัยสังคมนิยมให้ความส�ำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยการสร้าง
อุตสาหกรรมหนักเป็นนโยบายหลัก และอุตสาหกรรมก็ต้องให้เป็นอุตสาหกรรมของชนช้ันกรรมาชีพตาม
แนวทางสงั คมนยิ ม การระดมเงนิ ทุนชว่ งแรกทมุ่ เทให้แก่อตุ สาหกรรมหนักถงึ 1 พันลา้ นจา๊ ต ในชว่ งสิบปี

	 61 “การทำ�ธรุ กิจในพมา่ : โอกาสและความหมาย 1” กอง บก.ฐานเศรษฐกจิ . คอลัมน์ เศรษฐกจิ โลก. ฐานเศรษฐกิจ วันท่ี
23 มีนาคม 2012. Available from: www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=11385:1&ca
tid=90:2009-02-08-11-24-34&Itemid=425#.VYu6Gfmqqko สบื คน้ เม่ือ 27 กันยายน 2558.
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50