Page 157 - โครงการผลิตหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เพื่อการเรียนรู้สู่ประชาคมอาเซียน
P. 157
โครงการบริการวิชาการแก่สังคมโดยงบประมาณแผ่นดิน ประจำ�ปี 2559 6-3
6.2 ประวัตคิ วามเปน็ มา
ประเทศเมียนมาร์ หรือช่ือเรียกอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์
(The Republic of the Union of Myanmar) ซึ่งเป็นช่ือที่เปลี่ยนใหม่ตามรัฐธรรมนูญ ฉบับปี ค.ศ.2008
(พ.ศ.2551) จากเดิมชื่อสหภาพเมียนมาร์ (The Union of Myanmar) สาหรับช่ือเรียกภาษาไทยโดยทั่วไป
อยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการมกั เรยี กสน้ั ๆ ว่าเมียนมาร์ (Myanmar) พม่า (Burma)
สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์เป็นประเทศลาดับที่ 9 ท่ีเป็นสมาชิกอาเซียนหรือสมาคม
ประชาชาตแิ หง่ เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ (Association of Southeast Asian Nations – ASEAN) โดยเข้าร่วม
เป็นสมาชิก เม่ือวันท่ี 23 กรกฎาคม 2540 มีเมืองหลวงใหม่ช่ือ เนปิดอว์ (Nya Pyi Daw) แปลว่า นครหลวงใหม่
ซง่ึ ยา้ ยมาจากเมืองยา่ งกุ้งเม่ือ พ.ศ. 2548 เนปิดอว์มีพืน้ ท่กี วา้ งขวางมากประมาณ 7,000 ตารางกิโลเมตรหรือ
ใหญ่กว่าเกาะสิงคโปร์ 10 เท่า มีการวางผังเมืองเป็น 4 โซนหลัก ได้แก่ โซนราชการ (Ministry Zone) โซน
โรงแรม (Hotel Zone) โซนอุตสาหกรรม (Industry Zone) และ โซนทหาร (Military Zone) เมอื งหลวงใหม่
นี้ตั้งอยู่ตรงกึ่งกลางของประเทศอยู่ระหว่างย่างกุ้งกับมัณฑะเลย์ โดยห่างจากย่างกุ้งเมืองหลวงเดิมไปทาง
ทศิ เหนอื ประมาณ 350 กิโลเมตร (อ้างอิง ศูนย์อาเซียน สภาอตุ สาหกรรมแห่งประเทศไทย www.fact.fti.or.th/th)
ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ซ่ึงแต่เดิมนิยมเรียกว่าพม่า
มีประวตั ศิ าสตร์ความเป็นมาท่ียาวนานและมีการชว่ งชิงอานาจที่จะครอบครองพื้นทด่ี ินแดนนี้กนั อย่างมากมาย
เน่ืองจากพื้นท่ีนีม้ ีอาณาเขตกว้างขวางติดต่อพรมแดนกับหลายประเทศและมีชนเผ่าชาติพนั ธหุ์ ลายเผ่ามาอยู่ใน
ดินแดนแห่งน้ี ถือเป็นปัจจัยหน่ึงท่ีมีส่วนทาให้เมียนมาร์ประสบปัญหาความขัดแย้งและปัญหาชนกลุ่มน้อย
สาหรับประวัติความเป็นมาชนเผ่าเร่ิมแรกเก่าแก่ ได้แก่ มอญและพยู โดยมอญได้อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ใน
ดินแดนแห่งนี้ก่อนพุทธกาล และได้สถาปนาอาณาจักรสุวรรณภูมิข้ึน ประมาณพุทธศตวรรษท่ี 2 บริเวณใกล้
เมืองท่าตอน (Thaton) ซึง่ มอญไดร้ บั อทิ ธิพลของศาสนาพทุ ธผ่านทางอินเดีย และมอญไดเ้ ข้าครอบครองและมี
อิทธิพลในดินแดนตอนใต้ของเมียนมาร์ประมาณพุทธศตวรรษท่ี 4 สาหรับชนเผ่าปยูหรือพยูเข้ามาสถาปนา
นครรฐั ตา่ งๆ ขน้ึ หลายแหง่ แต่นครรฐั ที่มีอิทธิพลมากทีส่ ดุ ได้แก่ศรีเกษตร (Sri Kshetra) ซง่ึ อยู่ทางฝง่ั ตะวันตก
ของแม่น้าอิระวดี ขณะที่มอญได้ต้ังอาณาจักรของตนที่บริเวณพม่าตอนล่าง ท้ังสองอาณาจักรได้รับวัฒนธรรม
และพุทธนิกายเถรวทามาจากอินเดีย ประมาณสองศตวรรษถัดมาชนเผ่าพม่าได้ตั้งอาณาจักรพุกามขึ้นบนฝั่ง
ตะวันออกของแม่น้าอิระวดีในพม่าตอนบน อาณาจักรพุกามรุ่งเรืองข้ึนในพุทธศตวรรษท่ี 16 เข้ามายึดครอง
อาณาจักรมอญท่ีเมืองสะเทิมแต่ใน พ.ศ. 1826 เผ่ามองโกล ท่ีปกครองยูนนานได้เข้ามารุกรานและยึดครอง
อาณาจกั รพกุ ามไว้ได้ อาณาจกั รพุกามได้ล่มสลาย ดนิ แดนทัง้ หมดแตกแยกออกเป็นแคว้นต่างๆ และอยู่ภายใต้
การยึดครองของมองโกลในระยะหน่ึง จากนนั้ เผา่ ไทยฉานไดเ้ ขา้ มามบี ทบาททางตอนกลางของประเทศ
หลังจากการล่มสลายของอาณาจักรพุกาม ชนเผ่าพม่าได้แตกแยกออกจากกันอีกคร้ัง
ราชวงศ์อังวะซึ่งได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากอาณาจักรพุกามได้ถูกสถาปนาข้ึนท่ีเมืองอังวะใน พ.ศ. 1907
ศิลปะและวรรณกรรมของพุกามได้ถูกฟนื้ ฟจู นยุคนี้กลายเปน็ ยุคทองแห่งวรรณกรรมของพม่า แตเ่ มืองอังวะถูก
เผ่าไทใหญ่เข้าครอบครองได้ในปี พ.ศ. 2070 สาหรับดินแดนทางใต้ เผ่ามอญได้สถาปนาอาณาจักรขึ้นใหม่อีก
3