Page 54 - ประวัติศาสตร์ไทย
P. 54
2-44 ประวัติศาสตร์ไทย
ของประเทศไทยในปัจจบุ นั ได้ทัง้ หมด คอื ต้งั แตเ่ ขตชายฝ่ังตะวนั ตกในเขตจงั หวดั ภูเก็ต กระบ่ี และพังงา
จนถึงชายฝั่งด้านทิศตะวันออก53 หลังจากนั้นพวกโจฬะหรือพวกทมิฬได้ใช้เมืองนครศรีธรรมราชเป็น
ศูนย์กลางการปกครอง ซึ่งปัจจุบันได้พบหลักฐานท่ีเป็นโบราณสถานของพวกทมิฬกระจายอยู่ท่ัวไปใน
บรเิ วณดังกล่าว
แคว้นนครศรีธรรมราช
แคว้นน้ีสันนิษฐานว่า เป็นแคว้นท่ีพัฒนามาจากแคว้นตามพรลิงค์ โดยประมาณพุทธศตวรรษที่
18 แควน้ นครศรธี รรมราชทเี่ คยตกอยภู่ ายใตก้ ารปกครองของพวกโจฬะหรอื พวกทมฬิ กไ็ ดถ้ กู ราชวงศศ์ รธี รรมา-
โศกราช หรือราชวงศ์ปัทมวงศ์เข้าปกครองแคว้นนครศรีธรรมราชแทน และจากศิลาจารึก ต�ำนาน
พงศาวดารต่างๆ ของภาคใต้ ทำ� ให้ทราบวา่ ในช่วงนีก้ ษตั ริยข์ องแคว้นนครศรธี รรมราชจะทรงพระนามวา่
ศรธี รรมาโศกราช และจนั ทรภาณุ เปน็ การแสดงใหเ้ หน็ วา่ กษตั รยิ ข์ องราชวงศป์ ทั มวงศใ์ นชว่ งนท้ี รงพระเกยี รติ
ดุจพระเจ้าอโศกมหาราช แห่งอินเดีย โดยพระนามของกษัตริย์มักมาจากรากศัพท์ว่า “ศรี + ธรรมะ +
อโศกะ + ราชะ”
ตำ� นานพระธาตนุ ครศรธี รรมราชไดร้ ะบใุ หท้ ราบถงึ เขตแดนเมอื งนครศรธี รรมราชไวอ้ ยา่ งชดั เจนวา่
น่าจะอยู่ในเขตจงั หวัดประจวบครี ีขันธ์ ประกอบดว้ ยเมืองต่างๆ 12 เมือง เรยี กวา่ เมอื ง 12 นกั ษตั ร ไดแ้ ก่
เมืองปัตตานี เมืองกลนั ตัน เมอื งปะหงั เมอื งไทรบรุ ี เมืองพทั ลุง เมอื งตรงั เมืองชุมพร เมอื งบันทายสมอ
เมืองสะอเุ ลา เมอื งตะกั่วป่า และเมืองกระ เว้นอยเู่ พยี งเมอื งเดยี ว คือ เมอื งสงิ หปุระ หรือเมอื งสงิ คโปร์
ดา้ นวฒั นธรรม แควน้ นครศรธี รรมราชเปน็ ศนู ยก์ ลางของระบบความเชอื่ ตา่ งๆ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่
ความเช่ือในศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดู และความเช่ือในพทุ ธศาสนานกิ ายมหายาน และนิกายหินยาน ซึ่งได้
แพรเ่ ขา้ มาในช่วงพุทธศตวรรษท่ี 11-14 โดยภายในขอบเขตของแคว้นนครศรีธรรมราชไดพ้ บโบราณวตั ถุ
และโบราณสถานของลทั ธคิ วามเชอ่ื ตา่ งๆ ปะปนกนั อยู่ เชน่ ประตกิ รรมรปู พระโพธสิ ตั วอ์ วโลกเิ ตศวร เปน็
พระโพธสิ ตั วอ์ งคส์ ำ� คญั ของพทุ ธศาสนานกิ ายมหายาน พบทน่ี ครศรธี รรมราช และพบรปู เคารพตา่ งๆ ของ
พุทธศาสนานิกายมหายาน นอกจากนี้ยังสันนิษฐานได้ว่า พุทธศาสนาเข้าสู่แผ่นดินสยามโบราณโดยใช้
นครศรธี รรมราชเปน็ ศนู ยก์ ลางรบั พทุ ธศาสนามาจากลงั กา โดยหลกั ฐานจากศลิ าจารกึ หลกั ที่ 1 ของสโุ ขทยั
ยงั ไดก้ ลา่ วใหเ้ หน็ ว่า พระสงฆจ์ ากนครศรีธรรมราชไดเ้ ผยแพรพ่ ุทธศาสนาไปยงั แคว้นสุโขทยั ซงึ่ หลกั ฐาน
ท่ีเห็นไดช้ ัดถงึ การรบั พทุ ธศาสนาลัทธิลงั กาวงศ์ของสโุ ขทยั จากแควน้ นครศรธี รรมราช คอื พระพทุ ธสิหงิ ค์
ซง่ึ เปน็ พระพทุ ธรปู ทพี่ ระเจา้ ศรธี รรมโศกราช แหง่ แควน้ นครศรธี รรมราชไดน้ ำ� มาจากประเทศลงั กา จากนนั้
จึงได้น�ำไปถวายกษัตริย์แห่งอาณาจักรสุโขทัย เป็นการแสดงถึงการรับพุทธศาสนานิกายเถรวาทมาจาก
ลังกา ปัจจุบนั พระพทุ ธรูปองคน์ ีป้ ระดิษฐานอยู่ท่พี ระท่ีนัง่ พทุ ไธสวรรย์ พพิ ธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติพระนคร
กรงุ เทพมหานคร นอกจากนที้ สี่ ำ� คญั ยงั ไดม้ กี ารบรู ณะพระบรมธาตุ วดั พระมหาธาตุ เพอื่ เปน็ ศนู ยร์ วมความ
เลอื่ มใสศรทั ธาของประชาชน โดยในสมยั พระเจา้ จนั ทรภาณุ ไดท้ รงสรา้ งเปน็ เจดยี ท์ รงลงั กาครอบองคเ์ จดยี ์
เดมิ แบบศรีวิชยั ไวภ้ ายใน
53 พเิ ศษ เจียจันทรพ์ งษ์. เร่ืองเดยี วกัน. น. 191.