Page 18 - สังคมมนุษย์
P. 18

3-8 สงั คมมนษุ ย์
       3) ชุมชน (Community) คือ องค์การสังคมประเภทที่มีที่ตั้งเป็นหลักแหล่งอยู่แห่งใดแห่งหน่ึง

เช่น ชุมชนบางขุนเทียน ท่าพระจันทร์ สามย่านและชุมชนจะมีขนาดต่างกัน บางแห่งเป็นหมู่บ้าน
(Village) บางแห่งเป็นเมอื ง (City)

       4) ชนช้ัน (Social Class) เป็นองคก์ ารสังคมประเภทระบบการจดั คนออกเปน็ ชว่ งชั้น (Stratra)
โดยอาศยั เกณฑส์ ถานภาพทางเศรษฐกจิ -สงั คม (Social-Economic Status) แตล่ ะสงั คมอาจจดั คนเปน็
ช่วงชั้นกว้างๆ เป็น 3 ช่วงช้ัน คือ ชั้นสูง กลาง ล่าง (Higher Middle and Lower Class) แต่ละ
ชว่ งช้ันจะมแี บบชวี ิต (Life Style) เช่น เรอื นชาน การศึกษา อาชพี และโอกาสชวี ติ (Life Chance)
เช่น โอกาสท่จี ะได้รับการศกึ ษาสูงโอกาสทีจ่ ะไดท้ ำ� งานดี มรี ายไดส้ งู ฯลฯ

       ระบบชนชน้ั (Class System) เปน็ ระบบทม่ี อี ยใู่ นสงั คมสมยั ใหมเ่ ปน็ ระบบเปดิ (Open System)
ในแง่ที่ว่าในช่วงชีวติ คนสามารถเปล่ียนชนชนั้ ของตนได้ เช่น จากท่ีเคยอย่ใู นชนชนั้ ต่าํ (Lower Class)
อาจขยับมาเป็นชนช้ันกลางได้ เพราะมีการศึกษาดีข้ึนร่ํารวยข้ึน ในทางกลับกันคนที่เคยอยู่ในชนชั้นสูง
(Higher Class) อาจกลายเป็นชนชัน้ ลา่ งไดเ้ พราะสนิ้ เนอื้ ประดาตัว หรือล้มละลาย

       5) สหจร (Association) คือ องค์กรสังคมที่ได้รับการจัดตั้งมาโดยจงใจ เพื่อให้ปฏิบัติหน้าท่ี
อย่างใดอย่างหน่ึงหรือหลายอย่าง เช่น บริษัท ห้างร้าน สมาคม สโมสร กองทัพ โรงงานอุตสาหกรรม
สหกรณ์ กระทรวง ทบวง กรม วิทยาลัย มหาวทิ ยาลัย โรงเรยี น

       ในทำ� นองเดยี วกนั ในการศกึ ษาดา้ นวฒั นธรรมกอ็ าศยั สงั กปั โครงสรา้ งสงั คม ดงั นน้ั การศกึ ษาดา้ น
วฒั นธรรมกค็ อื การศึกษาสถาบนั สงั คม (Social Institution)

       สถาบนั ทางสังคม มขี ึ้นเพอื่ สนองความตอ้ งการเบอื้ งตน้ ของมนษุ ย์ สถาบนั เป็นองค์กรที่มกี ารจดั
ระเบยี บ มีกระบวนการ กฎเกณฑ์ นโยบาย ซงึ่ ท�ำใหค้ นในสงั คมเกดิ ความพอใจและสนองความตอ้ งการ
ในระยะยาวนาน สถาบนั เกิดข้นึ โดยความสมั พนั ธอ์ ย่างถาวรในวัฒนธรรมและโครงสรา้ งสงั คม

       สถาบันจะเช่ือมโยงกับชีวิตประจ�ำวัน และช่วยขจัดปัญหาต่างๆ ในชีวิต พฤติกรรมเหล่าน้ีจะได้
รบั การถา่ ยทอดจากคนรนุ่ หนง่ึ สคู่ นอกี รนุ่ หนง่ึ ไมม่ วี นั สนิ้ สดุ สถาบนั จะมลี กั ษณะทต่ี า่ งไปจากกลมุ่ (Group)
เพราะสถาบนั จะมวี ิธีการด�ำเนนิ งาน มคี วามเช่ือซ่ึงเป็นเหตผุ ลในการดำ� รงอยู่

       เพอื่ ใหเ้ ขา้ ใจเกยี่ วกบั สถาบนั ไดช้ ดั เจนยงิ่ ขน้ึ จงึ จะขอกลา่ วถงึ ความหมายของคำ� วา่ สถาบนั ดงั นี้
       สถาบัน (Institution) ความหมายตามศัพท์ (ทัศนีย์ ทองสวา่ ง, 2549, น. 73) มีความหมายว่า
“กอ่ ตง้ั ” อธบิ ายไดว้ า่ มนษุ ยเ์ ปน็ ผกู้ อ่ สรา้ งระเบยี บประเพณตี า่ งๆ ขน้ึ มาจากผลแหง่ การปฏบิ ตั ใิ นสงั คม ซงึ่
สมาชกิ ส่วนใหญใ่ นสงั คมยอมรับนับถือและปฏบิ ตั ิ
       สถาบัน (th.wikipedia.org/wiki. สบื ค้นเมอื่ 18 พฤศจิกายน 2557) หมายถงึ สงิ่ ที่คนในส่วน
รวมคอื สงั คมจดั ตงั้ ใหม้ ขี น้ึ เพราะเหน็ ประโยชนว์ า่ มคี วามตอ้ งการและจำ� เปน็ แกว่ ถิ ชี วี ติ ของคน เชน่ สถาบนั
ครอบครัว สถาบนั ศาสนา สถาบนั การศกึ ษา ฯลฯ
       สถาบัน ตาม Dictionary of Modern Sociology (Hoult, 1972, น. 165-166) ได้ให้
ความหมายไวว้ า่ เป็นกระบวนการหรอื การรวมกล่มุ ในลกั ษณะต่างๆ ดงั น้ี

            (1) มกี ารจดั ระเบยี บอยา่ งดี เชน่ มกี ารกำ� หนดบทบาทความสมั พนั ธข์ องผทู้ มี่ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ ง
            (2) มีระบบ เชน่ มีการก�ำหนดว่าผ้มู สี ่วนเกีย่ วข้องจะตอ้ งทำ� อย่างไร
            (3) มเี สถียรภาพหรือมคี วามมัน่ คง
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23