Page 20 - สังคมมนุษย์
P. 20
3-10 สังคมมนษุ ย์
อย่างนอ้ ย 4 ประการคอื 1) เปน็ แบบแผนที่ปฏิบตั เิ ปน็ ท่ยี อมรบั กนั โดยทวั่ ไป 2) เป็นมาตรฐานของสงั คม
ในการปฏบิ ตั ิ 3) เพ่อื แกป้ ญั หาพ้ืนฐานของสงั คม 4) มีหน้าทท่ี ่ที ำ� ใหส้ ังคมคงสภาพอยู่
เมื่อสถาบนั สงั คมคือแบบแผนพฤตกิ รรม หรอื แบบของการคดิ การกระท�ำในเรื่องต่างๆ ที่สำ� คญั ที่
สงั คมจะตอ้ งจดั การหรอื ท�ำหนา้ ทเ่ี พอ่ื การคงอยขู่ องสงั คม แตล่ ะสงั คมมกั จะมอี ยใู่ นสถาบนั สงั คมไมเ่ ทา่ กนั
ขน้ึ กับระดบั เทคโนโลยขี องสงั คม เชน่ สงั คมด้อยพฒั นาหรือก�ำลงั พัฒนาเป็นสังคมทมี่ รี ะดบั เทคโนโลยใี น
ระดับปานกลาง โดยท่วั ไปสังคมต่างๆ จะมสี ถาบนั พน้ื ฐานที่ส�ำคัญอยู่ 5 สถาบัน คอื สถาบนั ครอบครวั
สถาบันการเมือง สถาบันเศรษฐกิจ สถาบันการศึกษา และสถาบันศาสนา ส่วนสังคมท่ีพัฒนาแล้วหรือ
สังคมอุตสาหกรรมจะมีสถาบันสังคมจ�ำนวนมาก ส�ำหรับในหน่วยนี้สถาบันสังคมจะมี 10 สถาบัน ได้แก่
ครอบครวั การศกึ ษา ศาสนา เศรษฐกจิ การเมอื งการปกครอง นนั ทนาการ อนามยั ภาษาและการสอื่ สาร
คมนาคม การขนสง่ และวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สว่ นรายละเอยี ดจะไดก้ ลา่ วถงึ ตอ่ ไปในหวั เรอ่ื ง 3.1.3
ประเภทสถาบันสังคม และสถาบันทีส่ �ำคญั ของสังคมไทย
2. ก�ำเนิดของสถาบันสังคม
สถาบันเกิดข้ึนจากการที่มนุษย์สร้างข้ึนมาเพื่อแก้ปัญหาและสนองตอบความต้องการ ดังท่ีนัก
สังคมวิทยาได้กล่าวถึงเร่ืองนี้ในท�ำนองเดียวกัน เช่น วิลเลียม จี ซัมเนอร์ (William G. Summer)
(Sumne, อ้างถึงใน ณรงค์ เสง็ ประชา, 2537, น. 108) กล่าวว่าสถาบันเกดิ ข้ึนเพ่ือสนองความตอ้ งการใน
ผลประโยชนท์ จ่ี �ำเป็นของมนุษย์ ส่วนเลสเตอร์ เอฟ วารค์ (Lester F. Ward) (Ward อา้ งถึงใน ณรงค์
เสง็ ประชา, 2537, น. 108) เชอื่ มน่ั วา่ ความตอ้ งการของสงั คมทำ� ใหเ้ กดิ สถาบนั ขน้ึ ในระยะแรกๆ บรรทดั ฐาน
ต่างๆ ในการกระท�ำกิจกรรมร่วมกันจะไม่ยุ่งยากซับซ้อนจะมีแนวทางปฏิบัติเท่าท่ีจ�ำเป็นแต่ต่อๆ มา
เม่ือมนุษย์มีประสบการณ์มากขึ้นสามารถพัฒนาวัฒนธรรมให้ดีข้ึน ประกอบกับการที่ประชากรมนุษย์มี
จ�ำนวนเพิ่มมากข้ึน จึงได้มีการก�ำหนดระเบียบปฏิบัติภาระกิจท่ีจะกระท�ำเพื่อสนองความต้องการร่วมกัน
เพือ่ ใหเ้ กดิ ผลดีไมก่ อ่ ให้เกดิ ปญั หาต่างๆ ขึน้ ในการอย่รู ว่ มกนั
ส่วนความต้องการในผลประโยชน์ที่จ�ำเป็นของมนุษย์ซ่ึงก่อให้เกิดสถาบัน เช่น ความต้องการ
ทางเพศ การท่ีจะอยู่รอดและการขจัดความกลัว ท�ำให้มนุษย์พยายามท�ำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซ่ึงความ
ตอ้ งการนนั้ มนษุ ยก์ จ็ ะหาวธิ กี ารเพอื่ บ�ำบดั ความตอ้ งการจากประสบการณท์ เ่ี กดิ จากการทดลองกอ่ ใหเ้ กดิ
ประโยชน์หรืออาจประสบความล้มเหลว แต่ในท่ีสุดมนุษย์ก็จะได้บรรทัดฐานท่ีจะน�ำมาใช้เพื่อบ�ำบัดความ
ตอ้ งการทางเพศได้ จงึ ท�ำให้เกิดสถาบนั ครอบครวั ขนึ้
สถาบนั สงั คมอาจจะเกิดขึ้นในสังคม ถา้ สังคมนนั้ มภี าระหนา้ ทีม่ ากขึน้ และสถาบันสังคมต่างๆ ท่ี
มีอยู่ไม่สามารถรับภาระหน้าและท�ำให้เกิดผลดีได้ สังคมอาจก�ำหนดให้มีสถาบันใหม่ข้ึนมาท�ำหน้าที่น้ันๆ
เช่น เม่ือผู้คนมีความต้องการพักผ่อนหย่อนใจ การออกก�ำลังกายผ่อนคลายความเครียดทางอารมณ์
จึงท�ำใหเ้ กิดสถาบันนันทนาการข้ึน
ดังน้ัน สถาบันสังคมจึงเกิดข้ึนจากปัจจัยสังคม 2 ประการคือ (มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราช
วทิ ยาลยั , 2551, น. 85-86)