Page 20 - สังคมมนุษย์
P. 20

4-10 สังคมมนษุ ย์
            3.1 	ทฤษฎีภาวะแปลกแยก (Alienation Theory) คำ� ว่า “Alienation” หมายถึง ความ

รสู้ กึ ของบคุ คลในลักษณะทีต่ นเปน็ ผู้แปลกแยกตนเองจากบุคคลอ่นื ทีอ่ ยใู่ นสังคมน้ัน
            ทฤษฎนี จี้ งึ เปน็ การอธบิ ายพฤตกิ รรมเบย่ี งเบนวา่ เกดิ จากการทบี่ คุ คลมคี วามรสู้ กึ แปลกแยก

จากสังคมท่ีตนเปน็ สมาชกิ อยู่
            โดยปกตคิ นเรายอ่ มมคี วามรสู้ กึ วา่ ตนเองเปน็ สว่ นหนงึ่ ของสงั คม ไดร้ บั การยอมรบั จากสงั คม

แตก่ อ็ าจมบี างคนทแี่ ยกตวั เองออกจากสงั คม หรอื ตอ่ ตา้ นบรรทดั ฐานและคา่ นยิ มของสงั คม บคุ คลทแี่ ปลก
แยกออกจากสังคมจึงขาดเป้าหมายและค่านิยมในชีวิต มีความรู้สึกโดยเด่ียวไม่มีคนสนใจและเข้าใจ
ปรากฏการณน์ ที้ ำ� ใหเ้ กดิ ความหมดหวงั วติ กกงั วลตอ่ สงั คม อยา่ งไรกต็ าม ผทู้ อี่ ยใู่ นภาวะแปลกแยกนอี้ าจ
แสดงพฤติกรรมต่างๆ ที่ต่อต้านบรรทดั ฐานของสงั คม เช่น ติดสุรา ตดิ ยาเสพตดิ หรอื หนคี วามวติ กกงั วล
ผทู้ มี่ ปี ญั หาทางอารมณห์ รอื จติ ใจกเ็ ปน็ ผทู้ มี่ ภี าวะแปลกแยกเหมอื นกนั เพราะตอ้ งการแยกตวั เองออกจาก
ผอู้ นื่

            3.2 	ทฤษฎีไร้บรรทัดฐาน (Anomie Theory) ทฤษฎีนี้ อธิบายพฤติกรรมเบ่ยี งเบนวา่ เกดิ
จากสภาพสงั คมทตี่ กอยใู่ นสภาพทสี่ บั สน เนอ่ื งจากบรรทดั ฐานตา่ งๆ ขาดประสทิ ธภิ าพ ไมส่ ามารถควบคมุ
สมาชิกในสังคมให้ปฏิบัติตามได้ เป็นสภาพท่ีบุคคลไม่ยึดถือบรรทัดฐานของสังคมในการประพฤติปฏิบัติ
มกั เกิดขึ้นในสังคมที่กำ� ลังเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเรว็ เพราะบุคคลจะปรับตัวไมท่ นั กบั สภาพที่เปล่ยี นแปลง
ไป เกดิ ความสับสนไม่แน่ใจกบั บรรทดั ฐานทางสงั คม ไม่รวู้ ่าจะปฏบิ ัติตนอยา่ งไรดีจึงจะเหมาะสม กรณีที่
เหน็ ไดช้ ดั เจนทส่ี ดุ กค็ อื เมอ่ื เกดิ ภยั พบิ ตั ติ า่ งๆ ทำ� ใหค้ นในสงั คมละเลยหรอื ไมย่ ดึ ถอื บรรทดั ฐานของสงั คม
เหน็ ได้ชดั กรณีน�้ำท่วมประเทศไทย เมือ่ ปี พ.ศ. 2554 ส่งผลให้ประชาชนคนไทยมีพฤตกิ รรมท่ีเบยี่ งเบน
ไปจากบรรทดั ฐาน เพอ่ื ใหช้ วี ติ และทรพั ยส์ นิ รอดพน้ จากนำ�้ ทว่ ม เชน่ การนำ� รถยนตส์ ว่ นตวั ขนึ้ ไปจอดบน
ทางด่วน

            หรือกรณีเกิดวกิ ฤตเศรษฐกจิ ปี พ.ศ. 2540 ส่งผลกระทบตอ่ ประชาชนคนไทย ท�ำให้สถติ ิ
การฆ่าตัวตายเพ่มิ สงู ข้ึนในช่วงดงั กลา่ ว

            3.3 	ทฤษฎีตีตรา (Labeling Theory) ทฤษฎนี เ้ี ปน็ ทฤษฎที ม่ี งุ่ อธบิ ายกระบวนการทบี่ คุ คล
กลายเป็นผู้ท่ีมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนมากกว่าท่ีจะอธิบายถึงสาเหตุของพฤติกรรมเบ่ียงเบน การที่บุคคลจะ
รบั รวู้ า่ ตนเปน็ ผทู้ ม่ี พี ฤตกิ รรมเบย่ี งเบนหรอื ไมน่ นั้ จะตอ้ งผา่ นกระบวนการทสี่ งั คมตตี ราหรอื ประทบั ตราแก่
บคุ คลน้ันว่า เป็นผ้ทู มี่ ีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น สังคมมักจะตีตรา หรอื คาดวา่ บคุ คลท่ีชอบด่ืมสุรา มกั จะ
เป็นคนไม่ดี แตใ่ นความเปน็ จริงพฤตกิ รรมดา้ นอน่ื ของบคุ คลเหล่านี้อาจจะเปน็ คนดีกไ็ ด้

            การท่ีบุคคลใดได้รับการตีตราหรือประทับตราว่ามีพฤติกรรมเบ่ียงเบน บางคนอาจยอมรับ
ว่าเป็นการเบี่ยงเบนจริง แต่ถ้าหากคนคนนั้นไม่ยอมรับอาจแสดงออกโดยการหนีออกจากสังคมนั้นไปอยู่
สังคมอ่ืน หรอื ฆ่าตวั ตาย

            ส่วนสาเหตุของภาวะไร้ระเบียบหรือการเสียระเบียบของสังคม นั้น (พัทยา สายหู, 2544,
น. 195-203) ได้แก่

                 1)	ความไม่รู้ไมเ่ ขา้ ใจ
                 2)	ความเกยี จคร้าน
   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25