Page 53 - ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสื่อมวลชน
P. 53

สอ่ื ส่ิงพมิ พ์ 3-43
ต้องหยุดชะงักลงเมื่อมีการผลัดแผ่นดินใหม่เป็นพระเพทราชา ซ่ึงไม่โปรดพวกมิชชันนารีเป็นเหตุให้
พฒั นาการเกี่ยวกบั การพิมพใ์ นชว่ งนน้ั ตอ้ งหยดุ ชะงัก (กมล ฉายาวัฒนะ, 2545)

       จนกระทงั่ สมยั รชั กาลที่ 3 หมอบรดั เลยไ์ ดน้ ำ� เอาแทน่ พมิ พแ์ ละตวั พมิ พจ์ ากสงิ คโปรเ์ ขา้ มากรงุ เทพ
เม่ือ พ.ศ. 2378 และในปถี ัดมาก็ไดพ้ มิ พ์หนงั สอื เลม่ แรกขน้ึ คอื บัญญัติสิบประการ ซึ่งเปน็ หนงั สือเผยแผ่
ศาสนาครสิ ตจ์ �ำนวน 1,000 ฉบบั จน พ.ศ. 2382 รชั กาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ใหจ้ ้างพิมพ์ “ประกาศหา้ มสบู
ฝ่ิน” จ�ำนวน 9,000 ฉบบั นับไดว้ ่าเปน็ เอกสารทางราชการของไทยชิ้นแรกท่ไี ดจ้ ัดพมิ พ์ขน้ึ

       พ.ศ. 2387 หมอบรดั เลยอ์ อกหนงั สอื พมิ พร์ ายเดอื นฉบบั แรกในเมอื งไทยชอ่ื “บางกอกรคี อรเ์ ดอร”์
(Bangkok Recorder) ซงึ่ ขณะนั้นเรยี กวา่ “หนงั สือจดหมายเหตฯุ ” ออกเดอื นละสองครัง้ ท�ำไดป้ ีเดียวก็
เลิกกิจการ มาออกใหมอ่ ีกคร้ังใน พ.ศ. 2407 ในรัชสมัยรัชกาลที่ 4

       ในชว่ งเวลาดงั กลา่ วน้ี หมอบรดั เลยไ์ ดห้ ารายไดพ้ เิ ศษโดยการพมิ พห์ นงั สอื ขาย หนงั สอื ทจี่ ดั พมิ พ์
ในช่วงน้ีมีหลายประเภทท้งั ตำ� ราเรียนภาษาไทย เช่น ประถม ก กา จินดามณี หนงั สือกฎหมาย รวมทง้ั
วรรณคดตี ่างๆ เช่น ราชาธิราช สามกก๊ เลยี ดกก๊ ไซฮ่ นั่ เปน็ ต้น รวมทัง้ มีการซื้อลขิ สทิ ธห์ิ นังสือเพ่ือมา
จัดพิมพ์วางจ�ำหน่ายเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยใน พ.ศ. 2404 หมอบรัดเลย์ได้ซื้อลิขสิทธิ์หนังสือ
นิราศลอนดอน ท่ีเขยี นโดยหมอ่ มราโชทยั (หม่อมราชวงศ์กระต่าย อศิ รางกูร) เปน็ เงิน 400 บาท ท�ำให้
หนังสือเล่มดังกล่าวเป็นหนังสือเล่มแรกของไทยที่มีการซื้อขายลิขสิทธิ์ตามแบบอย่างตะวันตก (กมล
ฉายาวฒั นะ, 2545)

       การพิมพ์หนังสือเล่มของไทยพัฒนาการมาเป็นล�ำดับจนกลายเป็นอุตสาหกรรมการพิมพ์เต็ม
รปู แบบ มสี ำ� นกั พมิ พเ์ กดิ ขน้ึ มากมาย กลา่ วไดว้ า่ ธรุ กจิ หนงั สอื เลม่ เตบิ โตเพม่ิ ขนึ้ มาโดยตลอด จนเมอ่ื สงั คม
ไทยกา้ วสโู่ ลกอนิ เทอรเ์ นต็ และสอ่ื ออนไลน์ ซงึ่ สง่ ผลกระทบตอ่ ธรุ กจิ สอื่ สงิ่ พมิ พท์ กุ ประเภท กลา่ วคอื จำ� นวน
จำ� หนา่ ยลดลง เนอื่ งจากกลุ่มผ้อู ่านหันไปเปดิ รับข้อมูลเนอื้ หาต่างๆ จากสือ่ ออนไลน์มากขึน้ เน่อื งจากไม่
ตอ้ งเสียคา่ ใช้จา่ ย ท�ำใหธ้ รุ กจิ หนังสอื เลม่ ได้รับผลกระทบดว้ ย รา้ นหนงั สอื ซึ่งเป็นช่องทางการจดั จ�ำหน่าย
หนงั สอื เลม่ โดยตรงตา่ งปดิ กจิ การไปจำ� นวนมาก รา้ นหนงั สอื ทเ่ี หลอื ตา่ งกล็ ดขนาดพนื้ ทจี่ ดั วางหนงั สอื และ
มกี ารนำ� สนิ คา้ อนื่ ๆ เขา้ มาเสรมิ เพม่ิ ขน้ึ ปรากฏการณด์ งั กลา่ วยง่ิ ท�ำใหส้ ำ� นกั พมิ พซ์ งึ่ เปน็ ผผู้ ลติ หนงั สอื เลม่
ต้องปรับตัวหาทางออกเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด โดยหันไปเปิดช่องทางจ�ำหน่ายหนังสือผ่านส่ือออนไลน์หรือ
ผลิตสิ่งพมิ พ์ในรปู แบบอ-ี บุก๊

       จากแถลงการณส์ มาคมผจู้ ดั พมิ พแ์ ละผจู้ �ำหนา่ ยหนงั สอื แหง่ ประเทศไทย ซง่ึ ใหข้ อ้ มลู ธรุ กจิ หนงั สอื
ปี 2560 ระบวุ า่ จากจ�ำนวนสมาชิกมากกวา่ 500 ส�ำนักพิมพ์น้นั พบวา่ ยอดขายหนังสอื เล่มฉบบั พมิ พ์
ลดลง ขณะที่ยอดขายฉบับอี-บุ๊กเพิ่มขึ้น (แต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยส่วนท่ีหายไปของตลาดโรงพิมพ์ได้)
พร้อมกันนั้น มีนักเขียนช่ือดังที่มีฐานผู้อ่านของตนเอง ต่างออกมาเขียนเองและตีพิมพ์เองโดยไม่ผ่าน
ส�ำนักพิมพ์อกี ตอ่ ไป

       สว่ นพฤตกิ รรมการซอ้ื ของผูอ้ า่ น พบว่า ค่าเฉลย่ี การซื้อลดลง กลา่ วคือจากเดิมทเี่ คยซื้อหนังสือ
คร้ังละหลายเล่ม มาเป็นเลือกซ้ือในจ�ำนวนท่ีน้อยลง ซึ่งช่องทางการซ้ือยังคงเป็นร้านหนังสือร้อยละ 47
ซื้อในงานหนงั สอื ร้อยละ 35 สัง่ ซือ้ ทางส่ือออนไลนร์ ้อยละ 15 และซื้ออ-ี บุ๊กร้อยละ 3
   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58