Page 72 - การวิจัยทางการวัดและประเมินผลการศึกษา
P. 72
9-62 การวิจัยทางการวัดและประเมินผลการศึกษา
ตาราง (ต่อ)
ข้อที่ ภาวะผนู้ ำ�การเปล่ยี นแปลง มากท่ี มาก ปาน น้อย น้อย
สุด กลาง ทสี่ ดุ
3. ผู้บริหารสนับสนุน ส่งเสริมให้ครูใช้เหตุผลในการ *0
แก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างสันติวิธี
4. ผู้บริหารพยายามหามุมมองและทางเลือกต่าง ๆ 0*
ในการแก้ปัญหา
5. ผูบ้ รหิ ารชว่ ยใหค้ รมู องปญั หาในหลายแงม่ มุ เพือ่ ใหค้ ดิ *0
แก้ปัญหาได้อย่างรอบคอบ
จากตัวอย่าง 9.16 พบว่าผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นในข้อที่ 5 ตรงกับค่ามัธยฐาน ส่วนข้อที่ 1, 2, 3
เหน็ ไมต่ รงคา่ มธั ยฐาน แตอ่ ยูใ่ นสว่ นเบีย่ งเบนควอไทล์ สว่ นขอ้ ที่ 4 เหน็ ตา่ งจากผูเ้ ชีย่ วชาญอืน่ ๆ ในขอ้ นีห้ าก
ผู้เชี่ยวชาญยืนยันคำ�ตอบเดิม จะแสดงความคิดเห็นและให้เหตุผลประกอบว่าเป็นเพราะเหตุผลใด เหตุผล
ดังกล่าวจะมีประโยชน์สำ�หรับนักวิจัยอย่างยิ่ง เพื่อเป็นข้อยืนยันคำ�ตอบต่อไป
การหารปู รา่ งของการกระจายตวั ของขอ้ มลู ทีเ่ ปน็ เสน้ โคง้ ไดแ้ ก่ หาโคง้ ปกติ ความเบ้ และความโดง่
1. รูปร่างของโค้งปกติ การแจกแจงโค้งปกติ เป็นการแจกแจงข้อมูลชนิดต่อเน่ือง บางคร้ังเรียกว่า
กาเซียนส์ ดิสตริบิวชัน (Guassian Distribution) ซึ่ง Guass ได้ทำ�การศึกษาไว้เมื่อ ค.ศ. 1777 จาก
ความคลาดเคลื่อนของการวัดซํ้า ๆ ในกลุ่มเดิมพบว่าผลการแจกแจงเป็นโค้งปกติ มีคุณสมบัติดังนี้
คุณสมบัติของโค้งปกติ
1) มีลักษณะเป็นโค้งรูประฆังควํ่า ความสูงของโค้งขึ้นอยู่กับลักษณะความแปรปรวน
(variance) ถ้าความแปรปรวนน้อย โค้งจะสูงมาก ถ้าความแปรปรวนมาก โค้งจะสูงน้อย
2) เป็นโค้งรูปสมมาตร (symmetry) เมื่อแบ่งครึ่งลักษณะทางซ้ายและขวาจะเหมือนกัน
3) จุดของคะแนนเฉลี่ยมัธยฐานและฐานนิยมอยู่จุดเดียวกัน
4) โค้งสูงสุดมีเพียงจุดเดียว (unimodal)
5) ปลายโค้งไม่จรดกับฐาน และไม่มีขอบบนและล่าง -∞ ≤ x ≤ ∞
6) พื้นที่ใต้โค้งจะเปลี่ยนตามค่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจุดที่ s ≠ 1 เป็นจุดเปลี่ยน
แนวโน้มของโค้ง
7) พื้นที่ใต้โค้ง ± 1σ = 68.26%
± 2σ = 95.44%
± 3σ = 99.74%