Page 32 - ไทยศึกษา
P. 32

๑๓-22 ไทยศึกษา

เร่ืองที่ ๑๓.๒.๒
การรับเทคโนโลยีตะวันตก

       ในประเทศตะวนั ตก ความรทู้ เ่ี กดิ ขนึ้ จากความเจรญิ ทางวทิ ยาศาสตรใ์ นครสิ ตศ์ ตวรรษที่ ๑๗ ไดแ้ ก่
กลศาสตร์ ดาราศาสตร์ แม่เหลก็ ไฟฟ้า กายวิภาคศาสตร์ เคมี และชวี วทิ ยา มีการทดลองดว้ ยเครือ่ งมือ
เกดิ ขนึ้ มากมาย นำ� ไปสกู่ ารประดษิ ฐส์ งิ่ ของเครอ่ื งใชต้ า่ งๆ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การนำ� เทคโนโลยเี ครอ่ื งจกั ร
ไอน�ำ้ มาใช้ ซึ่งเปน็ เทคโนโลยสี �ำคัญในศตวรรษต่อมา

       การค้นคว้าและการสร้างเคร่ืองจักรกลอุตสาหกรรมเร่ิมต้นในอุตสาหกรรมทอผ้าในอังกฤษแล้ว
ขยายตัวอยา่ งรวดเร็วในราวกลาง-ปลายครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี ๑๘ อันเนอื่ งมาจากการคน้ พบความรู้ใหม่ๆ ใน
แวดวงวทิ ยาศาสตร์ มกี ารคน้ ควา้ ทดลองและปรบั ปรงุ เครอื่ งมอื วทิ ยาศาสตรอ์ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง ทำ� ใหย้ โุ รปและ
อเมริกาพัฒนาด้านอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว ผลิตสินค้าได้มากขึ้น จนมีปริมาณมากเกินความต้องการ
ภายในประเทศ จ�ำเป็นต้องแสวงหาตลาดเพ่ือระบายสินค้า เป็นเหตุให้เกิดการแข่งขันขยายอิทธิพลใน
ภมู ิภาคต่างๆ ท่ัวโลก

       การเข้ามาของชาติตะวันตกในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นจึงมีจุดมุ่งหมายส�ำคัญในการขอเจรจา
ทางการคา้ พรอ้ มกบั ขยายอทิ ธพิ ลทางการเมอื งครอบงำ� ประเทศตา่ งๆ ในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้
ราชสำ� นกั ไทยตระหนกั ดถี งึ การกดดนั ทางเศรษฐกจิ และการเมอื งระหวา่ งประเทศจากตะวนั ตก ขณะเดยี วกนั
ก็เล็งเห็นประโยชน์ของการเรียนร้วู ทิ ยาการสมัยใหม่ด้วย

       ในอกี ดา้ นหนงึ่ ประเทศตะวนั ตกทงั้ ยโุ รปและอเมรกิ ากม็ แี นวคดิ ในการเผยแพรศ่ าสนาครสิ ตน์ กิ าย
โปรแตสแตนท์ ผลกั ดนั ใหค้ นหนมุ่ สาวชาวตะวนั ตกทมี่ งุ่ มน่ั ในการทำ� งานดา้ นศาสนาเดนิ ทางจากบา้ นเมอื ง
ของตนเองไปยังประเทศตา่ งๆ ท่ัวโลกรวมท้งั เมืองไทยด้วย หนมุ่ สาวเหลา่ นท้ี ่ีมาเป็นมิชชันนารีหรอื หมอ
สอนศาสนา มีส่วนสำ� คัญในการเผยแพร่ความรู้และวิทยาการใหม่ๆ ใหแ้ ก่สังคมไทย

       ในระยะแรกๆ นั้น สังคมไทยเลือกรับเทคโนโลยีตะวันตกอย่างระมัดระวัง ส่วนใหญ่จะเป็น
เทคโนโลยีทีส่ อดคล้องกบั ความตอ้ งการของคนไทยในสมัยนัน้ ดังนี้

       การแพทย์ตะวันตก ปญั หาโรคภยั ไขเ้ จบ็ เปน็ เรอ่ื งสำ� คญั สำ� หรบั ทกุ สงั คม แมว้ า่ สงั คมไทยจะมกี าร
สืบทอดความรู้ด้านการแพทย์มายาวนาน แต่ก็ยังต้องเผชิญกับโรคอันตรายร้ายแรง โรคระบาดที่ยากจะ
จดั การ สมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ ผนู้ ำ� ของไทยไดร้ บั รแู้ ละสนใจความรคู้ วามสามารถของแพทยต์ ะวนั ตกคอื
การคน้ พบการท�ำหนองฝจี ากววั เพอื่ ใชป้ อ้ งกนั โรคฝดี าษหรอื ไขท้ รพษิ ซงึ่ เปน็ หนง่ึ ในโรคระบาดรา้ ยแรงท่ี
ครา่ ชีวติ ผูค้ นคราวละมากๆ

       เมอ่ื นายแพทย์ แดน บรชี แบรดลย่ี ์ (Dan Beach Bradley) หรอื ทค่ี นไทยรจู้ กั กนั ดใี นนามหมอบรดั เลย์
นายแพทยผ์ นู้ เี้ ปน็ มชิ ชนั นารหี รอื นกั สอนศาสนาไดเ้ ขา้ มาทำ� งานเผยแพรค่ รสิ ตศ์ าสนานกิ ายโปรแตสแตนท์
ในรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระนง่ั เกลา้ เจา้ อยหู่ วั และเปน็ ผทู้ น่ี ำ� หนองฝวี วั เขา้ มาดว้ ย แมท้ างการจะไมส่ นบั สนนุ
การเผยแพรศ่ าสนาครสิ ต์ แต่รัชกาลที่ ๓ ก็ทรงยอมใหม้ ชิ ชันนารีปลกู หนองฝกี นั ไข้ทรพษิ แก่ประชาชนได้
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37