Page 19 - โลกทัศน์ไทย
P. 19

ศาสนาครสิ ต์ในสังคมไทย 9-9
       พระเยซคู รสิ ตท์ รงเปน็ บตุ รของสามญั ชนชอ่ื ยอแซฟ (ภายหลงั เรยี กวา่ นกั บญุ ยอเเซฟ) และพระนาง
มารอี า ครสิ ตชนเชอื่ วา่ พระนางมารอี าทรงปฏสิ นธโิ ดยอานภุ าพของพระจติ (ซง่ึ เปน็ อกี รปู หนงึ่ ของพระเจา้ )
จงึ ทำ� ใหพ้ ระเยซคู รสิ ตท์ รงเปน็ พระบตุ ร (The Son) ของพระเจา้ สว่ นนกั บญุ ยอแซฟเปน็ เพยี งสามแี ตใ่ นนาม
และเป็นผู้ปกป้องดูแลพระนางมารีอาและพระเยซูคริสต์เท่านั้น เม่ือเจริญพระชนม์ขึ้นได้รับการล้างบาป
(baptise) จากนักบุญยอห์น บัพติสต์ (ต่อมาถือเป็นพีธีรับคนเข้าสู่ศาสนาคริสต์ เรียกว่า พิธีรับศีลล้าง
บาป (baptism) จากน้ันก็ทรงเทศน์สอนชาวยิวรวมทั้งทรงแสดงอัศจรรย์ (miracle) เช่น การรักษาคน
พิการ คนตาบอด คนใบ้ และกระทั่งการชุบชีวิตคนตาย เพื่อให้ชาวยิวเช่ือว่าพระองค์คือ พระมหาไถ่
(The Redeemer) ที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ในประวัติศาสตร์ ชาวยิวระทึกใจกับสิ่งอัศจรรย์แต่ไม่ใส่ใจต่อ
คำ� สอนของพระองค์เทา่ ไรนกั
       พระเยซคู รสิ ตท์ รงเรยี กคนบางคนทท่ี รงพบใหม้ ารว่ มงานกบั พระองคใ์ นยคุ นนั้ คนเหลา่ นภี้ ายหลงั
เรียกวา่ อัครสาวก (มี 12 ท่าน) และตอ่ มาไดพ้ ัฒนาเป็น พระสงฆ์ (ในนกิ ายคาทอลกิ ) และศาสนาจารย์
(ในนกิ ายโปรเตสแตนต์)
       พระเยซูคริสต์ทรงเทศน์สอน ทรงยกอุปมา หรือกระทั่งทรงสอนด้วยการปฏิบัติ บทเทศน์ท่ีควร
ร้จู กั อนั หนึ่ง คอื บทเทศน์บนภูเขา (Sermons on the Mountain) มคี วามดงั น้ี

         “บคุ คลผใู้ ดรสู้ กึ บกพรอ่ งฝา่ ยวญิ ญาณ ผนู้ น้ั เปน็ สขุ เพราะแผน่ ดนิ สวรรคเ์ ปน็ ของเขา บคุ คล
  ผใู้ ดโศกเศรา้ ผู้น้ันเปน็ สขุ เพราะว่าจะได้รับการปลอบประโลม บุคคลผ้ใู ดมใี จออ่ นโยน ผู้นน้ั เปน็ สุข
  เพราะวา่ เขาจะไดร้ บั แผน่ ดนิ โลกเปน็ มรดก บคุ คลผใู้ ดหวิ กระหายความชอบธรรม ผนู้ นั้ เปน็ สขุ เพราะ
  พระเจา้ จะทรงให้เขาอมิ่ สมบูรณ์ บคุ คลผู้ใดมีใจกรุณา ผ้นู น้ั เป็นสขุ เพราะว่าเขาจะได้รบั พระกรณุ า
  ตอบ บุคคลผู้ใดมีใจบรสิ ุทธ์ิ ผนู้ น้ั เป็นสุข เพราะวา่ เขาจะได้เหน็ พระเจ้า บคุ คลผูใ้ ดสรา้ งสันติ ผ้นู ้ัน
  เปน็ สขุ เพราะพระเจา้ จะทรงเรยี กเขาวา่ เปน็ บตุ ร บคุ คลผใู้ ดตอ้ งถกู ขม่ เหงดว้ ยเหตเุ พราะความชอบธรรม
  ผ้นู น้ั เป็นสุข เพราะว่าแผ่นดนิ สวรรคเ์ ป็นของเขา

         ถ้าเขาจะตเิ ตียนข่มเหงและนินทาว่ารา้ ยท่านทงั้ หลายดว้ ยความเท็จ อันมสี าเหตุมาจากเรา
  ท่านก็เป็นสุข จงช่ืนชมยินดีเถิด เพราะว่าบ�ำเหน็จของท่านมีบริบูรณ์ในสวรรค์ เพราะพวกเขาได้
  ข่มเหงประกาศกท้ังหลายทอ่ี ยู่กอ่ นทา่ นเหมอื นกัน”

       หรือคำ� สอนอีกอันหนึ่งซ่ึงสะทอ้ นหลกั ของศาสนาไดช้ ัดเจนมาก คือ
         “ท่านทั้งหลายได้ยินค�ำซึ่งกล่าวไว้ว่า ตาแทนตา และฟันแทนฟัน ฝ่ายเราขอบอกท่านว่า

  อยา่ ตอ่ สคู้ นชว่ั ถา้ ผใู้ ดตบแกม้ ขวาของทา่ น กจ็ งหนั แกม้ ซา้ ยใหเ้ ขาดว้ ย ถา้ ผใู้ ดอยากจะฟอ้ งศาลเพอื่
  จะปรับเอาเส้ือของท่าน ก็จงให้เส้ือคลุมแก่เขาไปเสียด้วย ถ้าผู้ใดจะเกณฑ์ให้ท่านเดินทางไปหน่ึง
  กิโลเมตร ก็ให้เลยไปกับเขาถึงสองกิโลเมตร ถ้าเขาจะขอส่ิงใดจากท่าน ก็จงให้แก่เขาอย่าเมินหน้า
  จากผทู้ ขี่ อยมื จากทา่ น”
   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24