Page 52 - เศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรม เทคโนโลยี และความจำเริญทางเศรษฐกิจ
P. 52
2-40 เศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรม เทคโนโลยี และความจ�ำ เริญทางเศรษฐกจิ
เอฟเซย์ ดี โดมาร์ (Evsey D. Domar) ซง่ึ ในทีน่ จี้ ะไดก้ ล่าวถึงแนวคดิ ทางทฤษฎขี องนกั เศรษฐศาสตร์
ท้ังสองท่านรวมกันที่เรียกว่า ทฤษฎีความจ�ำเริญทางเศรษฐกิจของฮาร์รอด-โดมาร์ (Harrod-Domar
Growth Model)
ทฤษฎคี วามจำ� เรญิ ทางเศรษฐกจิ ของฮารร์ อด-โดมาร์ เนน้ ความสำ� คญั ของการออมและการลงทนุ
ทเี่ พมิ่ ขนึ้ วา่ เปน็ ปจั จยั ทส่ี ำ� คญั ซง่ึ กอ่ ใหเ้ กดิ ผลติ ผลรวมของประเทศเพมิ่ ขน้ึ ซงึ่ จะผลกั ดนั ใหร้ ะบบเศรษฐกจิ
เจรญิ เตบิ โตและขยายตวั ตอ่ ไป โดยทอ่ี ารร์ อด-โดมาร์ ถอื วา่ การสะสมทนุ ทเี่ พมิ่ ขน้ึ เกดิ จากการลงทนุ ทเ่ี พมิ่ ขนึ้
ซงึ่ การลงทนุ จะเพม่ิ ขนึ้ มากหรอื นอ้ ยกข็ น้ึ อยกู่ บั ระดบั การออมทงั้ หมดของประเทศ และอตั ราการเจรญิ เตบิ โต
ของเศรษฐกิจข้ึนอยู่กับปัจจัยที่ส�ำคัญ 2 ประการ คือ อัตราการออมของประเทศและอัตราส่วนของการ
สะสมที่เพิ่มข้ึนตอ่ ผลิตผลรวมที่เพิม่ ขนึ้
อย่างไรก็ตามในทฤษฎีน้ีได้สมมติว่า ก�ำลังแรงงานจะเพ่ิมขึ้นในอัตราคงท่ีตลอดระยะเวลา ไม่มี
การเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี และอัตราส่วนทุนต่อผลิตผลจะคงที่ด้วย ภายใต้ข้อสมมติดังกล่าว
ทฤษฎนี ี้จะได้อัตราการเจริญเตบิ โตอย่างสมำ่� เสมอ
การทฮี่ ารร์ อด-โดมารไ์ ดก้ ลา่ ววา่ ความจำ� เรญิ ทางเศรษฐกจิ ขน้ึ อยกู่ บั คา่ ของอตั ราสว่ นระหวา่ งทนุ
และผลผลติ และค่าของอัตราสว่ นระหวา่ งการออมและรายได้ จงึ อาจสรุปการวเิ คราะห์แนวคิดทางทฤษฎี
ได้ ดังนี้
g = s/k
โดย g คือ อัตราการเพิ่มของรายไดป้ ระชาชาติ S
Y
s คอื อตั ราส่วนระหว่างการออม (S) และรายได้ประชาชาติ (Y) หรอื
k คือ อัตราส่วนระหวา่ งการลงทนุ (I) และการเพม่ิ ของรายได้ (DY) หรือ k = I
DY
จากสมการขา้ งตน้ จะเห็นวา่ อัตราความจำ� เริญทางเศรษฐกจิ จะเพิ่มขึ้นได้โดยการเพ่ิมอัตราการ
ออม หรือลดอัตราสว่ นระหวา่ งทุนและผลผลิต การลดอัตราส่วนระหว่างทนุ กบั ผลผลิตนก้ี เ็ ทา่ กับการเพ่ิม
ประสิทธิภาพของทุนท่ีใช้ในการผลิตนั่นเอง อาจกล่าวได้อีกนัยหน่ึงว่า การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจขึ้น
อยู่กับความมัธยัสถ์ของคนในเศรษฐกิจและประสิทธิภาพในการใช้ทุน ส่วนอัตราการขยายตัวของรายได้
ประชาชาติอยา่ งมีเสถียรภาพตามทฤษฎขี องฮารร์ อด-โดมารไ์ ด้กำ� หนดเง่ือนไขไว้ 3 ประการ คอื
1. การลงทนุ เท่ากับการออม
2. มีการใชป้ จั จัยทุนเต็มที่
3. มีการจ้างทำ� งานเตม็ ท่ี
ทฤษฎขี องฮารร์ อด-โดมาร์ แสดงให้เหน็ ความสมั พันธร์ ะหวา่ งปจั จัยการผลิตท่ีสำ� คัญคือ ทนุ กับ
ผลผลิตรวมและจะวิเคราะห์ในระดับมหภาคโดยรวมๆ เท่านั้น โดยไม่ได้แยกชนิดของผลผลิตออกมาว่า
เปน็ สินคา้ เกษตร สนิ ค้าอุตสาหกรรม หรอื สินค้าชนิดอืน่ ๆ