Page 39 - ทักษะชีวิต
P. 39
บคุ ลิกภาพ มนษุ ยสัมพนั ธแ์ ละการสร้างความสัมพนั ธ์ภายในสังคม 5-29
2.2 หลกั ธรรมคำ� สอนของครสิ ตศ์ าสนา เปน็ ศาสนาหนง่ึ ทม่ี หี ลกั คำ� สอนทม่ี งุ่ ใหเ้ กดิ มนษุ ยสมั พนั ธ์
อยู่หลายๆ หลักคำ� สอน ทส่ี �ำคญั คอื หลักศาสนาครสิ ต์ถอื ว่าการด�ำเนนิ ชีวิตที่ถกู ต้อง คอื การด�ำเนินชีวิต
ตามกฎเกณฑ์ของพระเจ้า คือ กฎแห่งความรักเพราะคริสต์ศาสนาถือว่าหากมีสิ่งนี้แล้วส่ิงอื่นๆ ไม่ว่าจะ
เปน็ ดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม และการเมอื งกย็ อ่ มด�ำเนนิ ไปไดต้ ามแนวทางของการอยรู่ ว่ มกนั เพราะสงั คมใหม่
จะมวี ฒั นธรรมใหม่ คอื วฒั นธรรมแหง่ ความรกั เปน็ ตวั เชอ่ื มประสานความรกั ซงึ่ เปน็ บญั ญตั ทิ ส่ี �ำคญั ทสี่ ดุ น้ี
เปน็ ความสนทิ สมั พนั ธเ์ ปน็ อนั หนง่ึ อนั เดยี วกนั รว่ มทกุ ขร์ ว่ มสขุ แบง่ ปนั ชว่ ยเหลอื ซงึ่ กนั และกนั ซง่ึ ศาสนา
ครสิ ต์แบง่ ความรักออกได้ 2 ประเภท คือ (ปรีดา จันทร์แจ่มศรี และคณะ, 2557, น. 186-187)
1) ความรักระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์และระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า ซึ่งในหมู่มนุษย์น้ัน
สามารถแสดงความรักต่อพระเจ้าได้ด้วยการปฏิบัติตามกฎบัญญัติของพระองค์ด้วยความซื่อสัตย์และไว้
วางใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งพระเจา้ กบั มนษุ ยแ์ ละมนษุ ยก์ บั พระเจา้ สงิ่ นเ้ี ปน็ พนื้ ฐานสำ� คญั สำ� หรบั ความรกั
ระหวา่ งมนุษยก์ บั มนุษย์นนั้ เอง
2) ความรักระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ ความรักต่อเพ่ือนมนุษย์ หมายถึง ความเปน็ นํ้าหนึง่
ใจเดียวกัน ความสมานสามัคคีในฐานะที่เป็นประชากรของพระเจ้า เป็นบุตรของพระองค์และเป็นพี่น้อง
ใน “ครอบครัว” เดยี วกนั
จะเห็นได้ว่าค�ำสอนของคริสต์ศาสนาที่สอนให้คนรักกันเป็นส่วนส�ำคัญหรือเป็นพ้ืนฐานส�ำคัญ
ทน่ี ำ� ไปสกู่ ารสรา้ งสมั พนั ธท์ ด่ี ใี หเ้ กดิ ขน้ึ แกท่ กุ คนในสงั คม นน้ั คอื การสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธท์ ด่ี ใี หเ้ กดิ ขน้ึ นน่ั เอง
ขณะเดยี วกนั หลกั คำ� สอนของครสิ ตศ์ าสนายงั มอี กี มากมายทสี่ อนใหม้ นษุ ยป์ ฏบิ ตั เิ พอื่ การอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งดี
ในสงั คมหรอื เปน็ การสอนใหม้ นษุ ยม์ มี นษุ ยสมั พนั ธน์ นั่ เอง เชน่ เมอื่ ไมต่ อ้ งการใหผ้ อู้ น่ื ปฏบิ ตั ติ อ่ ตนอยา่ งไร
ก็ตอ้ งไมป่ ฏิบตั ติ อ่ เขาอยา่ งน้นั คนอนื่ ควรเจรจาด้วยถ้อยคำ� ไพเราะยกย่องชมเชย เปน็ ตน้
2.3 หลักธรรมค�ำสอนของศาสนาอิสลาม เป็นศาสนาท่ีมีหลักในการปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด
ซ่ึงการสร้างมนุษยสัมพันธ์ก็เป็นหลักการท่ีส�ำคัญหลักการหนึ่งท่ีมีเป้าหมายท่ีเราต้องการบรรลุถึงการมี
มนุษยสมั พันธ์ สว่ นหน่งึ จากเทคนคิ ที่ถกู ระบไุ ว้ในอลั กรุ อาน 3 ประการ คอื
1) ด้วยฮิกมะห์ ค�ำว่าฮิกมะห์ คือการใช้ความเหมาะสมใจแต่ละสถานการณ์ การใช้ความ
นิ่มนวล
2) การตักเตือนที่ดี การตกั เตือนกค็ วรมวี ิธีการที่ดๆี เชน่ บางคนไม่ละหมาด เราก็อาจจะ
บอกเขาไปว่า เราเป็นบ่าวของอัลลอฮฺ พระองค์ให้เรามีสุขภาพดี ให้เรามีชีวิต และให้เราเสียชีวิต แล้ว
พระองค์จะคิดค�ำนวณกับการงานของเรา แค่น้ีส�ำหรับบางคนก็ละหมาดแล้ว แต่ก็ยังมีบางคนแค่นี้ไม่พอ
ก็ต้องเพิม่ เนอ้ื หาไปอกี ข้ึนอย่กู บั วิจารณญาณของแต่ละคน
3) โตแ้ ยง้ พวกเขาดว้ ยส่ิงทด่ี ีกวา่ แมแ้ ตก่ ารโตเ้ ถยี งกต็ อ้ งโตเ้ ถยี งดว้ ยดเี ชน่ กนั เพราะสมอง
บางคนกวา่ จะราบรื่นตอ้ งใช้การอธิบาย และใชเ้ วลาการติดตอ่ สอื่ สาร
จะเห็นไดว้ ่า แต่ละศาสนามักมีค�ำสอนทม่ี งุ่ เน้นใหค้ นอยูร่ ่วมกนั ไดอ้ ยา่ งสันติ ซึง่ การจะอยรู่ ่วมกนั
ไดอ้ ยา่ งสนั ตนิ นั้ สว่ นส�ำคญั คอื มนษุ ยต์ อ้ งมมี นษุ ยสมั พนั ธก์ อ่ น ดงั นนั้ จงึ มกี ารแทรกค�ำสอนทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั
เร่อื งดังกล่าวไว้ในทุกศาสนา