Page 38 - จุลยุทธการวงศ์
P. 38
จุลยุทธการวงศ์ 2244 ฉบับความเรียง (ตอนต้น)
แก่สมเด็จพระร่วงเจ้าว่าข้าแต่พระองค์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ข้า
พระพุทธเจ้าขอถวายส่ิงน้ี สิ่งนี้แก่พระองค์ ตัวข้าน้ีขอเป็นทาสแห่งพระองค์
สมเด็จพระร่วงเจ้าได้ทรงฟังดังนั้นจึงทรงพระกรุณาดำรัสว่า ข้า
แต่พระองค์ผู้ประเสริฐ ตูข้าน้ีมิได้ปรารถนาพระราชสมบัติของพระองค์
พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานพระราชสมบัติให้แก่ข้าพเจ้าด้วย
เคารพสุจริตฉะนี้ ข้าพเจ้าควรจะรับซึ่งราชสมบัติโดยสุจริต ทรงพระกรุณา
ตรัสฉะน้ีแล้ว จึงเสด็จพระราชดำเนินไปสู่ท่ีรูปพระราชสีห์อันมีอยู่ใน
พระนครน้ัน จึงอธิษฐานว่า รูปพระราชสีห์น้ีเป็นที่เส่ียงทาย เราจะตัดศีรษะ
แห่งราชสีห์นี้ ถ้าศีรษะน้ีไปตกลงในเมืองใด เราก็จะไปเสวยราชสมบัติอยู่
ในเมืองน้ัน คร้ันอธิษฐานแล้วจึงตัดรูปราชสีห์นั้นด้วยพระแสงขรรคาวุธ
แห่งพระองค์ รูปพระราชสีห์น้ันขาดกลางตัว ข้างศีรษะนั้นลอยไปบน
อากาศ ด้วยบุญอิทธิฤทธิ์วาจาสิทธ์ิน้ันไปตกลงกลางพระนครสุกโขไท
พระเจ้ามัคธะราชเสนาอำมาตย์และมหาชนท้ังหลายได้เห็นพระ
อิทธิฤทธิ์เดชานุภาพมากยิ่งนัก ดังนั้น ก็บังเกิดความกลัวสมเด็จพระร่วง
บรมราชาธิราชเจ้าน้ันหาท่ีสุดมิได้ พระเจ้ากรุงจีนจึงราชาภิเษกสมเด็จ
พระร่วงกับพระราชธิดาของพระองค์แล้ว เช้ือเชิญให้เสวยราชสมบัติอยู่ใน
เมืองนั้น
สมเด็จพระร่วงบรมราชาธิราชเจ้าได้ทรงฟังดังนั้นจึงตรัสว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้ประเสริฐ เมืองน้ีมิได้เป็นเมืองใหญ่ ศีรษะราชสีห์ไปตกลงใน
พระนครสุกโขไท พระนครสุกโขไทเป็นใหญ่ ข้าพระองค์เจ้าจะลาไปเสวย
ราชสมบัติอยู่ในเมืองสุกโขไทโน้น คร้ันตรัสดังนั้นแล้วก็ยับยั้งเสวยราช
สมบัติอยู่ด้วยพระราชธิดาเจ้ากรุงจีนในเมืองนั้นส้ินสามเดือนแล้ว จึงตรัส
แก่พญานั้นว่า ข้าพเจ้าจะลาพระองค์กลับไปเมืองสุกโขไท
พระเจ้ามัคธะราชได้ทรงฟังดังน้ันจึงตรัสถามว่า พระองค์จะพา
พระอัครมเหสีไปด้วยหรือ หรือจะให้อยู่ในเมืองน้ี สมเด็จพระร่วงเจ้าได้