Page 118 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 118
5-6 ก ารส ่งเสริมสุขภ าพและก ารป้องกันโรค
โดยสรุป การเสริมพลังเป็นกระบวนการส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคคล กลุ่มและชุมชน สามารถจัดการ
แก้ไขปัญหาของตน โดยการร่วมมือกันทำกิจกรรมและควบคุมสิ่งต่างๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ตน
อาศัยอ ยู่
ทั้งนี้กระบวนการดังกล่าวจะเกิดจากการที่บุคคลมีปฏิสัมพันธ์กัน และถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด
ระหว่างกัน หรือที่เรียกว่า กระบวนการทางสังคม ซึ่งจะนำไปสู่การร่วมมือกันของบุคคลดังกล่าวในการก่อให้เกิด
การเปลี่ยนแปลง
จากนิยามที่ก ล่าวม าข้างต้น จะเห็นได้ว ่า คำว ่า การเสริมพลังม ีห ลายมิติ ทำให้เมื่อน ำไปใช้ในบริบทที่ต ่างกัน
อาจมีนิยามหรือจุดเน้นท ี่แ ตกต่างก ันไป อย่างไรก็ตาม นักว ิชาการห ลายค นที่สนับสนุนก ารให้นิยาม “การเสริมพลัง”
ที่ครอบคลุมท ั้งการเสริมพลังร ะดับบุคคล องค์กรแ ละชุมชน เนื่องจากม ีค วามเชื่อมโยงซึ่งก ันและกัน (Zimmerman,
1995; Perkins and Zimmerman, 1995; Israel, et al., 1994) อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ จะเน้นนิยามของคำว่า
การเสริมพลังในการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค ว่า หมายถึง “กระบวนการส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคคล
กลุ่ม และชุมชนม ีความส ามารถในการกำหนดสุขภาพข องต นเอง โดยก ารร ่วมมือกันควบคุมปัจจัยที่ส่งผ ลต่อส ุขภาพ
ทั้งปัจจัยด้านพฤติกรรมและส ิ่งแวดล้อม อันส ่งผลให้มีสุขภาพดีขึ้นแ ละล ดการเจ็บป ่วยด ้วยโรคที่ป ้องกันได้”
หากพิจารณาองค์ประกอบสำคัญจากนิยามที่กล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่า การเสริมพลังมีองค์ประกอบสำคัญ
ต่อไปนี้ (Rodwell, 1996; Page and Czuba, 1999)
1) การเสริมพลังเป็นคำท ี่ม ีห ลายม ิติ (Multi-Dimensional) ได้แก่ มิติด ้านจ ิตวิทยา ด้านสังคม เศรษฐกิจ
การเมือง รวมถึงมิติในระดับบ ุคคล กลุ่ม และช ุมชน
2) การเสริมพลังเป็นกร ะบ วนก ารท างส ังคม (Social Process) นั่นคือ การเสริมพลังจะเกิดข ึ้นได้เมื่อบุคคล
มีป ฏิสัมพันธ์ก ับผ ู้อ ื่น และน ำไปส ู่การม องเห็นคุณค่าของต นเองและผู้อ ื่น
3) การเสริมพลังเป็นกระบวนการ (Process) เป็นเส้นทางหรือวิธีการในการเพิ่มความสามารถหรือพัฒนา
บุคคลให้ม ีท ักษะ มีโอกาสเข้าถึงท รัพยากรท ี่จำเป็น มีพ ลังอำนาจที่จะก ระทำเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงส ถานการณ์
ที่เผชิญอยู่ให้ด ีข ึ้น
4) การเสริมพ ลังเกี่ยวข้องกับความม ีอิสระในการเลือก และการยอมรับท ี่จ ะม ีความร ับผ ิดชอบในสิ่งที่เลือก
ระดับข องก ารเสริมพ ลัง โดยท ั่วไปก ารเสริมพ ลังจ ะม องไดท้ ั้งร ะดับบ ุคคล องค์กรแ ละช ุมชน นักว ิชาการห ลาย
คนท ี่สนับสนุนก ารให้น ิยาม “การเสริมพ ลัง” ครอบคลุมท ั้งการเสริมพ ลังระดับบุคคล องค์กรและช ุมชน เนื่องจากมี
ความเชื่อมโยงซึ่งกันและก ัน ดังนี้ (Zimmerman, 1995; Perkins and Zimmerman, 1995; Israel, et al., 1994)
โดยค วามห มายของก ารเสริมพ ลังในแต่ละระดับ มีดังนี้
1) การเสริมพ ลงั ร ะดับบ ุคคล หรอื ระดับจิตวิทยา (Individual or Psychological Empowerment) หมายถ ึง
การที่บุคคลมีความสามารถในการตัดสินใจและสามารถควบคุมชีวิตของตนเอง ทั้งนี้การเสริมพลังระดับบุคคลจะมี
จุดมุ่งห มายเพื่อให้บ ุคคลมีความคิดเชิงเหตุเชิงผ ล มีค วามเชื่อในค วามสามารถข องต น มีความตระหนักแ ละม ีความร ู้
ในเรื่องสาเหตุและวิธีการแก้ไขปัญหา รวมถึงมีความสามารถที่จะลงมือแก้ไขปัญหาเพื่อนำไปสู่การมีสุขภาพและ
คุณภาพช ีวิตที่ดีขึ้น
2) การเสรมิ พ ลงั ร ะดบั อ งคก์ ร (Organizational Empowerment) เป็นกร ะบ วนก ารจ ัดการแ บบป ระชาธิปไตย
ทสี่ มาชกิ ก ลุม่ ห รอื อ งคก์ รม กี ารใชข้ อ้ มลู แ ละอ ำนาจร ว่ มก นั การม สี ว่ นร ว่ มในก ารต ดั สนิ ใจ การอ อกแบบ การล งมอื ป ฏบิ ตั ิ
และใช้ค วามพ ยายามค วบคุมป ัจจัยต ่างๆ ที่จ ะท ำให้ก ลุ่มบ รรลุเป้าห มายท ี่ต ้องการร ่วมก ัน การเสริมพ ลังร ะดับอ งค์กร
จึงม ที ั้งก ระบวนการท มี่ ุ่งเพิ่มค วามส ามารถข องแ ต่ละบ คุ คล ในก ารค วบคุมป ัจจยั ต ่างๆ ภายในอ งค์กร และก ระบวนการ
ที่ม ุ่งให้อ งค์กรม ีอ ิทธิพลต ่อน โยบายและการตัดสินใจของช ุมชนท ี่ใหญ่ขึ้น
ลิขสิทธขิ์ องมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธริ าช