Page 197 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 197

พฤติกรรมวิถีการดำเนินชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคไม่ติดต่อ 8-31

สารพ​ ษิ ต​ กคา้ งเ​กนิ ม​ าตรฐาน รอ้ ยล​ ะ 4.0 – 8.2 และจ​ ากก​ ารนำเ​ขา้ จ​ ากต​ า่ งป​ ระเทศพ​ บร​ ้อยล​ ะ 2.9 (ศนู ยป​์ ฏบิ ัตก​ิ ารค​ วาม​
ปลอดภัยด​ ้านอ​ าหาร กระทรวงส​ าธารณสุข และก​ รมว​ ิชาการเ​กษตร กระทรวงเ​กษตรแ​ ละส​ หกรณ์) นอกจากน​ ี้ ใน พ.ศ.
2553 พบส​ าร​เคมี​กำจัด​ศัตรู​พืชท​ ี่น​ อก​เหนือ​จากป​ ระกาศ ของ​สำนักงานค​ ณะ​กรรมการอ​ าหารแ​ ละ​ยา (อย.) ใน 4 กลุ่ม
ได้แก่ กลุ่มอ​ อรก์​ าโ​นค​ ลอรีน กลุ่มอ​ อรก์​ าโ​นฟ​ อสฟอรัส กลุ่มค​ าร์บ​ าเ​นต และก​ ลุ่มส​ ารส​ ังเคราะหไ์​พร​ ีท​ รอย​ ด์ใ​นผ​ ักแ​ ละ​
ผลไ​มส​้ ดท​ นี​่ ำเ​ขา้ จ​ ากต​ า่ งป​ ระเทศถ​ งึ ร​ อ้ ยล​ ะ 16.7 (สำนกั ค​ ณุ ภาพแ​ ละค​ วามป​ ลอดภยั อ​ าหาร กรมว​ ทิ ยาศาสตรก​์ ารแ​ พทย)์
ในข​ ณะท​ ี่ผ​ ักแ​ ละผ​ ลไ​ม้ป​ ลอดส​ ารพ​ ิษม​ ีร​ าคาแ​ พงม​ ากข​ ึ้น โดยค​ ณะก​ รรมการอ​ าหารแ​ ห่งช​ าติไ​ด้บ​ ่งช​ ี้ว​ ่า  มีก​ ารใ​ช้ส​ ารเ​คม​ี
ป้องกันก​ ำจัด​ศัตรู​พืช​ที่น​ ำ​เข้าใ​น พ.ศ. 2552 มาก​ถึง 126,577 ตัน คิด​เป็นม​ ูลค่า 16,168 ล้าน​บาท เป็นต้น​ทุน

            4.1.2 	การบ​ รโิ ภคห​ วาน เคม็ มนั มากเ​กนิ ไ​ป ใน พ.ศ. 2552 ประชาชนใ​นก​ รงุ เทพมหานครแ​ ละป​ รมิ ณฑล​
ส่วน​ใหญ่​ร้อย​ละ 80.1 รับ​ประทาน​อาหาร​นอก​บ้าน​ตาม​แผงลอย​หรือ​รถ​เข็น (ศูนย์วิจัย​ความ​สุข​ชุมชน มหา​วิทยา​ลัย
อ​ สั ส​ ัมชัญ) ทำใหม้​ กี​ ารบ​ ริโภคเ​ครื่องด​ ืม่ แ​ ละอ​ าหารท​ ีม่​ รี​ สห​ วานเ​พิม่ ม​ ากข​ ึน้ ต​ ามม​ า รายงานข​ องส​ ำนักงานค​ ณะก​ รรมการ​
อ้อยแ​ ละน​ ้ำตาลพ​ บ​ว่า ใน​ช่วง 2 ทศวรรษ​ที่​ผ่านม​ าค​ น​ไทย​บริโภคน​ ้ำตาลเ​พิ่ม​สูงข​ ึ้น​เกือบ 3 เท่า จาก 12.7 กิโลกรัม/
คน/ปี ใน พ.ศ. 2526 เป็น 36.4 กิโลกรัม/คน/ปี ใน พ.ศ. 2550 ซึ่ง​เกินก​ ว่า​เกณฑ์ม​ าตรฐานข​ องอ​ งค์การ​อนามัยโ​ลก​
กำหนดใ​ห้​บริโภค​น้ำตาล​ได้น​ ้อยก​ ว่า 15 – 20 กิโลกรัม/คน/ปี หรือ 24 กรัม/คน/วัน (6 ช้อนช​ า) โดย​ใน พ.ศ. 2546
เด็กไ​ทยอ​ ายุ​ต่ำ​กว่า 5 ปี เกือบ 2 ใน 3 บริโภค​น้ำตาลเ​ฉลี่ย​วันล​ ะ 30.4 กรัม (8 ช้อน​ชา) และ 1 ใน 4 ที่​บริโภค​น้ำตาล​
มากกว่าว​ ันล​ ะ 40 กรัม (10 ช้อน​ชา)

            ใน พ.ศ. 2552 คน​ไทย​อายุ 6 ปี​ขึ้น​ไป ร้อย​ละ 31.3 ดื่ม​น้ำ​อัดลม​และ​เครื่อง​ดื่ม​ที่​มี​รส​หวาน โดย​ดื่ม​
ทุกว​ ันถ​ ึงร​ ้อยล​ ะ 25.3 (การส​ ำรวจอ​ นามัยส​ วัสดิการแ​ ละพ​ ฤติกรรมก​ ารบ​ ริโภคอ​ าหารข​ องป​ ระชาชน สำนักงาน​สถิตแิ​ ห่ง​
ชาติ) ในข​ ณะ​ที่​เด็กว​ ัย​รุ่น​อายุ 13 – 22 ปี ใน​กรุงเทพมหานคร​มี​พฤติกรรม​บั่นทอนส​ ุขภาพ ร้อยล​ ะ 51.3 โดย​ชอบ​กิน​
อาห​ าร​ฟาสต์​ฟูด (ศูนย์วิจัยม​ หาวิทยาลัย​กรุงเทพ – กรุงเทพโ​พลล์)

            เด็ก​ประถม​ศึกษา​กิน​ขนม​กรุบ​กรอบ​เป็น​ประจำ​เพิ่ม​ขึ้น จาก​ร้อย​ละ 26.7 ใน พ.ศ. 2547 เป็น​ร้อย​ละ
38.1 ใน พ.ศ. 2551 (สถาบัน​ราม​จิตต​ ิ โครงการ Child Watch) โดย​มีม​ ูลค่า​การโ​ฆษณา​น้ำอ​ ัดลม​และ​ขนม​ขบเคี้ยว
(ขนมปัง​กรอบ ลูกก​ วาด ช็อค​โก​แลต/เวเฟอร์) ใน พ.ศ. 2551 สูงถ​ ึง 4,506 ล้านบ​ าท คิดเ​ป็น​ร้อย​ละ 27.4 ของ​มูลค่า​
การโ​ฆษณาอ​ าหารท​ ั้งหมด (Media Data Resources; MDR) สำนกั งานค​ ณะก​ รรมการพ​ ัฒนาการเ​ศรษฐกิจแ​ ละส​ งั คม​
แห่ง​ชาติ​ได้​ประมาณ​การ​ว่า เด็ก​และ​เยาวชน​ใช้​จ่าย​เงิน​ซื้อ​ขนม​ขบเคี้ยว​คนละ 9,800 บาท​ต่อ​ปี รวม​ทั้ง​สิ้น​ประมาณ
170,000 ล้านบ​ าท​ต่อป​ ี จาก​อิทธิพลข​ องส​ ื่อท​ ี่​เป็นอ​ ันตรายแ​ ละ​สื่อ​ยั่วย​ ุ​ต่างๆ มาก มายจ​ นก​ ลาย​เป็นพ​ ื้นที่​เสี่ยงท​ ี่​เด็กใ​ช้​
เวลาก​ ับส​ ื่อป​ ระเภทต​ ่างๆ สูงม​ าก มีข​ ้อมูลค​ นไ​ทยบ​ ริโภคน​ ้ำตาลแ​ ละโ​ซเดียมเ​พิ่มข​ ึ้นเ​กินก​ ว่าเ​กณฑ์ม​ าตรฐาน 3.4 – 5.6
เท่า และ 1.4 – 2.3 เท่าต​ ามล​ ำดับ ส่วนใ​หญ่ม​ า​จากก​ าร​บริโภค​เครื่อง​ดื่มป​ ระเภท​น้ำอ​ ัดลม อาหารแ​ ละ​ขนม ผลิตภัณฑ์​
นมป​ รุงแ​ ต่ง​รส​หวาน และ​มา​จากผ​ ลิตภัณฑ์เ​ครื่อง​ปรุง​รส น้ำปลา ซีอิ๊ว เกลือ กะปิ ซอส​หอยน​ างรม ตามล​ ำดับ

            นอกจากน​ ี้ คน​ไทยโ​ดย​เฉลี่ย​บริโภคเ​กลือ​หรือ​โซเดียม​คลอ​ไรด์​เพิ่ม​ขึ้น 3 เท่าต​ ัว จากน​ ิสัย​ชอบ​กินผ​ ล​
ไม้จ​ ิ้มเ​กลือ พริกน​ ้ำปลา การใ​ช้เ​กลือแกงท​ ี่เ​ป็นส​ ารอ​ ันตรายอ​ ย่างโ​ซเดียมห​ รือโ​ซเดียมค​ ลอไ​รด์ใ​นก​ ารถ​ นอมอ​ าหารแ​ ละ​
ปรุงอ​ าหาร ใน พ.ศ. 2550 คน​ไทยไ​ด้​รับ​เกลือ​หรือโ​ซเดียม​คลอไ​รด์​จากอ​ าหาร​แหล่งต​ ่างๆ โดยเ​ฉลี่ย 10,879 + 2,604
มิลลิกรัม/คน/วัน (มี​โซเดียมป​ ระมาณ 8,275–13,483 มิลลิกรัม/คน/วัน การบ​ ริโภคไ​ม่​ควร​เกิน 2,400 มิลลิกรัม/คน/
วัน) โดยม​ ีผ​ ลิตภัณฑ์เ​ครื่อง​ปรุงร​ ส​ที่ค​ รัว​เรือนใ​ช้ใ​น​ปริมาณ​เฉลี่ยม​ ากใ​น 5 อันดับ​แรก ได้แก่ น้ำปลา ซีอิ๊ว เกลือ กะปิ
และซ​ อสห​ อยน​ างรม ซึ่งโ​ดยห​ ลักแ​ ล้วไ​ม่ค​ วรบ​ ริโภคเ​กลือเ​กิน 1–1.5 ช้อนช​ าต​ ่อว​ ัน น้ำปลาไ​ม่ค​ วรเ​กิน 2–3 ช้อนโ​ต๊ะต​ ่อ​
วัน รวม​ทั้ง​โมโน​โซ​เดียม​ ก​ลูตาเ​มทใ​น​ผงชูรส (การ​สำรวจ​ปริมาณ​การบ​ ริโภค​โซเดียมค​ ลอไ​รด์ข​ องป​ ระชากรไ​ทย กอง​
โภชนาการ กรม​อนามัย และ​องค์การย​ ูนิเซฟ)

                              ลิขสทิ ธขิ์ องมหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช
   192   193   194   195   196   197   198   199   200   201   202