Page 199 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 199

พฤติกรรมวิถีการดำเนินชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคไม่ติดต่อ 8-33

2551 – 2552 และ​มี​ภาวะ​อ้วน​ลงพุง (รอบ​เอว ≥ 90 เซนติเมตร ใน​ชาย และ ≥ 80 เซนติเมตร ใน​หญิง) เพิ่ม​ขึ้นเ​ช่นก​ ัน​
จากร​ ้อย​ละ 26.0 เป็นร​ ้อย​ละ 32.1 (16.2 ล้านค​ น ชาย​ร้อยล​ ะ 18.6 และ​หญิงร​ ้อย​ละ 45) โดยม​ ี​การ​ใช้ย​ า​ลดค​ วามอ​ ้วน​
เพิ่ม​ขึ้น 5.5 เท่า จาก​ร้อยล​ ะ 0.2 เป็นร​ ้อยล​ ะ 1.1 โดย​กลุ่มว​ ัยร​ ุ่น​หญิงอ​ ายุ 15 – 29 ปีใ​ช้​ยาล​ ด​ความอ​ ้วน​มากท​ ี่สุด และ​
เพิ่มส​ ูง​ขึ้น​ถึง 16.3 เท่า จากร​ ้อย​ละ 0.1 เป็น​ร้อย​ละ 4.9 ในช​ ่วง​เวลาเ​ดียวกัน และ​ใช้​ยา​ลดล​ งใ​น​กลุ่ม​อายุ​ที่​มาก​ขึ้น

       ผลก​ าร​สำรวจ​ของส​ ำนักงาน​คณะก​ รรมการ​เศรษฐกิจแ​ ละส​ ังคม​แห่งช​ าติ ใน พ.ศ. 2550 พบว​ ่า ค่า​ใช้จ​ ่ายใ​น
ก​ ารล​ ดน​ ้ำห​ นักอ​ ยูร่​ ะหว่าง 900 – 2,600 บาทต​ ่อเ​ดือน ขึ้นอ​ ยูก่​ ับว​ ิธกี​ ารท​ ีใ่​ช้ โดยส​ ่วนใ​หญใ่​ชว้​ ิธไี​ปร​ ับบ​ ริการท​ ีโ่​รงพ​ ยาบาล
หรือ​สถาน​พยาบาล​ลด​น้ำห​ นัก มี​ค่าใ​ช้จ​ ่าย​เฉลี่ย 2,555 บาทต​ ่อ​เดือน รองล​ ง​มาค​ ือ ซื้อ​อาหาร หรือ​ยาล​ ด​น้ำห​ นัก​มา​กิน​
เอง มีค​ ่า​ใช้จ​ ่าย​เฉลี่ยป​ ระมาณ 1,200 บาท​ต่อ​เดือน โดย​มี​มูลค่า​การ​โฆษณา​ผลิตภัณฑ์​เสริม​อาหาร​ผ่านส​ ื่อ​ต่างๆ เพิ่ม​
ขึ้น​จาก 890.6 ล้าน​บาท ใน พ.ศ. 2545 เป็น 2,112.1 ล้าน​บาท ใน พ.ศ. 2552 หรือ​เพิ่มข​ ึ้น 2.3 เท่า ใน​ช่วง 7 ปีท​ ี่​ผ่าน​
มา เป็นการโ​ฆษณา​ผลิตภัณฑ์​อาหาร​เสริม​บำรุงร​ ่างกายม​ าก​ที่สุด 1,120.1 ล้าน​บาท รอง​ลงม​ า​เป็น​วิตามินเ​สริม​อาหาร
877.6 ล้านบ​ าท และ​อาหาร​ลด​น้ำ​หนัก 114.5 ล้านบ​ าท (บริษัท Media Spending, 2552)

       นอกจากน​ ี้ ผลก​ าร​ศึกษาจ​ าก​หลาย​แห่ง​บ่งช​ ี้​ว่า ปัญหา​ภาวะ​โภชนาการเ​กิน​ใน​เด็กไ​ทย มีแ​ นวโ​น้ม​เพิ่ม​ขึ้น​เช่น​
กัน โดยพ​ บ​ว่า  เด็กไ​ทย​อยู่ใ​นภ​ าวะ​โภชนาการ​เกินเ​พิ่ม​ขึ้น​ปี​ละ 5 หมื่น​คน เด็ก​อายุต​ ่ำก​ ว่า 5 ปี อ้วน​เพิ่ม​ขึ้น​เป็น 3 เท่า
ในร​ ะยะ​เวลาเ​พียง 6 ปี ใน พ.ศ. 2551 – 2552 มี​เด็กอ​ ายุ 1 – 5 ปี และเ​ด็ก​อายุ 6 – 9 ปี ร้อย​ละ 11 – 12 มีน​ ้ำห​ นัก​ตัว​
อยู่ใ​น​เกณฑ์​ท้วมถ​ ึง​อ้วน และส​ ัดส่วน​นี้​เป็นร​ ้อย​ละ 14.9 เมื่อ​อายุ 10–14 ปี รวมท​ ั้งส​ ิ้น​ประมาณ 1.6 ล้านค​ น พบใ​น​
กรุงเทพมหานครแ​ ละ​ภาคก​ ลาง​สูง​กว่า​ภา​คอื่นๆ และใ​นเ​ขตเ​ทศบาล​มาก กว่า​นอกเ​ขต​เทศบาล

  กิจกรรม 8.1.2
         1. 	 จง​บอกถ​ งึ ​ปัจจัย​เสีย่ งท​ ป​่ี รับ​เปลยี่ น​ไดท้ ​เี่ กิด​ข้ึนร​ ่วม​กันใ​น​โรค​ไมต่​ ดิ ต่อ
         2. 	 จง​บอก​ถึง​ความ​ชุก​ของ​ปัจจัย​เสี่ยง​ของ​โรค​ไม่​ติดต่อ​ใน​เยาวชน​อายุ 13-15 ปี​ใน​ภูมิภาค​เอเชีย​

  ตะวนั อ​ อกเ​ฉียง​ใต้

  แนว​ตอบ​กจิ กรรม 8.1.2
         1. 	 ปัจจัย​เส่ียง​ที่​ปรับ​เปลี่ยน​ได้ท่ี​เกิด​ขึ้น​ร่วม​กัน​ใน​โรค​ไม่​ติดต่อ ได้แก่ อาหาร​การ​กิน​ท่ี​ไม่​ดี​ต่อ​สุขภาพ

  การไ​ม่อ​ อก​กำลัง​กาย การใ​ช​้ยาสูบ/การ​สบู ​บุหรี่
         2. 	 ใน​อนิ โดนีเซีย มลั ดีฟ และ​ไทย รายงาน​วา่ เกือบร​ อ้ ยล​ ะ 10 ของ​ประชากร​ในว​ ัยเ​ยาวชน สูบ​บุหรี่ 1

  มวน หรอื ม​ ากกวา่ 1 มวน ในช​ ว่ งเ​วลา 30 วนั ท​ ผี่​ า่ นม​ า ไทยร​ ายงานก​ ารด​ ม่ื แ​ อลกอฮอล์ร​ อ้ ยล​ ะ 16 ในก​ ลมุ่ เ​ยาวชน​
  ในช​ ว่ ง​เวลา 30 วัน​ทผ​่ี า่ น​มา เยาวชนม​ ​ีการส​ มั ผสั ​กบั ​การ​สูบบ​ ุหรใี​่ น​ผ​สู้ งู อ​ ายุแ​ ละเ​พื่อน​พบ​ใน​ระดบั ส​ งู ใ​น​ประเทศ​
  เหลา่ น​ ี้ ประชากร​วยั ​เยาวชนใ​น​สดั สว่ นส​ งู ​ไมอ่​ อกก​ ำลงั ​กาย มเี​พยี ง 1 ใน 3 หรือ 1 ใน 7 ของป​ ระชาชน​ออกก​ ำลัง​
  กาย​อยา่ งน​ ้อยท​ สี่ ุด 60 นาทตี​ ่อว​ นั ทั้ง 7 วนั ในช​ ว่ ง 7 วนั ท​ ผี่​ า่ น​มา ยกเว้น ในป​ ระเทศพ​ ม่าท​ ป​ี่ ระมาณ 1 ใน 3 ของ​
  ประชากรใ​ช้​เวลาม​ ากกว่า 3 ชัว่ โมงต​ อ่ ​วนั ใ​นก​ จิ กรรม​ตา่ งๆ ซึ่งเ​กย่ี วขอ้ งก​ บั ​การ​นั่ง เชน่ การน​ ัง่ ด​ โ​ู ทรทศั น์ การ​นง่ั ​
  ทำงาน/เลน่ ค​ อมพิวเตอร์ เปน็ ต้น

                              ลิขสทิ ธิข์ องมหาวทิ ยาลัยสุโขทยั ธรรมาธิราช
   194   195   196   197   198   199   200   201   202   203   204