Page 289 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 289
การสื่อสารด ้านสุขภาพแ ละความรู้ค วามสามารถด ้านส ุขภาพ 9-43
ทำให้ข้อมูลที่ร่วมแลกเปลี่ยนกันนั้นมีทั้งถูกต้องและไม่ถูกต้อง นอกจากนี้การให้ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพที่นำมาเผย
แพร่มีว ัตถุประสงค์เชิงธ ุรกิจ แฝงม าด้วย ดังนั้นข ้อมูลที่ได้รับบ างค รั้งอาจไม่ถูกต้อง หากป ระชาชนข าดความรู้ความ
สามารถด้านส ุขภาพอ าจทำให้เสียสุขภาพและเสียท รัพย์ได้
แนวทางก ารค วบคมุ การเผยแพร่ขอ้ มลู ข ่าวสารทไี่ ม่ถูกต้อง
ทุกภ าคส่วนต ้องช ่วยกันส อดส่องถ ้าเห็นว่าไม่ถูกต้องแ จ้งให้หน่วยงานท ี่รับผิดชอบ ดังนี้
1. ภาคประชาชน ถ้าพบมีการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องโดยเฉพาะข้อมูลทางด้านสุขภาพ ต้องแจ้งข่าวต่างๆ ที่
ทราบให้ห น่วยง านของรัฐบาลทราบเพื่อดำเนินการแก้ไข ประชาชนต้องรวมตัวก ันเป็นกล ุ่มต ่างๆ เช่น กลุ่มผ ู้ป่วยโรค
เบาหวาน กลุ่มแม่เลี้ยงเดียว กลุ่มผู้ปกครองเด็กที่พร่องด้านสติปัญญา เป็นต้น เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลทางด้าน
สุขภาพแ ละแลกเปลี่ยนข ้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพถ้าพ บผ ิดปกติต ้องร ่วมกันต่อต้านแ ละแจ้งห น่วยงานภาคร ัฐทราบ
2. รฐั บาล มีหน้าท ี่
2.1 จัดให้มีหน่วยงานให้ความรู้เรื่องของสุขภาพ ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันกรมอนามัยมีหน้าที่ให้ความรู้
เรื่องสุขภาพอนามัย การเผยแ พร่ข ่าวสารเรื่องโรค แนวทางก ารปฏิบัติต ัวเพื่อส่งเสริมสุขภาพแ ละป ้องกันโรค
2.2 จัดให้มีหน่วยงานค วบคุมติดตาม การให้ข่าวสารทางด้านสุขภาพ พร้อมออกกฎห มาย พระราช-
บัญญัติค ุ้มครอง เช่น พระราชบัญญัติค ุ้มครองสิทธิผู้ป่วย พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค คณะกรรมการบริหาร
วิทยุกระจายเสียงแ ละวิทยุโทรทัศน์ (กบว.) ตรวจต ิดตามก ารแ พร่ข ่าวทางว ิทยุและโทรทัศน์ เป็นต้น
2.3 จัดให้มีหน่วยงานควบคุมและพัฒนามาตรฐานของผลิตภัณฑ์ทางด้านสุขภาพผ่านทางการศึกษา
วิจัยและเผยแพร่ข ้อมูล เช่น การควบคุมคุณภาพอาหารและย า เป็นต้น
2.4 ที่สำคัญที่สุดคือ การสนับสนุนให้ประชาชนได้รับการศึกษา เพราะการมีความรู้ทำให้การเข้าถึง
ข้อมูลหลายช ่องท าง สามารถเปรียบเทียบความเป็นม าและค วามห น้าเชื่อถือข องข ้อมูลได้ด ีท ี่สุด
แนวทางก ารป อ้ งกนั ห รอื ช ว่ ยเหลอื ผ ทู้ ม่ี คี วามร คู้ วามส ามารถด า้ นส ขุ ภาพต ำ่ จ ากก ารบ รโิ ภคส อื่ ท แี่ อบแฝง
มาในเรื่องส ขุ ภาพ
1. ระยะสั้น ต้องตั้งหน่วยงานขึ้นมาตรวจสอบข้อมูลที่นำเสนอหรือเผยแพร่สู่สาธารณชน ออกพระราช-
บัญญัติคุ้มครองประชาชน เช่น พระร าชบัญญัติค ุ้มครองผู้บริโภค หรือป ระชาชนร ่วมตัวกันแ ลกเปลี่ยนข้อมูลในก ลุ่ม
เสี่ยงกันเอง เช่น ชมรมผู้ป ่วยโรคเบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น
2. ระยะกลาง รัฐบาลต้องเร่งสร้างมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ควบคุมการเขียนข้อความอธิบายการใช้ยา
หรือบริการทั้งทางด้านบวกและด้านลบให้ประชาชนเข้าถึงและเข้าใจง่าย มีหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบมาตรฐาน เช่น
สำนักงานค ณะกรรมการอาหารและยา เป็นต้น และพ ัฒนางานว ิจัยเพื่อเร่งสร้างมาตรฐานข องข้อมูลและผลิตภัณฑ์
3. ระยะย าว การให้การศึกษา เป็นหัวใจส ำคัญท ี่จะท ำให้ป ระชาชนรู้เท่าท ันสื่อ รัฐต้องมีนโยบ ายต่อก ารจ ัด
การศึกษาให้ประชาชนที่มีการศึกษาอย่างต่ำต้องอ่านออกเขียนได้ให้ทั่วถึง และสนับสนุนการให้สุขศึกษาต้องอย่าง
ต ่อเนื่องแ ละหลากห ลายช่องท าง พัฒนาร ูปแบบการให้ส ุขศึกษา และมีการเผยแพร่ข่าวที่มีผลกระท บต ่อสุขภาพ และ
โรคอุบัติใหม่ ต้องส ื่อสารให้ป ระชาชนรับท ราบอย่างท ั่วถ ึง
ลขิ สทิ ธข์ิ องมหาวทิ ยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช