Page 288 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 288

9-42 การส​ ่งเ​สริมสุขภ​ าพแ​ ละก​ าร​ป้องกัน​โรค

ลกั ษณะ​ข้อมลู ด​ ้านส​ ุขภาพ​ท่นี​ ่าเ​ชอื่ ถ​ อื

       การ​สื่อสารใ​น​ปัจจุบัน มี​ผู้ส​ ่ง​ข้อมูลท​ ั้งท​ ี่​เป็นข​ ้อมูล​ที่ด​ ี เป็นข​ ้อมูล​ที่ส​ ร้าง​สรรค์​แต่​ใน​ขณะ​เดียวกัน ข้อมูลบ​ าง​
ข้อมูลเ​ป็นข​ ้อมูล​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง​หลอกล​ วง โดย​เฉพาะ​ข้อมูล​ทาง​ด้าน​สุขภาพ เพราะใ​น​ปัจจุบัน​คน​ไทยม​ ี​คุณภาพ​ชีวิต​ที่​ดี​
ขึ้น การ​ศึกษา​ดีข​ ึ้น อายุย​ ืน​มาก​ขึ้น ให้ค​ วาม​สนใจ​เรื่อง​สุขภาพม​ าก​ขึ้น การส​ ื่อสาร​และ​การ​ไดัรับ​ข้อมูล​ด้านส​ ุขภาพจ​ ึง​
มีม​ าก​ขึ้น​หลากห​ ลาย​ขึ้น นอกจาก​นี้ การ​ปลุกเ​ร้า ให้​คนห​ ันม​ า​ใส่ใจ​การ​ส่งเ​สริมสุข​ภาพใ​ห้แ​ ข็ง​แรงก​ ่อน​การ​เจ็บป​ ่วยจ​ น​
ต้องซ​ ่อมแซมส​ ุขภาพ จากส​ ำนักงานก​ องทุนส​ นับสนุนก​ ารเ​สริมส​ ร้างส​ ุขภาพ (สสส.) การเ​ ผยแ​ พร่ข​ ้อมูลท​ างด​ ้านส​ ุขภาพ​
มีห​ ลากห​ ลายห​ น่วยง​ านท​ ี่ทำการเ​ผยแ​ พร่แ​ ต่ก​ ารร​ ับร​ ู้ข​ ้อมูลท​ างด​ ้านส​ ุขภาพโ​ดยก​ ารข​ าดค​ วามค​ ิดว​ ิเคราะหถ์​ ึงแ​ หล่งท​ ี่มา
วัตถุประสงค์ ของ​การใ​ห้​ข้อมูลถ​ ้าผ​ ู้รับส​ าร ขาดก​ าร​คิดว​ ิเคราะห์อ​ าจ​ทำให้เ​กิด​ผลเ​สียต​ ่อ เศรษฐกิจ และภ​ าวะ​สุขภาพ​
ได้ ดัง​นั้น ใน​การ​สื่อสาร​ผู้รับ หรือ​ประชาชน ต้อง​คิด​ด้วย​สติ​ปัญญา ใน​การ​พิจารณา คุณลักษณะข​ อง​ความ​ถูก​ต้อง​
และ​ความน​ ่า​เชื่อถ​ ือข​ องข​ ้อมูลด​ ้วย

       1) 	ต้อง​พิจารณา​จุด​ประสงค์​ใน​การ​ให้​ข้อมูล ความ​รู้​และ​ประสบการณ์​ของ​ผู้​ส่ง​สาร​หรือ​แหล่ง​ที่มา​ของ​สาร​
หรือข​ ้อมูล และ​เนื้อหา​ของส​ าร

       2) 	คุณสมบัติข​ องข​ ้อมูลท​ ี่ส​ อดคล้องส​ ัมพันธ์ก​ ับเ​นื้อหาข​ องส​ าร ตัวอย่างเ​ช่น บุคลา​ก​ รท​ างการแ​ พทย์ค​ วรเ​ป็น​
ผู้​ให้​ข้อมูล​ด้าน​สุขภาพ​และ​การ​รักษา วิศวกร​ให้​ความ​รู้​เรื่อง​การ​ก่อสร้าง​และ​วัสดุ​ก่อสร้าง ผู้​ป่วย​ที่​เป็น​โรค​เบา​หวาน​ที่​
สามารถ​ควบคุมโ​รค​เบา​หวาน​ได้ค​ วร​เป็น​คน​ที่ใ​ห้​ข้อมูล​เรื่อง​การป​ ฏิบัติ​ตัว​เมื่อ​เป็นโ​รค​เบาห​ วานไ​ด้​ดี

       3) 	วิธี​การ​สื่อสาร​ต้อง​ไม่​ขัด​กับ​ประสบการณ์​ตรง​ของ​ผู้รับ ตัวอย่าง​เช่น ผู้​ป่วย​มา​พบ​แพทย์​ด้วย​ปัญหา​เรื่อง​
นอนไ​ม่ห​ ลับ แพทย์​บอก​ว่าไ​ม่​เป็นไร ผู้ป​ ่วย​ย่อม​ไม่เ​ชื่อถ​ ือ แพทย์อ​ าจบ​ อกว​ ่า ไม่​น่าเ​ป็นอ​ ะไร​มาก หรือ​ไม่​เป็น​อันตราย
อาจ​ทำให้​ผู้​ป่วยย​ อมรับ​ไม่ไ​ด้เ​พราะ​ผู้ป​ ่วย​มา​พบแ​ พทย์​เนื่องจาก​มี​ปัญหา แพทย์บ​ อกว​ ่าไ​ม่เ​ป็น​อะไร ผู้​ป่วยค​ ง​รับ​ไม่ไ​ด้

       4) 	ข้อมูล​นั้น​ตรง​ตาม​มาตรฐาน​ของ​ทาง​ราชการ​ที่​กำหนด​ไว้ เช่น มี​มาตรฐาน​ของ​องค์การ​อาหาร​และ​ยา​รับ​
ประกัน และ​ข้อมูลท​ ี่​ได้​รับต​ ้องส​ อดคล้องแ​ ละ​ตรงก​ ัน​ทุก​แหล่งจ​ ึง​จะ​มีค​ วามน​ ่า​เชื่อ​ถือ

       ดังน​ ั้น ผู้รับส​ ารจ​ ึงต​ ้องม​ คี​ วามร​ ูค้​ วามส​ ามารถด​ ้านส​ ุขภาพจ​ ึงจ​ ะส​ ามารถว​ ิเคราะหข​์ ้อมูลไ​ดด้​ ี ตัวอย่างเ​ช่น มงี​ าน​
วิจัย​ชี้​ข้อมูล​เกี่ยว​กับ​ผลิตภัณฑ์​สุขภาพ​ที่​ส่ง​ถึง​ผู้​บริโภค​ใน​ปัจจุบัน มี​ความคลาด​เคลื่อน​และ​ก่อ​ให้​เกิด​ความ​เข้าใจ​ผิด​
หลาย​ประการ เช่น การศ​ ึกษาข​ อง ดร.นาย​แพทย์​ยศ ตีระว​ ัฒนา​นนท์ หัวหน้า​โครงการ​ประเมิน​เทคโนโลยีแ​ ละน​ โยบาย​
ด้าน​สุขภาพ (Health Intervention and Technology Assessment Program; HITAP) ที่​พบ​ว่า ใน​ปัจจุบัน​มี​
การใ​ช้ส​ ื่อ​หลายช​ ่องท​ าง เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุ โทรทัศน์ สื่อ​กิจกรรม เป็นต้น เพื่อ​เผย​แพร่​ข้อมูล​เกี่ยว​กับ​
ผลิตภัณฑ์​ยา วัคซีน และ​เครื่อง​มือ​แพทย์ บาง​ชนิด​ไป​ยัง​ประชาชน​โดย​ตรง​ทั้งๆ ที่​กฎหมาย​ไม่​อนุญาต ตัวอย่าง​เช่น
การ​ศึกษาเ​รื่อง “การ​เผยแ​ พร่ข​ ้อมูล​ข่าวสารเ​กี่ยว​กับว​ ัคซีน​ป้องกันก​ ารต​ ิดเ​ชื้อ​ไว​รัส​แพปปิ​โลมา (Human Papilloma
Virus; HPV) ผ่าน​สื่อ​สิ่ง​พิมพ์​ใน​ประเทศไทยพ​ บ​ว่า ข้อมูล​และ​ข่าว​จำนวน​ถึง​ร้อย​ละ 92 ที่​มี​เนื้อหา​ไม่​ครบ​ถ้วน​หรือ​
กล่าวถ​ ึงอ​ ย่างค​ ลุมเครือ ใน 6 ประเด็น ได้แก่ 1) สาเหตุข​ องม​ ะเร็งป​ ากม​ ดลูก รวมท​ ั้งป​ ัจจัยท​ ี่เ​กี่ยวข้อง 2) วิธีก​ ารป​ ้องกัน​
และ​ควบคุม​มะเร็งป​ าก​มดลูกน​ อกจาก​การใ​ช้ว​ ัคซีน เช่น การต​ รวจ​คัดก​ รอง การม​ ีเ​พศส​ ัมพันธ์​อย่าง​ปลอดภัย เป็นต้น
3) ประสิทธิผล​ของว​ ัคซีนใ​น​การ​ป้องกันก​ ารต​ ิดเ​ชื้อ HPV หรือ​การเ​กิด​โรค​มะเร็ง​ปากม​ ดลูก 4) ประสิทธิผล​และค​ วาม​
ปลอดภัย​ของ​วัคซีน​ใน​ระยะ​ยาว 5) ผู้​ที่​สมควร​ได้​รับ​วัคซีน และ 6) ขนาด​ของ​วัคซีน​ที่​มี​ประสิทธิผล​ใน​การ​ป้องกัน​
การ​ติดเ​ชื้อ HPV นอกจากน​ ี้ ยัง​พบบ​ ทความ​และข​ ่าว​ถึงร​ ้อย​ละ 62 มี​เนื้อหาไ​ม่​ถูกต​ ้อง​ตาม​หลักว​ ิชาการ และ​ยัง​ศึกษา​
พบ​ว่า​สตรี​วัยท​ ำงาน​ที่​มีอายุ​ระหว่าง 24-35 ปี มีโ​อกาส​ตัดสิน​ใจ​รับว​ ัคซีน​ถึง 15 เท่า

       สรุป ข้อมูล​ใน​การ​สื่อสาร​โดย​เฉพาะ​เรื่อง​ของ​สุขภาพ ผู้รับ​สาร​ต้อง​สามารถ​วิเคราะห์​และ​รู้​เท่า​ทัน​สาร
(Message) เพราะ​ความ​ก้าวหน้า​ของ​การ​สื่อสารอ​ าจ​ทำให้ค​ วาม​รู้​ไม่​เฉพาะ​ความ​รู้​ทางด​ ้าน​สุขภาพท​ ี่​ประชาชนส​ ามารถ​
เข้า​ถึง​ได้​ง่าย​และ​ทั่ว​ถึง ซึ่ง​ใน​บาง​ครั้ง​ถึง​ขั้น​เปิด​ให้​ผู้รับ​สาร​ได้​ร่วม​แลก​เปลี่ยน​เรียน​รู้​ใน​หมู่​ประชาชน​ที่​สนใจ​ร่วม​กัน

                             ลขิ สิทธิ์ของมหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช
   283   284   285   286   287   288   289   290   291   292   293