Page 283 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 283
การสื่อสารด ้านสุขภาพและค วามร ู้ค วามส ามารถด้านส ุขภาพ 9-37
เร่ืองที่ 9.2.3
ความร ้คู วามส ามารถด ้านส ุขภาพก ับพ ฤตกิ รรมสขุ ภาพ
โดยท ั่วๆ ไปแ ล้วป ัญหาส ุขภาพข องป ระชาชนม ีส าเหตุม าจ ากค วามร ู้ ทัศนคติ และพ ฤติกรรม ในอ ดีตบ ุคลากร
ทางการแพทย์ มีความเชื่อว่า ปัญหาสุขภาพต่างๆ สามารถแก้ปัญหาได้โดยการให้สุขศึกษา แต่จากการศึกษาพบว่า
การให้สุขศึกษาจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ทางสุขภาพได้ระดับหนึ่ง แต่ยังมีปัญหาอีกมากที่ไม่สามารถแก้ไขได้ง่ายด้วย
วิธีการให้ข ้อมูลเกี่ยวก ับสุขภาพแ ต่เพียงอ ย่างเดียว ทั้งนี้ เพราะค วามร ู้สามารถด ้านส ุขภาพแ ละการเปลี่ยนแปลงข อง
สังคม สิ่งแวดล้อม ความร วดเร็วของการส ื่อสาร การค มนาคม ทำให้โลกเล็กล ง อีกท ั้งก ารแพร่ร ะบาดของโรคเกิดข ึ้น
ได้ร วดเร็ว นอกจากน ี้ในอ ดีตป ัญหาส ุขภาพข องป ระชาชนส ่วนใหญ่เกิดจ ากโรคต ิดเชื้อ การแ ก้ไขป ัญหาท ำได้โดยไม่ย ุ่ง
ยากซ ับซ้อน ในป ัจจุบันป ัญหาสุขภาพท ี่เกิดขึ้นมีความย ุ่งยากแ ละซ ับซ้อนขึ้นเพราะเป็นปัญหาส ุขภาพที่เกิดจ ากส ภาพ
สังคม สภาพแวดล้อมและจากพ ฤติกรรมเกือบทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น ปัญหาที่เกิดจากก ารบ ริโภคอาหารไม่ถ ูกต้อง ได้แก่
โรคหัวใจ โรคอ ้วน โรคเบาหวาน ปัญหาที่เกิดจ าก การป ระกอบอาชีพ กระดูกสันห ลังทับเส้นประสาท ปัญหาที่เกิดจาก
การใช้เทคโนโลยี เช่น อุบัติเหตุ จอประสาทต าเสื่อม โรคค วามด ันในลูกต าส ูง ปัญหาก ารมีเพศส ัมพันธ์โดยไม่ป ้องกัน
ปัญหาในก ารตั้งครรภ์ไม่พ ึงประสงค์และก ารติดเชื้อทางเพศส ัมพันธ์ เป็นต้น แม้ว่า หน่วยงานท างด ้านสาธารณสุขจะ
ใช้ค วามพ ยายามม ากเพียงใดก ็ตาม ปัญหาส ุขภาพข องประชาชนย ังไม่ล ดล งแ ละร ูปแ บบข องปัญหาจ ะเปลี่ยนแปลงไป
ตามสภาพสังคมและส ิ่งแ วดล้อม ซึ่งม ีค วามซับซ้อนมากย ิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น โรคอ้วน โรคห ัวใจ โรคเบาห วาน อุบัติเหตุ
และป ัญหาท างจิต จึงมีค ำถามว่า ทั้งๆ ที่ทราบสาเหตุที่เกิดข ึ้นและเป็นส ิ่งท ี่ประชาชนร ับท ราบถึงส าเหตุ วิธีก ารปฏิบัติ
ในการป้องกัน การลดความรุนแรงและการสูญเสียจากปัญหาต่างๆ แต่เพราะเหตุใด ทำไม่ยังคงมีปัญหาสุขภาพ
ดังกล่าวอยู่ และดูเหมือนว่า จะเพิ่มม ากขึ้น
พฤตกิ รรมสุขภาพ
พฤติกรรม (Behavior) หมายถึง กิจกรรม หรือการกระทำของบุคคลที่สามารถสังเกตได้ โดยบุคคลอื่นๆ
ประกอบด้วย 1) พฤติกรรมภ ายใน (Covert Behavior) กิจกรรมใดๆ ที่เกิดขึ้นในต ัวบ ุคคล ยากท ี่คนอื่นๆ จะสังเกต
ได้ แต่สามารถวัดได้สังเกตได้โดยใช้เครื่องม ือหรือคำถามม าช ่วย ตัวอย่างเช่น ความค ิด ความฝัน ทัศนคติ ค่านิยม
ความเชื่อ และ 2) พฤติกรรมภายนอก (Overt Behavior) กิจกรรมห รือการกร ะทำใดข องบุคคลที่สามาร ถส ังเกตได้
ด้วยบ ุคคลอ ื่นๆ เช่น การกิน การเต้นรำ การเดิน การน ั่ง การพูด เป็นต้น
ปัจจัยส ำคัญท ี่ท ำให้เกิดพฤติกรรมประกอบไปด้วย
1. ปจั จยั ภ ายในต วั บ คุ คล (Individual Factor) ได้แก่ ร่างกาย พันธุกรรม ความคิดความร ู้สึก ทัศนคติ ความ
สามารถ เป็นต้น
2. ปัจจยั ภายนอก ได้แก่ สภาพแ วดล้อม สังคม ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรม การเปลี่ยนแปลง
พฤตกิ รรมเกิดจ ากป ระสบการณ์ หรอื ก ารเรียน บลูม (Bloom อ้างใน กมลร ตั น์ หล้าส ุวรรณ 2528) แบ่งก ารเปลี่ยนแปลง
ออกเป็น 3 ด้านด ังนี้
2.1 ดา้ นความร ู้ความจ ำ (Cognitive Domain) เป็นด้านท ี่เปลี่ยนแปลงได้ง่ายท ี่สุด
2.2 ด้านความคิดความรู้สึก (Affective Domain) พฤติกรรมด้านนี้อาจแสดงออกให้เห็นหรือไม่
แสดงออกให้เห็นก็ได้ การส ังเกตพฤติกรรมน ี้อ าจต ้องสร้างเครื่องมือออกมาว ัดในบางค รั้ง
ลขิ สทิ ธ์ิของมหาวทิ ยาลยั สุโขทัยธรรมาธริ าช