Page 284 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 284
9-38 การส่งเสริมสุขภาพแ ละก ารป ้องกันโรค
2.3 พฤตกิ รรมดา้ นการกร ะทำ (Psychomotor) จากเดินไม่ได้สามารถเดินได้ จากเขียนหนังสือไม่เป็นเขียน
หนังสือได้ เป็นพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นได้ชัดเจน นักพฤติกรรมศาสตร์หลายๆ คนได้ศึกษาถึงปัจจัยที่ทำให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงพ ฤติกรรมข องบ ุคคล เรียกว ่า ทฤษฎที างพ ฤติกรรมศ าสตร์ ซึ่งน ักส ุขศึกษาไดน้ ำม าใชใ้นง านส ุขศึกษา
เพื่อให้บุคคลปรับเปลี่ยนพ ฤติกรรม เพื่อให้ต นเองเกิดภาวะสุขภาพท ี่ด ี ลดก ารเกิดโรค
พฤติกรรมส ุขภาพ (Health Behavior) ได้แก่ คุณสมบัติต ่างๆ ของบุคคล เช่น ความเชื่อ ความค าดหวัง
แรงจูงใจค่านิยม การรับร ู้ องค์ความรู้อื่นๆ เป็นต้น ซึ่งหมายร วมถ ึง ลักษณะบ ุคลิกภาพ ความรู้สึกอารมณ์ ลักษณะ
นิสัย และรูปแบบพฤติกรรมที่ปรากฏเด่นชัด การกระทำ ลักษณะนิสัย ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับการส่งเสริมสุขภาพ
การฟ ื้นฟูสภาพ และป ้องกันสุขภาพ (ธนว รรธ์ อิ่มส มบูรณ์ 2534 อ้างใน จิรศ ักดิ์ เจริญพันธ์ และเฉลิมพ ล ตันสกุล
2550) พฤติกรรมสุขภาพข องม นุษย์ประกอบไปด ้วยพ ฤติกรรมในการป ้องกันโรคแ ละพฤติกรรมเมื่อเจ็บป่วย
ความส มั พันธ์ของความร ู้ค วามสามารถดา้ นสุขภาพก บั พฤติกรรมส ขุ ภาพ
การส่งเสริมสุขภาพในยุคโลกาภิวัตน์เป็นความร่วมมือของรัฐบาลที่ทำหน้าที่ออกกฎระเบียบในการควบคุม
ปัจจัยท ี่อาจก่อให้เกิดป ัญหาสุขภาพ องค์กรห น่วยงานต ้องดูแลและให้ข ้อมูลในการค วบคุมอันตรายและพิษภัยที่เกิด
จากการประกอบการ นอกจากนี้การเพิ่มสมรรถนะให้คนสามารถควบคุมปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดสุขภาพและเป็นผล
ให้บุคคลม ีสุขภาพด ี นั่นค ือ สามารถควบคุมพฤติกรรมข องตนเองให้เหมาะสมพ ร้อมปรับส ิ่งแ วดล้อมให้เอื้อต ่อการมี
สุขภาพด ี การเพิ่มส มรรถนะให้คน หมายถึง การส นับสนุนด้านก ารศึกษา โดยเฉพาะค วามรู้ความส ามร ถด้านสุขภาพ
และก ารสนับสนุนด้านสิ่งแ วดล้อม เพื่อให้เกิดก ารป ฏิบัติและเกิดสภาพการด ำรงช ีวิตที่นำไปส ู่การม ีสุขภาพดี จากก าร
ศึกษาข องส มาคมแพทย์ชาวอเมริกันใน ค.ศ. 1999 พบว ่า ผู้มาร ับบริการทางการแ พทย์ท ี่มีค วามรู้ความส ามารถด้าน
สขุ ภาพต ่ำ มเีศรษฐาน ะต ำ่ และม ปี ญั หาส ขุ ภาพม าก ส่งผ ลกร ะท บต ่อค วามรู้ความสามารถด ้านส ขุ ภาพต ่ำโดยตรง ได้แก่
ความผ ิดพ ลาดท างการแ พทย์ การไม่ป ฏิบัติต ามค ำแ นะนำข องแพทย์ และจากก ารร วบรวมผลการศ ึกษาพ บว่า การมี
ความรู้ความสามารถด้านสุขภาพต่ำมีความสัมพันธ์กับการเป็นโรค และต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลา
นาน เสียค ่าใช้จ ่ายส ูงแ ละม าใช้บ ริการที่แ ผนกฉุกเฉินบ่อย เมื่อนำเอาข ้อมูลเกี่ยวกับค วามร ู้ค วามส ามารถด ้านสุขภาพ
ต่ำก ับภ าวะส ุขภาพข องผ ู้ป ่วยม าว ิเคราะห์พ บว ่า ผู้ป ่วยโรคเรื้อรังเหล่าน ี้ข าดค วามส ามารถในก ารด ูแลต นเอง และม าใช้
บริการส าธารณสุขบ่อย จากการศึกษาผ ู้ป ่วยท ี่รับไว้ร ักษาในโรงพ ยาบาลของส หรัฐอเมริกาใน ค.ศ. 1994 ผู้ท ี่มีค วามร ู้
ความส ามารถด ้านส ุขภาพต ่ำอ ยู่โรงพ ยาบาลน านก ว่าผ ู้ท ี่ม ีค วามร ู้ความส ามารถด ้านส ุขภาพส ูงถ ึง 2 วัน และก ลับม าร ับ
การร ักษาบ่อยก ว่าผ ู้ท ี่ม ีค วามร ู้ค วามส ามารถด ้านส ุขภาพสูง ร้อยล ะ 6 กลุ่ม ผู้ป ่วยท ี่ม ีค วามรู้ค วามสามารถด้านส ุขภาพ
สงู ใชอ้ ปุ กรณท์ างการแ พทยน์ อ้ ยก วา่ ดา้ นค า่ ใชจ้ า่ ยในก ารด แู ลผ ปู้ ว่ ยท มี่ คี วามร คู้ วามส ามารถด า้ นส ขุ ภาพต ำ่ รฐั ต อ้ งเสยี
ค่าใช้จ่ายถ ึง 73 พันล ้านเหรียญสหรัฐ ใน ค.ศ. 1998 ซึ่งค่าใช้จ ่ายจ ำนวนดังกล่าว 30,000 ล้านเหรียญส หรัฐ ใช้สำหรับ
ผู้ท ี่ไม่สามารถพ ูด เขียนห นังสือได้ และอ ีก 43,000 ล้านเหรียญส หรัฐ ใช้ในการด ูแลผ ู้ป่วยท ี่ด้อยโอกาส นอกจากน ี้
องค์กรด้านส ุขภาพข องแคนาดา (Health Canada, 1999) ยอมรับว ่า ความรู้ความส ามารถด้านสุขภาพเป็นตัวท ำนาย
สถานะก ารม งี านท ำ การเข้าม าม สี ่วนร ว่ มก บั ช มุ ชน และส ภาวะส ขุ ภาพไดอ้ ย่างด ี อีกท ัง้ เปน็ ต ัวท ำนายค วามส ำเรจ็ ท ดี่ ขี อง
การพ ัฒนาช าติ ถ้าก ารท ี่ป ระชาชนม ีร ะดับก ารอ ่านอ อกเขียนได้ต ่ำ ส่งผ ลท ั้งท างต รงแ ละท างอ ้อมต ่อค วามแ ตกต ่างข อง
ผลลัพธ์ทางสุขภาพ แฟรงเกอร์ (Farker, 2000) พบว่า บุคคลท ี่ม ีระดับก ารรู้เท่าท ันต่ำม ีค วามส ัมพันธ์กับก ารใช้ข้อมูล
ข่าวสารและบริการสุขภาพต่ำท ำให้ค วามสามารถในการส่งเสริมสุขภาพแ ละการป ้องกันโรคต่ำ (DeWalt et al., 2004)
การร ู้เท่าท ันด ้านส ุขภาพข ั้นพ ื้นฐ านเป็นส ิ่งท ี่ม ีค วามส ำคัญเพราะเป็นท ักษะท ี่จ ะน ำไปส ู่ก ารอ ่านแ ละก ารเขียน ซึ่งค นท ี่ม ี
ทักษะเหล่านี้สามารถท ี่จะ สร้างค วามเข้าใจ มีระดับความสามารถในก ารควบคุมเหตุการณ์ป ระจำว ัน และอยู่ในสังคม
ได้ดีกว่า ผลการสำรวจระดับความรู้ความสามารถด้านสุขภาพในกลุ่มผู้ใหญ่ชาวอเมริกันจากการศึกษา (National
ลขิ สิทธ์ขิ องมหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช