Page 194 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 194

14-14 พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ

       1.1 	ทฤษฎี​ความไ​ ด้​เปรียบโ​ดยส​ ัมบูรณ์ (Absolute Advantages)
       อดัม สมิธ (Adam Smith) ระบุ​ว่าการค​ ้า​ระหว่าง 2 ประ​เทศใ​ดๆ เกิดข​ ึ้น​อยู่​บนห​ ลักก​ ารข​ อง​ความไ​ด้​เปรียบ​
โดย​สัมบูรณ์ โดย​ประเทศ​ที่​สามารถ​ผลิต​สินค้า​ได้​มี​ประสิทธิภาพ​มากกว่า (มี​ความ​ได้​เปรียบ​โดย​สัมบูรณ์​ใน​การ​ผลิต​
สินค้า​ชนิด​นั้นๆ) จะ​เป็น​ผู้​ผลิต​และ​ส่ง​ออก​สินค้า​ชนิด​ดัง​กล่าว ใน​ขณะ​ที่​สินค้า​ที่​ประเทศ​นั้น​สามารถ​ผลิต​ได้​โดย​มี​
ประสิทธิภาพ​น้อยก​ ว่า จะเ​ป็น​สินค้าท​ ี่​ประ​เทศน​ ั้นๆ นำเ​ข้าจ​ ากต​ ่างป​ ระเทศ ดังน​ ั้น แต่ละ​ประเทศ​จะท​ ำการผ​ ลิต​สินค้า​
ที่ต​ นเองม​ ี​ประสิทธิภาพแ​ ละ​ได้ป​ ระโยชน์จ​ าก​ความช​ ำนาญ​ในก​ ารผ​ ลิต​สินค้า​ชนิด​ดัง​กล่าว จากแ​ นวคิด​ดังก​ ล่าว ระบบ​
เศรษฐกิจจ​ ะ​สามารถ​ใช้​ประโยชน์จ​ าก​ทรัพยากรธรรมชาติท​ ี่​มี​อยู่ใ​ห้​เกิดป​ ระโยชน์​สูงสุด​ได้
       ตัวอย่าง​ของ​การ​พิจารณา​ตาม​ความ​ได้​เปรียบ​โดย​สัมบูรณ์​ของ​ประเทศ ก. และ​ประเทศ ข. โดย​สมมติ​ให้​มี
2 ประเทศ แต่ละ​ประเทศ​ผลิตแ​ ละบ​ ริโภค​สินค้า 2 ชนิด ซึ่ง​ก็​คือ ข้าวแ​ ละ​ผ้า โดย​ใน​การผ​ ลิต​ใช้​แรงงานเ​ป็นป​ ัจจัยก​ าร​
ผลิต​เพียงอ​ ย่างเ​ดียว

                        ตารางท​ ี่ 14.2 จำนวนข​ องส​ ินค้า​ทแ่​ี รงงาน 1 คน​ผลติ ​ได​้ใน 1 วัน

ประเทศ ก.    ขา้ ว                                      ผา้
ประเทศ ข.  24 หน่วย                                  12 หน่วย
            4 หน่วย                                   8 หน่วย

       ตาม​ทฤษฎีด​ ัง​กล่าว ประเทศ ก. มีค​ วามไ​ด้​เปรียบโ​ดยส​ ัมบูรณ์​ใน​การ​ผลิตข​ ้าว เนื่องจาก​สามารถ​ผลิต​ได้​มาก
กว่าเ​มื่อเ​ทียบก​ ับป​ ระเทศ ข. และ​ประเทศ ก. มี​ความ​ได้​เปรียบ​โดยส​ ัมบูรณ์​ใน​การผ​ ลิต​ผ้า เนื่องจากส​ ามารถผ​ ลิต​ผ้า​ได้​
มากเ​มื่อเ​ทียบ​กับป​ ระเทศ ข. ดังน​ ั้น ประเทศ ก. จะเ​ป็นผ​ ู้​ที่​ผลิตแ​ ละส​ ่ง​ออก​ทั้ง​ข้าว​และผ​ ้า

       อย่างไร​ก็ตาม ทฤษฎี​ดัง​กล่าว​สามารถ​อธิบาย​การ​ค้า​ระหว่าง​ประเทศ​ที่​เกิด​ขึ้น​ได้​ใน​ปัจจุบัน​ได้​เพียง​ใน​ส่วน​
ของก​ ารค​ ้าร​ ะหว่างป​ ระเทศพ​ ัฒนาแ​ ล้วก​ ับป​ ระเทศก​ ำลังพ​ ัฒนา หากแ​ ตไ่​มส่​ ามารถอ​ ธิบายก​ ารค​ ้าร​ ะหว่างป​ ระเทศใ​นส​ ่วน​
อื่นๆ ได้ โดยเ​ฉพาะ​การ​ค้าร​ ะหว่างป​ ระเทศ​ที่พ​ ัฒนาแ​ ล้วด​ ้วย​กัน จึง​มีก​ าร​พัฒนาแ​ นวคิด​ใน​ส่วนถ​ ัดไ​ป

       1.2	 ทฤษฎี​ความไ​ ด้​เปรียบโ​ดย​เปรียบ​เทียบ (Comparative Advantages)
       หลัก​เกณฑ์​ของ​การ​ค้า​ระหว่าง​ประเทศ​สามารถ​พิจารณา​ได้​จาก​กฎ​ของ​ความ​ได้​เปรียบ​โดย​เปรียบ​เทียบ
(law of comparative advantages) ซึ่งพ​ ัฒนาโ​ดย เดวิด ริ​คาร์โ​ด (David Ricardo) ใน​ปี ค.ศ. 1817 โดย​ทฤษฎ​ี
ดังก​ ล่าว​ระบุว​ ่า ในก​ รณี​ที่ม​ ี 2 ประเทศ (ประเทศ ก. และป​ ระเทศ ข.) ซึ่งท​ ำการ​ผลิต​สินค้า​เพียง 2 ชนิด เมื่อป​ ระเทศ ก.
ผลิตส​ ินค้า​ทั้ง 2 ​ชนิด​โดย​มี​ประสิทธิภาพน​ ้อยก​ ว่า​ประเทศ ข. ทั้ง 2 ประเทศ​ยังค​ งส​ ามารถม​ ีผ​ ลป​ ระโยชน์​ร่วม​กัน​จาก​
การค​ ้า​ระหว่าง​ประเทศ​ได้ โดยห​ ลัก​เกณฑ์ค​ ือ ประเทศ ก. ควร​ผลิต​และส​ ่ง​ออก​สินค้า​ที่​ตนเอง​ผลิต​ได้​โดยม​ ี​ความเ​สีย​
เปรียบ​โดย​สัมบูรณ์​ที่​น้อย​กว่า (หรือ​มี​ต้นทุน​ค่า​เสีย​โอกาส​ที่​ต่ำ​กว่า หรือ​มี​ความ​ได้​เปรียบ​โดย​เปรียบ​เทียบ) และ​นำ
​เข้าส​ ินค้า​ที่​ประเทศ​มีค​ วาม​เสีย​เปรียบโ​ดย​สัมบูรณ์​ที่มา​กก​ว่า (หรือม​ ี​ความเ​สีย​เปรียบโ​ดย​เปรียบ​เทียบ)

ลขิ สทิ ธข์ิ องมหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช
   189   190   191   192   193   194   195   196   197   198   199