Page 6 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 6
8-4 พฤติกรรมมนุษย์แ ละจ ริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
ความนำ
ตามหลักทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มักจะสมมติให้ผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการต้องการกำไรสูงสุดจากการประกอบ
การผ ลิต แต่ในค วามเป็นจริงผ ู้ผลิตทุกคนอาจจ ะไม่ได้หวังกำไรส ูงสุด บางคนอ าจต้องการทำย อดข ายสูงสุด บางค น
อาจต้องการรักษาส่วนแบ่งตลาด บางคนอาจต้องการมีอำนาจในการควบคุมตลาดโดยยินยอมตั้งราคาขายในระดับ
ที่ต่ำกว่าระดับที่ให้ก ำไรสูงสุด หรือบ างค นอ าจต้องการก ารย อมรับจากสังคมห รือเข้ามาป ระกอบกิจการเพื่อช ่วยเหลือ
สังคม อย่างไรก ็ตามในท างเศรษฐศาสตร์จ ะถือว่าพ ฤติกรรมข องผู้ผ ลิตห รือผ ู้ป ระกอบก ารส ่วนใหญ่มุ่งสู่การแ สวงหา
กำไรสูงสุด และการมุ่งแสวงหาก ำไรสูงสุดน ี้ อาจทำให้เกิดก ารเอารัดเอาเปรียบผ ู้บริโภคในร ูปแบบต ่างๆ เช่น การต ั้ง
ราคาสูงเกินกว่าความเป็นจริง หรือการผลิตสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ รวมทั้งมีพฤติกรรมอื่นที่เป็นผลเสียต่อสังคม เช่น
การผ ลิตส ินค้าท ี่ไร้คุณธรรม เช่น ยาเสพต ิด การผ ลิตสินค้าปลอมแปลงและป ลอมปน การนำส ินค้าที่ห มดอ ายุมาข าย
การผลิตสินค้าที่ส่งผ ลกระท บต่อสิ่งแ วดล้อม เช่น พลาสติกไร้คุณภาพ โฟม สินค้าท ี่มีผลต ่อความม ั่นคง เช่น อาวุธ
สงคราม ระเบิด รวมต ลอดถ ึงการโฆษณาที่ห ลอกล วง เกินความเป็นจริง การกร ะจ ายส ินค้าที่เป็นการเลือกปฏิบัติ การ
มุ่งทำลายคู่แข่งขันห รือการข จัดคู่แ ข่งขันด้วยว ิธีท ี่ไม่เป็นธ รรม ฯลฯ
ผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการนับเป็นผู้มีอิทธิพลและเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดเศรษฐกิจและ
สังคมของประเทศ โดยเป็นผู้กำหนดชนิดสินค้าที่จะทำการผลิต และบางครั้งยังมีอำนาจต่อการกำหนดราคา และ
สามารถฉกฉวยเอาผลประโยชน์ส่วนเกินจากการใช้ทรัพยากร ทำให้เกิดการจัดสรรทรัพยากรที่ไม่เป็นธรรมในระบบ
เศรษฐกิจ
ในส ังคมยูโทเปีย มุ่งหวังท ี่จะให้ส ังคมอ ยู่ร่วมก ันอย่างมีความส ุข ผู้ผลิตซ ึ่งมีอิทธิพลเหนือก ว่าไม่เอาเปรียบ
ผู้บ ริโภค การแ ข่งขันไม่น ำไปส ู่ก ารไร้จ ริยธรรม ผู้ผ ลิตน อกจากต ้องร ับผ ิดช อบต ่อห ุ้นส ่วนก ารผ ลิตห รือเจ้าของท ุนแ ล้ว
ยังต ้องม ีส ่วนร ับผิดช อบต่อบุคลากรในองค์กร ลูกค้า และต่อชุมชนและส ังคมโดยส ่วนร วมด ้วย และนั่นเป็นท ี่มาข อง
การเรียกร ้องให้องค์กรธ ุรกิจจำเป็นต้องม ีจ ริยธรรมในการป ระกอบธ ุรกิจ
การศึกษาในหน่วยนี้ จะแบ่งจริยธรรมขององค์กรธุรกิจออกเป็น 2 ส่วนตามความหมายของการกำกับดูแล
กิจการของ จิลล์ โซโลมอน (Jill Solomon) ที่ได้แบ่งความห มายข องก ารกำกับดูแลก ิจการอ อกเป็นค วามห มายอย่าง
แคบท ี่ค รอบคลุมเฉพาะความส ัมพันธ์ร ะหว่างอ งค์กรธุรกิจก ับผู้ถือหุ้น (shareholders) และความห มายอย่างก ว้างท ี่
ครอบคลุมถึงความร ับผิดช อบขององค์กรธ ุรกิจที่ม ีต ่อผ ู้ม ีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholders) กลุ่มอ ื่นๆ เช่น พนักงาน
ผู้บ ริโภค ผู้ข ายส ินค้า ชุมชน และส ังคมโดยร วม โดยต อนท ี่ 8.1 จะก ล่าวถ ึงเรื่องข องก ารก ำกับด ูแลก ิจการหรือบ รรษัท-
ภิบาลตามความหมายอย่างแคบที่มุ่งเน้นการบริหารกิจการภายในที่ดี ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ในตอนที่ 8.2 จะ
ก ล่าวถ ึงเรื่องค วามร ับผ ิดช อบข องอ งค์กรธ ุรกิจต ่อส ังคมห รือบ รรษัทบ ริบาลท ีม่ ุ่งเน้นก ารส ร้างภ าพล ักษณท์ ีด่ ตี ่ออ งค์กร
ซึ่งจ ะครอบค ลุมบ รรษัทภิบ าลตามความหมายอย่างกว้าง และตอนที่ 8.3 จะยกต ัวอย่างของก ารกำกับด ูแลกิจการและ
ความร ับผิดช อบของอ งค์กรธ ุรกิจต ่อสังคมข องทั้งต ่างป ระเทศแ ละข องป ระเทศไทย
ลขิ สิทธิ์ของมหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช