Page 8 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 8
8-6 พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
เร่ืองท ี่ 8.1.1
ความเปน็ ม าและแนวคิดพ ้นื ฐ านข องก ารก ำกับดูแลก ิจการ
ในทางเศรษฐกิจเมื่อกล่าวถึงผู้ผลิตและผู้ประกอบการ (entrepreneur) จะหมายรวมถึงผู้ที่เป็นเจ้าของ
ทุนและผู้ดำเนินก ารที่เป็นบุคคลค นเดียวกัน ซึ่งจะสะท้อนถึงกิจการในรูปแบบของกิจการที่มีเจ้าของคนเดียว (sole
enterprise) แตก่ ารป ระกอบก ารในร ูปแ บบข องบ ริษัทจ ำกัด ห้างห ุ้นส ่วนจ ำกัด และบ ริษัทม หาชน จำกัด ผูท้ ีเ่ป็นเจ้าของ
ทุนอาจไม่ได้เป็นบุคคลคนเดียวกันกับผู้ดำเนินกิจการ หรือผู้เป็นเจ้าของจะแยกกับผู้ดำเนินการหรือมีผู้ดำเนินการ
แทนตามทฤษฎีตัวแทน (Agent Theory) ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ผู้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนหรือดำเนินกิจการที่ไม่ได้เป็น
เจ้าของทุนอ าจมีจ ิตสำนึกร ับผ ิดช อบต ่อการใช้เงินทุนข องผู้อื่นน้อยกว่าผู้ที่เป็นเจ้าของเงินท ุนท ี่แท้จริงเอง ซึ่งจะน ำไป
สู่การบริหารที่ม ีความเสี่ยง
คำถามที่เกิดขึ้นคือผู้ดำเนินการหรือผู้บริหารกิจการควรจะมีสำนึกความรับผิดชอบต่อกิจการอย่างไร ควร
จะร ับผ ิดช อบเพียงแ ต่การป ฏิบัติต ามห น้าที่ท ี่ได้ร ับมอบต ามท ี่กำหนดไว้เป็นพ ื้นฐ านเท่านั้น หรือค วรม ีส่วนร ับผ ิดช อบ
เฉกเช่นเดียวกับผู้เป็นเจ้าของทุน หรือปฏิบัติงานในฐานะเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจ โดยปฏิบัติหน้าที่โดยมีความ
รับผ ิดชอบต ่อผู้ถ ือหุ้นหรือเจ้าของท ุนด ้วย
การวางห ลักการข องการเป็นตัวแทนนี้ จะนำไปส ู่การกำหนดโครงสร้างการด ำเนินงานร วมท ั้งขอบเขตอ ำนาจ
หน้าที่ของผู้เป็นตัวแทน และก็เป็นที่มาของการจัดระบบการจัดการและการกำกับดูแลกิจการ หรือ Corporate
Governance ขึ้นในอ งค์กร
1. ความเปน็ ม าของก ารก ำกับดแู ลกจิ การ
แนวคิดเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการเริ่มมีขึ้นภายหลังจากการเกิดวิกฤตการณ์ความไม่โปร่งใสของบริษัท
ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาท ี่เกิดข ึ้นใน พ.ศ. 2544 - 2545 ซึ่งเป็นช่วงท ี่บริษัทเอนรอน บริษัทเวิลด์ค อม บริษัทซ ีรอกซ์
บริษัทอ เมริกันอ อนไลน์ บริษัทจ อห์นส ันแ อนดจ์ อห์นส ัน ซึ่งเป็นบ ริษัทย ักษใ์หญใ่นว งการธ ุรกิจข องส หรัฐอเมริกาไดร้ ับ
การตรวจสอบพบว่ามีการตกแต่งตัวเลขทางบัญชี ถึงขั้นมีการปลดผู้บริหารระดับสูงออกตำแหน่งด้วยข้อหามีการใช้
อำนาจไปในทางม ิชอบ และบางบริษัทถึงข ั้นล ้มละลาย ส่งผ ลกระทบเสียหายต ่อตลาดท ุน ร วมท ั้งก ระทบต ่อเศรษฐกิจ
ของประเทศต่างๆ ทั่วโลกอย่างรุนแรง โดยมีการประเมินว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทมีระบบการกำกับดูแล
กิจการท ีอ่ ่อนแอ เนือ่ งจากค ณะก รรมการบ รษิ ัทไดล้ ะเลยก ารต รวจส อบก ารท ุจรติ ข องฝ ่ายบ รหิ ารอ ยา่ งจ รงิ จังด ว้ ยไดร้ บั
แรงจ ูงใจจ ากก ารไดร้ ับผ ลต อบแทนจ ำนวนม หาศาล จึงเป็นท ี่มาถ ึงค วามจ ำเป็นท ีจ่ ะต ้องม กี ารป รับปรุงแ ละป ฏิรูปร ะบบ
การก ำกับด ูแลก ิจการท ั้งในร ะดับบ ริษัท สมาคม ในร ะดับป ระเทศ และร ะหว่างป ระเทศข ึ้น เพื่อเป็นก ลไกก ารต รวจส อบ
ซ ึ่งกันและกันร ะหว่างผู้ม ีอำนาจในบ ริษัท ได้แก่ ผู้ถ ือหุ้น คณะกรรมการ และฝ ่ายบริหาร
ในประเทศสหรัฐอเมริกา ผลของการล้มละลายของบริษัทยักษ์ใหญ่หลายบริษัททำให้สหรัฐอเมริกาได้ออก
กฎหมาย Sarbanes-Oxley ขึ้นในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2545 โดยมีเนื้อหาที่เป็นการกำหนดแนวทางปฏิบัติแก่
ผูบ้ ริหารข องบ ริษัท คณะก รรมการต รวจส อบ และผ ูส้ อบบ ัญชขี องบ ริษัท เพื่อเรียกค วามเชื่อม ั่นจ ากน ักล งทุน กฎหมาย
นี้ส่งผลกระทบอย่างกว้างต่อผู้ประกอบวิชาชีพและผู้สอบบัญชีทั่วโลก เนื่องจากมีการบังคับใช้ไม่เพียงแต่บริษัทใน
ประเทศเท่านั้น แต่ยังร วมไปถ ึงบ ริษัทลูกที่ม ีเครือข่ายอยู่ในต่างป ระเทศด ้วย
ลิขสิทธิข์ องมหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช