Page 61 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 61
ความสุขมวลรวมประชาชาติ 11-9
เพื่อข จัดห รือแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมรวมอยู่ในผลิตภัณฑ์มวลร วมประชาชาติ ดังนั้น ในการค ำนวณผลิตภัณฑ์มวล
รวมป ระชาชาตจิ ึงจ ะต ้องห ักค ่าเสียห ายข องส ภาพแ วดล้อมท ีเ่กิดจ ากก ารผ ลิตส ินค้าแ ละบ ริการอ อกจ ากผ ลิตภัณฑม์ วล
รวมประชาชาติ เพื่อไม่ให้ต ัวเลขผลิตภัณฑ์ม วลรวมป ระชาชาติแสดงส วัสดิการท างเศรษฐกิจที่มากเกินค วามเป็นจริง
5. ผลติ ภณั ฑม์ วลร วมป ระชาชาตวิ ดั ป ริมาณข องส ินคา้ แ ละบ รกิ ารแ ตไ่มไ่ ดแ้ สดงถ งึ ก ารเปลี่ยนแปลงค ณุ ภาพ
ของส ินคา้ แ ละบ รกิ ารท ีป่ ระเทศผ ลติ ข ึ้นม าได้ ซึ่งถ า้ ค ณุ ภาพข องส ินค้าแ ละบ ริการส งู ข ึ้น กจ็ ะส ่งผ ลต อ่ ก ารเพิ่มส วสั ดิการ
ทางเศรษฐกิจ
6. ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติไม่แสดงให้เห็นถึงการกระจายของสินค้าและบริการในกลุ่มบุคคลต่างๆ
ของส ังคมร ะหว่างก ลุ่มค นรวยแ ละก ลุ่มผ ู้ม ีร ายได้น ้อย กล่าวค ือ ผลิตภัณฑ์ม วลร วมป ระชาชาติไม่ได้แ สดงว ่าถ ้าส ินค้า
และบริการที่ผลิตถูกแบ่งสรรอย่างเท่าเทียมกันแล้ว หากผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติเพิ่มสูงขึ้น ความเป็นอยู่ของ
ประชาชนก็จะส ูงข ึ้น แต่ถ ้าส ินค้าและบริการที่ผ ลิตถูกแบ่งส รรอ ย่างไม่เท่าเทียมกัน ก็กล่าวไม่ได้ว่า ความเป็นอยู่ข อง
ประชาชนโดยทั่วไปจ ะส ูงขึ้น
7. ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติไม่ได้เป็นเครื่องวัดประสิทธิภาพการผลิต ทั้งนี้เพราะตัวเลข
ผลติ ภณั ฑม์ วลร วมป ระชาชาตแิ สดงใหเ้ หน็ แ ตด่ า้ นผ ลผลติ ไมไ่ ดแ้ สดงถ งึ ก ารใชป้ จั จยั ก ารผ ลติ สวสั ดกิ ารท างเศรษฐกจิ
อาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ปัจจัยการผลิตเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่ผลผลิตคงเดิมหรือไม่เปลี่ยนแปลง
ดังน ั้น หากผ ลิตภัณฑ์ม วลร วมประชาชาติเปลี่ยนแปลง จึงไม่อาจจะก ล่าวได้ว ่า ประสิทธิภาพก ารผ ลิตเป็นอย่างไร
จากข้อจำกัดในวิธีการวัดของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติดังกล่าวข้างต้น จะเห็นว่าผลิตภัณฑ์มวลรวม
ประชาชาติ เปน็ ด ชั นชี วี้ ดั ค วามเจรญิ เตบิ โตท างเศรษฐกจิ ข องป ระเทศห รอื แ สดงถ งึ อ ตั ราก ารข ยายต วั ข องเศรษฐกจิ สรา้ ง
ความเจริญเติบโตให้ก ับร ะบบเศรษฐกิจโดยร วม เน้นม ูลค่าก ิจกรรมการผ ลิตข องเศรษฐกิจเท่านั้น ไม่ได้ค ำนึงถ ึงก ารม ี
ชีวิตความเป็นอ ยู่ที่ด ีหรือวัดความส ุขข องป ระชาชนในป ระเทศและสังคมโดยรวม ตัวอย่างเช่น บุคคลท ำผิดก ฎหมาย
ค้ายาเสพติด เล่นก ารพ นัน มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ก ารม ีร ายได้ที่เพิ่มขึ้นไม่ได้น ำไปสู่การม ีความส ุขท ี่แท้จริง นอกจากนั้น
ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติยังไม่ได้คำนึงถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สุขภาพ การศึกษา การอนุรักษ์วัฒนธรรม
ธรรมาภิบ าล และก ารพ ัฒนาท ี่ย ั่งยืน ดังน ั้น อาจก ล่าวได้ว่า ประเทศท ี่มีตัวเลขผ ลิตภัณฑ์ม วลร วมป ระชาชาติส ูง ก็ม ิได้
หมายความว่า ประชาชนในป ระเทศนั้นจะม ีความส ุขเสมอไป
“ความสุข” ในนิยามของนักเศรษฐศาสตร์อยู่ที่ความพึงพอใจของมนุษย์แต่ละคนที่ได้บริโภคสินค้าและ
บริการตามท ี่ต้องการ และย ิ่งม ีก ารบริโภคสินค้าและบ ริการม ากขึ้น บุคคลนั้นก็จ ะได้รับความพ อใจมากขึ้นตามล ำดับ
สวัสดิการหรือความพึงพอใจของสังคมเกิดจากผลรวมของความพอใจของมนุษย์หรือของสมาชิกแต่ละคนในสังคม
ยิ่งสมาชิกในส ังคมบริโภคม ากข ึ้น สังคมก็ยิ่งม ีความพ อใจโดยร วมม ากข ึ้น ซึ่งการส ร้างค วามส ุขในแบบเศรษฐศาสตร์
กระแสหลัก อาจจ ะสรุปได้ใน 5 ประเด็น คือ2
1. การบริโภคเป็นหนทางเดียวในการมีความสุข เศรษฐศาสตร์กระแสหลักเห็นว่า มนุษย์จะมีความสุขได้
จากก ารบ ริโภคข องต นเองเท่านั้น ในข ณะท ี่ก ารท ำงานเป็นเพียงห นทางในก ารได้ม าข องร ายได้เพื่อใช้จ ่ายในก ารบ ริโภค
มนุษย์ในมุมม องของเศรษฐศาสตร์กระแสหลักจึงพ ยายามทำงานเพื่อบริโภคให้มากท ี่สุดเท่าท ี่จ ะเป็นไปได้
2. มนุษย์จะคำนึงถึงประโยชน์ของตนเองเท่าน้ัน เศรษฐศาสตร์กระแสหลักถือว่า มนุษย์จะมีความพอใจ
มากขึ้นด้วยการบริโภคของตนเองเท่านั้น โดยไม่สนใจความพอใจหรือสวัสดิการของผู้อื่น ดังนั้น ความเมตตา
ความก รุณา การให้ และความเกื้อกูลก ัน จึงไม่ได้ถ ูกนำม าพ ิจารณาในมุมมองค วามสุขข องเศรษฐศาสตร์ก ระแสหลัก
2 อ่านเพิ่มเติมใน “เศรษฐศาสตร์แห่งค วามส ุข: มุมมองว่าด ้วยค วามสุขของเศรษฐศาสตร์น อกกระแสห ลัก” ของ เดชรัต สุขกำเนิด
ลิขสทิ ธ์ิของมหาวิทยาลยั สุโขทัยธรรมาธริ าช