Page 253 - การจัดการผลิตไม้ดอกไม้ประดับเชิงธุรกิจ
P. 253

การ​จัดการก​ าร​ผลิต​ไม้ใ​บ​กระถาง 14-27

                     (2) 	โรค​เน่า​เละ (soft rot) เกิด​จากเ​ชื้อ​แบคทีเรีย Erwinia carotova ลักษณะ​แผลเ​ป็น​
จุดฉ​ ่ำ​น้ำ คล้าย​โดนน​ ้ำร​ ้อนล​ วก จาก​นั้นใ​บจ​ ะ​พองเ​ต่ง​และฉ​ ่ำ​น้ำ ถ้าป​ ล่อย​ทิ้ง​ไว้ใ​บจ​ ะเ​น่า​และม​ ี​กลิ่น​เหม็น ระบาดม​ าก​
ในช​ ่วงฤ​ ดูฝ​ น ถ้า​อาการร​ ุนแรงค​ วร​ตัด​ทิ้งเ​ผาท​ ำลาย สำหรับ​ต้นท​ ี่​อาการ​ของโ​รคไ​ม่​มาก​นัก ควรน​ ำ​ต้นอ​ อกจ​ ากภ​ าชนะ​
ปลูก แล้วน​ ำ​ไปแ​ ช่ใ​น​สารละลาย​ป้องกัน​กำจัด​เชื้อ​แบคทีเรีย เช่น นาต​ รี​ฟิน (natriphene) อัตรา 1 ต่อ 2000 นาน 1-2
ชั่วโมง จาก​นั้นจ​ ึงน​ ำ​ไปป​ ลูกใ​หม่ หรืออาจฉ​ ีด​พ่นด​ ้วย​สารป​ ฏิชีวนะ พวก​ส​เตรปโ​ตม​ ัย​ซิน (streptomycin)

                     (3) 	โรค​โคน​เน่า (stem rot) เกิด​จาก​เชื้อ​รา Rhizoctonia solani เกิดม​ าก​กับต​ ้นก​ ล้า โดย​
จะเ​กิดแ​ ผล​วงกลมบ​ ริเวณโ​คนต​ ้น​เหนือ​ดิน​เนื้อเยื่อ​ตรง​กลางแ​ ผลจ​ ะ​บุ๋มล​ ึก เห็นข​ อบ​แผลไ​ด้​ชัดเจน เกิด​จากเ​ชื้อร​ าเ​ข้า​
ทำลาย เพราะว​ ัสดปุ​ ลูกม​ นี​ ้ำข​ ังแ​ ฉะม​ าก หรือร​ ะบายน​ ้ำไ​ดไ้​มด่​ ี เมื่อพ​ บต​ ้นเ​ป็นโ​รคค​ วรเ​ปลี่ยนว​ ัสดปุ​ ลูก แล้วใ​ชย้​ าป​ ้องกัน​
กำจัด​เชื้อ​รา เช่น พีซ​ ีเ​อ็นบ​ ี (PCNB) ผสม​น้ำ​รด​โคนต​ ้น​ให้​ทั่ว​ประมาณ 2-3 ครั้ง

                 2) แมลง​และ​สัตว์ศ​ ัตรู​พืช​ที่​สำคัญ ได้แก่
                     (1) เพลี้ยห​ อย เปน็ แ​ มลงท​ มี​่ เี​ปลือกแ​ ขง็ น​ ำ้ ตาล รปู ร​ า่ งก​ ลม เกาะอ​ ยดู่​ ้านล​ ่างข​ องแ​ ผ่นใ​บ และ​

กาบใ​บ ดูดก​ ินน​ ้ำเ​ลี้ยง ทำใหย้​ อดแ​ ละใ​บห​ งิกง​ อ ชะงักก​ ารเ​จริญเ​ติบโตถ​ ้าร​ ะบาดไ​มม่​ ากอ​ าจใ​ชว้​ ิธตี​ ัดแ​ ต่งใ​บท​ ีเ่​ป็นโ​รคท​ ิ้ง
หรือห​ ยิบต​ ัว​ออก หาก​ระบาด​มาก ฉีด​พ่นด​ ้วยส​ าร​ประเภทด​ ูด​ซึม เช่น คาร์โ​บ​ซัลแ​ ฟน หรือคาร์​โบ​ฟู​ราน

                     (2) เพลี้ย​แป้ง เป็น​แมลง​ขนาด​เล็ก ลำ​ตัว​อ่อน​นุ่ม ปกคลุม​ด้วย​ผง​สี​ขาว​และ​ไข​มัน มัก​จะ​
ระบาดอ​ ย่าง​รวดเร็ว ดูดก​ ิน​น้ำเ​ลี้ยงต​ ามส​ ่วนต​ ่างๆ ของ​ต้น​รวม​ทั้ง​รากใ​นด​ ิน ใช้ว​ ิธี​การก​ ำจัด​เช่น​เดียว​กับเ​พลี้ย​หอย

                     (3) หอยท​ าก ระบาดม​ ากใ​นบ​ รเิ วณท​ มี​่ อ​ี ากาศอ​ บั ช​ ืน้ และม​ น​ี ำ้ ข​ งั แ​ ฉะ ทำลายต​ น้ โ​ดยก​ ดั ก​ นิ ใ​บ​
ออ่ น หน่ออ​ อ่ น หรือรากอ​ อ่ น กำจัดโ​ดยใ​ชว​้ ธิ ล​ี ่อด​ ้วยเ​หยื่อพ​ ิษท​ ีผ​่ สมย​ าฆ​ ่าแ​ มลง เช่น แองโ​กลส​ ลกั เดทม​ ลิ ควรท​ ำใ​นช​ ่วง​
เช้า​ที่​มีอ​ ากาศ​เย็น หรือหลังฝ​ นต​ กใ​หม่ๆ อาจ​ใช้​ปูนข​ าวโ​รย​ให้​ทั่วบ​ ริเวณ หรือ​ใช้​น้ำ​ปูน​ใส​รด​ประมาณ 4-5 ครั้ง​ก็ได้

                     (4) ผีเสื้อห​ นอน​แก้วส​ ้ม ผีเสื้อ​ชนิด​นี้​จะ​วางไข่​เป็นฟ​ อง​เดี่ยวๆ ครั้ง​ละ 85-140 ฟอง ไข่ม​ ี​ส​ี
เหลืองอ​ ่อน​ติดอ​ ยู่​ใต้ใ​บ ยอด​อ่อน และ​ลำต้น หนอน​ผีเสื้อ​จะก​ ัด​กิน​ใบ​อ่อน ยอด​อ่อน รวม​ทั้งใ​บแ​ ก่ จน​เหลือ​แต่​ก้านใ​บ
ต้น​ที่​ไม่แ​ ข็ง​แรง​อาจ​ตายไ​ด้ กำจัด​โดย​หมั่น​ตรวจ​ดูอ​ ยู่​เสมอ หาก​พบไ​ข่​หรือต​ ัวห​ นอน​ให้​ทำลาย หรือ​ฉีด​พ่นด​ ้วย​สาร​ใน​
กลุ่ม​ไพร​ ี​ทรอ​ยด์​สังเคราะห์ สลับ​กับ​การใ​ช้​ใน​กลุ่ม​เมโธม​ ิล ฉีด​พ่น​ทุก 5-7 วัน ใน​ช่วงท​ ี่ม​ ี​การ​ระบาด

  กิจกรรม 14.3.1
         1. 	 อ​โก​ลนมี​ า​มชี ่ือเ​รียก​อกี ช​ อ่ื ห​ นึง่ ​ว่าอ​ ะไร
         2. 	 ปจั จยั ​สำคญั ใ​นก​ าร​ปลูกเ​ลี้ยงอ​ ​โกล​ นี​มาใ​ห​้เจรญิ ​เตบิ โต​ได​้ดี ประกอบ​ด้วย​อะไร​บา้ ง
         3. 	 วธิ ี​การข​ ยายพ​ นั ธุ์​อโ​ก​ลนี​มาท​ ​ง่ี ่าย​และ​ไดผ​้ ลเ​รว็ คอื ว​ ธิ ี​ใด

  แนว​ตอบก​ ิจกรรม 14.3.1
         1. 	 อโ​ก​ลนม​ี า มีช่อื ​เรียก​อีก​ชอ่ื ​หนึ่งว​ า่ แกว้ ก​ าญจนา
         2. 	 ปจั จยั ส​ ำคญั ใ​นก​ ารป​ ลกู เ​ลย้ี งอ​ โ​กล​ นม​ี าใ​หเ​้ จรญิ เ​ตบิ โตไ​ดด​้ ี ประกอบด​ ว้ ย ความต​ อ้ งการแ​ สงน​ อ้ ย ตอ้ ง​

  พราง​แสง​ประมาณ​รอ้ ยล​ ะ 50-70 อุณหภูม​ทิ เ​่ี หมาะ​สม 23-30 องศาเ​ซลเซยี ส
         3. 	 วิธี​การข​ ยายพ​ นั ธุ​์อ​โก​ลนม​ี า​ทีง​่ ่าย​และ​ไดผ​้ ล​รวดเรว็ คอื ก​ าร​แยก​หน่อ

                              ลขิ สทิ ธ์ขิ องมหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช
   248   249   250   251   252   253   254   255   256   257   258