Page 67 - แนวคิดทางการแนะแนวและทฤษฎีการปรึกษาเชิงจิตวิทยา หน่วยที่ 3
P. 67

จิตวิทยาเ​พื่อก​ าร​แนะแนวแ​ ละ​การป​ รึกษา​เชิง​จิตวิทยา 3-57

3.	 การ​ประยุกต​ใ์ ช้​จิตวิทยาอ​ งค์กรใ​น​การแ​ นะแนวแ​ ละ​การ​ปรกึ ษาเ​ชงิ ​จติ วทิ ยา

       ดัง​ที่​ทราบ​แล้ว​ว่า จิตวิทยา​องค์กร​เป็น​จิตวิทยา​ประยุกต์​ที่​มุ่ง​เน้น​การนำ�​ไป​ใช้​ใน​องค์กร เนื้อหา​
ส่วน​ใหญ่จ​ ึงเ​กี่ยวข้องก​ ับ​ผู้​บริหาร หรือพ​ นักงาน​ที่​อยู่ใ​น​องค์กร ด้วย​เหตุ​นี้ เมื่อม​ องอ​ ย่างผ​ ิว​เผิน​อาจถ​ ูก​มอง​
ว่าม​ ี​ความเ​กี่ยวข้องก​ ับก​ ารแ​ นะแนว​และ​การป​ รึกษาเ​ชิง​จิตวิทยา​น้อย แต่แ​ ท้​ที่​จริง​แล้วไ​ม่ว​ ่า​สถาน​ศึกษา หรือ​
หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​และ​เอกชน​ทุก​แห่ง ตาม​ความ​หมาย​แล้ว​ก็​จัด​ว่า​เป็น​องค์กร​เช่น​เดียวกัน จึง​สามารถ​กล่าว​
ได้​ว่า จิตวิทยา​องค์กร​เป็น​ศาสตร์​ที่​สามารถ​นำ�​มา​ประยุกต์​ใช้​ใน​งาน​แนะแนว​และ​การ​ปรึกษา​เชิง​จิตวิทยา​ได้​
อย่างก​ ว้างข​ วาง

       ในเ​รื่อง​นี้ ผู้​เขียน​ขอ​นำ�​เสนอ​การ​ประยุกต์​ใช้ท​ ฤษฎี​จิตวิทยา​องค์กร​ทั้ง 3 ทฤษฎี​กับ​การแ​ นะแนว​และ​
การป​ รึกษาเ​ชิง​จิตวิทยา ดัง​รายล​ ะเอียดต​ ่อ​ไปน​ ี้

       3.1 ทฤษฎี​ความ​ต้อง​การ​ของ​แมคเคลล์​แลนด์ การนำ�​ทฤษฎี​ความ​ต้อง​การ​ของ​แมคเคลล์​แลนด์​มา​
ประยุกต์​ใช้​กับ​การ​แนะแนว​และ​การ​ปรึกษา​เชิง​จิตวิทยา​นั้น ผู้​ให้​บริการ​ควร​มุ่ง​เน้น​หรือ​ให้​ความ​สำ�คัญ​กับ​
ความ​ต้องการ​ความ​สำ�เร็จ และค​ วาม​ต้องการท​ างส​ ังคมข​ อง​ผู้รับบ​ ริการ โดย​ผู้ใ​ห้บ​ ริการ​จำ�เป็น​ต้อง​ศึกษา​ถึง​
ความส​ ามารถแ​ ละศ​ ักยภาพข​ องผ​ ู้รับบ​ ริการแ​ ต่ละค​ นใ​ห้ถ​ ่องแท้ จากน​ ั้นจ​ ึงก​ ำ�หนดว​ ัตถุประสงค์ว​ ่าต​ ้องการใ​ห​้
ผู้รับ​บริการแ​ ก้ไข​หรือป​ รับเ​ปลี่ยน​พฤติกรรม​ใด ใน​ระดับ​ใด

       หลัง​จาก​นั้น​ผู้​ให้​บริการ​จึง​กำ�หนด​วิธี​การ​ที่​จะ​นำ�​ไป​สู่​เป้า​หมาย ซึ่ง​วิธี​การ​ตาม​แนวทาง​ทฤษฎี​ความ​
ต้อง​การ​ของ​แมคเคลล์​แลนด์​นั้น​สามารถ​นำ�​มา​ประยุกต์​ใช้​โดย​การ​ให้​ผู้รับ​บริการ​เป็น​ผู้​ร่วม​กำ�หนด​
วัตถุประสงค์​ว่า​เขา​ต้องการ​แก้ไข​หรือ​ปรับ​พฤติกรรม​ใด​อย่างไร โดย​เป้า​หมาย​ที่​กำ�หนด​นั้น​จะ​ต้อง​ไม่​ง่าย​
หรือ​ยาก​เกิน​ไป เพราะ​หาก​กำ�หนด​วัตถุประสงค์​ที่​ง่าย​เกิน​ไป ก็​จะ​ส่ง​ผล​ให้​ผู้รับ​บริการ​เกิด​ความ​เบื่อ​หน่าย​
และ​ขาด​ความ​ท้าทาย​ที่​จะ​กระตุ้น​เร้า​จิตใจ ใน​ทาง​ตรง​กัน​ข้าม หาก​วัตถุประสงค์​ที่​ตั้ง​ไว้​ยาก​เกิน​ไป จน​เกิน​
ความส​ ามารถ​ที่ผ​ ู้รับ​ริ​การ​จะ​ทำ�​สำ�เร็จไ​ด้ ก็จ​ ะ​ส่งผ​ ล​ให้ผ​ ู้รับ​บริการเ​กิดค​ วามท​ ้อแท้แ​ ละ​หมด​กำ�ลังใ​จ​ใน​การ​ที่​
จะก​ ระทำ�​การ​ใดๆ ต่อไ​ป

       ใน​ขณะ​เดียวกัน ผู้​ให้​บริการ​ก็​ต้อง​คำ�นึง​ถึง​หลัก​การ​ของ​ความ​ต้องการ​ทาง​สังคม​หรือ​ความ​ผูกพัน
ใน​กรณี​นี้ ผู้ใ​ห้​บริการ​ควร​มีก​ าร​เปิด​โอกาส​ให้​ผู้รับ​บริการ​ได้​มี​การ​ปฏิสัมพันธ์​ใน​ลักษณะ​ของ​การ​ทำ�​กิจกรรม​
เปน็ กล​ ุม่ เพราะต​ ามท​ ฤษฎนี​ ีเ​้ ชื่อว​ ่าบ​ คุ คลต​ ้องการม​ ส​ี มั พนั ธภาพท​ ดี​่ ตี​ ่อบ​ ุคคลอ​ ืน่ ต้องการก​ ารย​ อมรบั ตอ้ งการ​
เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​กลุ่ม ดัง​นั้น ใน​กระบวนการ​แนะแนว​และ​การ​ปรึกษา​จึง​จำ�เป็น​ต้อง​มี​การ​จัด​กิจกรรม​ใน​
ลักษณะข​ อง​กิจกรรมก​ ลุ่ม​หรือก​ ลุ่มส​ ัมพันธ์ เพื่อเ​ป็นการต​ อบ​สนองค​ วามต​ ้องการ​ทาง​สังคมข​ องผ​ ู้รับ​บริการ

       3.2		ทฤษฎี X และ​ทฤษฎี Y ทฤษฎี X กับท​ ฤษฎี Y มี​ความ​แตกต​ ่างใ​น​ลักษณะต​ รงก​ ัน​ข้าม ดังน​ ั้น
หาก​ผู้​ให้​บริการ​จะ​นำ�​มา​ประยุกต์​ใช้​กับ​งาน​แนะแนว​และ​การ​ปรึกษา​เชิง​จิตวิทยา จำ�เป็น​ต้อง​มี​กา​รบู​รณา​การ​
เข้าไป​กับ​การ​จัด​กิจกรรม​แนะแนว หรือ​กระบวนการ​ปรึกษา โดย​ต้อง​มี​การ​จำ�แนก​ให้​ได้​ก่อน​ว่า​ผู้รับ​บริการ​
คน​ใดม​ ี​คุณลักษณะ​ตามท​ ฤษฎี X และผ​ ู้รับ​บริการค​ นใ​ดม​ ีค​ ุณลักษณะต​ าม​ทฤษฎี Y
   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72