Page 66 - แนวคิดทางการแนะแนวและทฤษฎีการปรึกษาเชิงจิตวิทยา หน่วยที่ 3
P. 66

3-56 แนวคิดทางการแนะแนวและทฤษฎีการปรึกษาเชิงจิตวิทยา
       ทฤษฎี​นี้​เสนอ​ว่า​แต่ละ​บุคคล​จะ​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​ตัดสิน​ใจ​ใน​ส่วน​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​งาน โดย​ถือ​

เกณฑ์​ความ​สามารถ ประสบการณ์​ใน​การ​ทำ�งาน​และ​การ​ได้​รับ​รางวัล ทฤษฎี​นี้​มี​ข้อ​สมมติฐาน​ที่​ว่าการ​จูงใจ
(Motivation) ขึ้นก​ ับ​วิธี​การซ​ ึ่ง​บุคคลต​ ้องการ และว​ ิธีก​ าร​ซึ่ง​บุคคลค​ ิดว​ ่า​จะไ​ด้ส​ ิ่งน​ ั้น

       ทฤษฎีน​ ี้​สนับสนุนใ​ห้​บุคลากร​ได้​รับ​การ​จูงใจใ​ห้​ใช้​ความ​พยายาม​ระดับ​สูง เพื่อ​ให้​เกิด​ความเ​ชื่อ​มั่น​
ว่า​จะ​ได้​รับ​การ​ประเมิน​การ​ทำ�งาน​ที่​ดี ซึ่ง​จะ​นำ�​ไป​สู่​การ​ให้​รางวัล​ตาม​สมควร​แก่​สถานการณ์ อาทิ การ​เพิ่ม
เ​งินเ​ดือน การใ​ห้โ​บนัส การเ​ลื่อนต​ ำ�แหน่ง หรือจ​ ะเ​ป็นร​ างวัลอ​ ะไรก​ ็ตามท​ ี่ส​ ามารถต​ อบส​ นองเ​ป้าห​ มายส​ ่วนต​ ัว​
ของบ​ ุคคล​นั้นๆ ดัง​นั้น​จึงม​ ุ่งท​ ี่ค​ วามส​ ัมพันธ์ 3 ประการ ต่อ​ไป​นี้

            1)	ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​ความ​พยายาม การ​ทำ�งาน (Effort Performance Relationship)
ถ้าบ​ ุคคล​รับ​รู้ถ​ ึงค​ วาม​น่า​จะเ​ป็นข​ องก​ ารใ​ช้​ความพ​ ยายาม ย่อมจ​ ะน​ ำ�​ไปส​ ู่​การ​ทำ�งาน

            2)	ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​การ​ทำ�งาน รางวัล (Performance-reward Relationship Goals
Relationship) บุคคลเ​ชื่อว​ ่าการ​ทำ�งาน​ถึง​ระดับ​หนึ่ง จะน​ ำ�​ไปส​ ู่​การ​บรรลุ​ผลท​ ี่ต​ ้องการถ​ ึงข​ นาด​ควรไ​ด้ร​ างวัล

            3)	ความส​ มั พนั ธร​์ ะหวา่ งร​ างวลั เปา้ ห​ มายส​ ว่ นบ​ คุ คล (Rewards Personal Goals Relationship)
คุณค่าข​ องร​ างวัลท​ ีอ่​ งค์การต​ อบส​ นองค​ วามต​ ้องการข​ องบ​ ุคลากร มากพ​ อทีจ่​ ะเ​ป็นการจ​ ูงใจ หรือร​ างวัลส​ มก​ ับ​
เป้า​หมายท​ ี่​คาด​หวัง

       ทฤษฎค​ี วามค​ าดห​ วงั เปน็ ท​ ฤษฎท​ี มี​่ ุง่ ท​ ตี​่ วั แปรข​ องก​ ารท​ �ำ งานเ​พือ่ น​ �ำ ​เสนออ​ �ำ นาจท​ สี​่ �ำ คญั ข​ องผ​ ลผลติ ​
พนักงาน (Productivity) การข​ าดง​ าน (Absent) การ​ออกจ​ ากง​ าน (Turn Over) การต​ ัดสินใ​จ​ในก​ ารย​ อมรับ​
หรือ​การ​กำ�หนด​งาน แนวทาง​ของ​ทฤษฎี ความ​คาด​หวัง​จะ​ช่วย​ให้​ทำ�งาน​ได้​ดี แม้​จะ​ไม่​เหมาะ​สม​หรือ​ดี​ที่สุด
โดยเ​ฉพาะบ​ คุ คลใ​นง​ านร​ ะดบั ต​ ํ่า เพราะง​ านเ​หลา่ น​ ัน้ ถ​ กู จ​ ำ�กัดม​ ากมาย เชน่ โครงสรา้ งน​ โยบายอ​ งคก์ าร ผบู​้ ังคบั ​
บัญชา วิธกี​ ารท​ ำ�งาน ดังน​ ั้นอ​ ำ�นาจข​ องท​ ฤษฎคี​ วามค​ าดห​ วังใ​ชเ้​พื่ออ​ ธิบายก​ ารเ​พิ่มผ​ ลผลิตข​ องบ​ ุคลากรซ​ ึ่งง​ าน​
มี​ความ​สลับ​ซับซ​ ้อน​และ​อยู่​ใน​ระดับ​สูง​ขึ้น​ในอ​ งค์การ

       อำ�นาจ​พลัง​ของ​ทฤษฎี​การ​จูงใจ (Power of Motivation Theories) แสดงว​ ่า “ความค​ าดห​ วัง” เป็น​
สิ่งห​ นึ่งท​ ี่​มีอ​ ิทธิพลต​ ่อผ​ ลผลิต

       ทฤษฎี​ความ​คาด​หวัง เป็น​ทฤษฎีท​ ี่​เสนอแ​ นะ​ว่าใ​น​การว​ ิเคราะห์​จุด​มุ่ง​หมายใ​นก​ ารก​ระท​ ำ�​ของบ​ ุคคล
ควร​พิจารณา​ถึง​ความ​คาด​หวัง​ของ​บุคคล​ใน​ผล​ตอบแทน​ที่​หวัง​ว่า​จะ​เกิด​ขึ้น​จาก​การก​ระ​ทำ�​นั้นๆ โดย​เฉพาะ​
อย่าง​ยิ่ง​ใน​ด้าน​ค่า​นิยม​และ​ความ​สนใจ​ที่​มี​ต่อ​ผล​ตอบแทน​บุคคล ย่อม​จะ​ตัดสิน​ใจ​เลือก​ทาง​เลือก​แตก​ต่าง​
กันไ​ป ตาม​ที่เ​ขา​คิดว​ ่าน​ ่า​จะ​นำ�​ไปส​ ู่ร​ างวัล​หรือ​ผล​ตอบแทนท​ ี่ต​ นป​ รารถนา​มาก​ที่สุด

       ทฤษฎี​นี้เ​น้น​ที่ก​ ระบวนการ​ที่ม​ นุษย์​ถูกก​ ระตุ้นใ​ห้​เกิด​แรงจ​ ูงใจ ส่วนป​ ระกอบ​สำ�คัญ​ใน​กระบวนการ​
กระตุ้นแ​ รงจ​ ูงใจ​มนุษย์ คือ

            1) เครอ่ื งม​ อื ใ​น​การเ​ลือกพ​ ฤตกิ รรม (Instrumentality) คือ การร​ ับร​ ู้ว​ ่า พฤติกรรม​อย่างไร จะ
นำ�​ไป​สู่ผ​ ล​ตอบแทน​อย่าง​ใด รู้ค​ ่าที่​มุ่งห​ วัง​ของ​ทาง​เลือก​แต่ละ​ทาง

            2) ความ​คาด​หวัง (Expectancy) คือ การ​ประเมิน​ความ​เป็น​ไป​ได้​ว่า การก​ระ​ทำ�​อย่าง​ใด​
อย่างห​ นึ่ง​มีท​ างท​ ี่​จะน​ ำ�​ไปส​ ู่ผ​ ลท​ ี่​คาด​หวัง

            3) ความ​ชอบ หรือ​ความพ​ อใจ (Valence) ในผ​ ลต​ อบแทนท​ ี่ไ​ด้​จากก​ าร​คาดห​ วัง​ไว้ เป็น​คุณค่า​
หรือ​ค่าน​ ิยม​ที่ม​ ี​ต่อ​ผลท​ ี่​เกิดข​ ึ้น
   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71