Page 40 - การเมืองการปกครองไทย หน่วยที่ 1
P. 40
1-30
หลงั เรยี น
1. ราช าธิปไตย คือ แนวคิดและระบอบการปกครองที่พ ระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำ�นาจส ูงสุด
ทรงมีพระราชอำ�นาจเหนือผู้คนในแผ่นดิน ทรงเป็นองค์อธิปัตย์ เป็นเจ้าชีวิต เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ทรงใช้
พระราชอ ำ�นาจท ั้งท างด ้านน ิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ แนวคิดร าช าธิปไตยส ่วนห นึ่งจึงม ีความส ัมพันธ์
กับศ าสนาแ ละค วามเชื่อ เจ้าน าย พระบรมว งศาน วุ งศ์ ขุนนางแ ละข ้าราชการ ต่างม บี ทบาทส ำ�คัญในก ารร องรับ
พระราชอำ�นาจเพื่อให้เกิดผ ลในทางปฏิบัติ เจ้าน าย พระบรมว งศานุวงศ์ ขุนนางและข้าราชการ ต่างมีบ ทบาท
สำ�คัญในการรองรับพระราชอำ�นาจเพื่อให้พระราโชบายบังเกิดผล แนวคิดราชาธิปไตยยังมีความเกี่ยวข้อง
กับเศรษฐกิจแ ละสังคม กลายเป็นปัจจัยการผลิตที่สำ�คัญและยังสะท้อนถ ึงอ ำ�นาจท ี่เปลี่ยนแปลงและเป็นไป
อย่างไม่ท ั่วถ ึง และระบบอุปถัมภ์ในส ังคม แนวคิดราช าธิปไตยข องร ัฐแ บบจ ารีตก ่อให้เกิดส ังคมแ บบศ ักดินา
ส่วนรัฐสมัยใหม่ก่อให้เกิดรัฐแ บบส มบูรณาญาสิทธิราชย์
ส่วนร ัฐแ บ่งอ อกเป็นส องร ูปแ บบ คือ รัฐแ บบจ ารีตแ ละร ัฐช าติ รัฐจ ารีตห รือร ัฐแ บบจ ารีตค ือป ระชาคม
ทางการเมืองรูปแบบหนึ่งที่ศาสนาและความเชื่อมีอิทธิพลต่อการจัดรูปแบบโครงสร้างสังคมการเมือง
โหราศาสตร์จ ึงนับเป็นเครื่องมือที่สำ�คัญสำ�หรับก ารจัดวางสัมพันธภาพในเชิงอำ�นาจของอาณาจักร แนวคิด
เทวราชาจากศาสนาพราหมณ์และธรรมราชาจากพระพุทธศาสนามีอิทธิพลต่ออาณาจักรในภูมิภาคเอเชีย
ตะวันอ อกเฉียงใต้ท ี่เป็นว ัฒนธรรมแบบฮ ินดู-พุทธ มีการก ำ�หนดร ูปท รงแ ละแ บบแผนทางส ถาปัตยกรรมของ
พระราชวงั ด ว้ ยค วามเชือ่ ท วี่ า่ อ าณาจกั รข องต นเปน็ ภ าคห นึง่ ข องจ กั รวาลอ นั ศ กั ดิส์ ทิ ธิ์ สว่ นร ฐั ช าตคิ อื ป ระชาคม
ทางการเมืองที่ประกอบด้วย ดินแดน ประชากร อำ�นาจอธิปไตย รัฐบาล ที่ประชาชนหรือผู้คนภายในรัฐมี
ความภ ักดีและความผูกพันจากเชื้อชาติ ประวัติศาสตร์ ความเป็นมา ขนบธรรมเนียมป ระเพณี วัฒนธรรม
วิถีชีวิต หรืออ ื่นใดร่วมกัน รัฐช าติเป็นป ระดิษฐกรรมท างการเมืองของสังคมม นุษย์ท ี่ท รงอำ�นาจมากที่สุดใน
บรรดาการเมืองระดับต่างๆ เพราะส ามารถกำ�หนด ควบคุม ชี้นำ�กิจกรรมและการดำ�เนินชีวิตของสมาชิกที่
อยู่ภายในรัฐ
2. การเมืองก ารป กครองร ะบอบร าช าธิปไตยข องป ระเทศไทย แ บ่งอ อกเป็นส ีร่ ูปแ บบ ประกอบด ้วย
ปิตุราชาธิปไตยห รือบ ิดาป กครองบุตร ธรรมราชาแ ละจักรพรรดิราช เทวร าชา และส มบูรณาญาสิทธิราชย์
(1) การเมืองการปกครองแบบปิตุราชาธิปไตยหรือพ่อปกครองลูก ถือกำ�เนิดในสมัยสุโขทัย
เป็นการป กครองท ี่พ ระม หาก ษัตริย์เปรียบเสมือนบ ิดาท ี่ท ำ�หน้าที่ป กครองร าษฎรท ี่เปรียบเสมือนบ ุตรส ะท้อน
ถึงความใกล้ชิดระหว่างพระมหากษัตริย์กับราษฎร เพราะมุ่งเน้นการยึดถือสกุลเป็นคติ นำ�ไปสู่การจัดวาง
โครงสรา้ งส งั คมก ารเมอื ง เศรษฐกิจ และสังคม รูปแ บบก ารป กครองแ บบพ ่อป กครองล กู เอื้ออ �ำ นวยป ระโยชน์
ให้กับการประกอบอาชีพของประชาชนในอาณาจักรสุโขทัยที่เป็นไปอย่างเสรี แต่ด้วยข้อจำ�กัดด้านสภาพ
ภูมิประเทศ สภาพพื้นที่ และทำ�เลที่ตั้งของอาณาจักร ทำ�ให้การเกษตรกรรมไม่ได้ผลเท่าที่ควร ด้านสังคม
อาณาจักรสุโขทัยแบ่งออกเป็นสองชนชั้น คือ ชนชั้นปกครอง ประกอบด้วย พระมหากษัตริย์ เจ้านายและ
ขุนนาง และพ ระสงฆ์ และช นชั้นผ ู้ถูกปกครอง ประกอบด ้วย ไพร่ และท าส