Page 27 - การจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์
P. 27
แสงและทัศนูปกรณ์ 11-19
แสงส ีเหล่าน ี้เมื่อน ำม าร วมก ันจ ะได้แ สงข าวก ลับค ืนม าด ังเดิมซ ึ่งส ังเกตได้จ ากแ สงท ี่ส ะท้อนกลับเข้า
สู่ปริซึมและหักเหอ อกสู่อากาศในภาพท ี่ 11.13 ซึ่งจ ะรวมก ันเป็นแสงข าวอีกครั้ง (ความเข้มลดลง)
จากก ารท ดลองน ำแ สงส ีแ ดง แสงส ีเขียว และแ สงส ีน้ำเงิน มาผ สมก ันจ ะได้แ สงข าวเหมือนก ับก ารนำ
แสงสีต่างๆ ในสเปกตรัมของแสงขาวมารวมกัน ขณะที่แสงสีอื่นๆ ในสเปกตรัมแสงขาวเมื่อนำมาผสมกัน
แล้วจะไม่ได้แ สงขาวเหมือนก ารผ สมกันข องแสงสีท ั้งสาม จึงเรียกแสงส ีทั้งสาม (แสงสีแดง แสงส ีเขียว และ
แสงสีน้ำเงิน) นี้ว่า แสงสีปฐมภมู ิ
แสงส ที ีเ่กิดจ ากก ารผ สมก ันข องแ สงส ปี ฐมภ ูมคิ ูใ่ดค ูห่ นึ่งเรียกว ่า แสงส ที ตุ ยิ ภ มู ิ ซึ่งป ระกอบด ้วยแ สง
สีม่วงแ ดง แสงสีเหลือง และแสงส ีน้ำเงินเขียว โดยที่
แสงสีแ ดง + แสงส ีเขียว = แสงส ีเหลือง (yellow)
แสงสีแดง + แสงส ีน้ำเงิน = แสงส ีม ่วงแดง (magenta)
แสงส ีน้ำเงิน + แสงส ีเขียว = แสงสีน้ำเงินเขียว (cyan)
ดังแ สดงในวงกลมผ สมแ สงส ีในภาพที่ 11.15
ภาพท่ี 11.15 วงกลมผ สมแ สงสี
แสงส ีท ุติยภ ูมิท ี่เกิดจ ากก ารผ สมก ันข องแ สงส ีป ฐมภ ูมิค ู่ห นึ่งเมื่อน ำไปผ สมก ับแ สงส ีป ฐมภ ูมิท ี่เหลือ
จะได้แ สงข าวเช ่นเดียวกัน แสงส ีป ฐมภ ูมิก ับแ สงส ีท ุติยภ ูมิท ี่ผ สมก ันได้แ สงข าวเรียกว ่า แสงส เี ตมิ เตม็ ข องก นั
และก นั เช่น แสงส ีน้ำเงินก ับแสงสีเหลือง แสงส ีเขียวกับแ สงส ีม ่วงแ ดง
แสงส ปี ฐมภ ูมจิ ัดเป็น แ มส่ แี สง จากก ารเปลี่ยนแปลงค วามเข้มข องแ ม่สแี สงท ีน่ ำม าผ สมก ันจ ะไดแ้ สง
สีท ุติยภูมิที่ม ีค วามเข้มต ่างๆ กันห ลายระดับ หลักก ารผ สมแสงส ีน ี้น ำไปใช้ป ระโยชน์ในการถ ่ายท ำภ าพยนตร์
บันทึกภาพวิดีโอ การสร้างภาพเพื่อแสดงผลทางจอคอมพิวเตอร์ การจัดไฟแสงสีในการแสดง การจัดฉาก
เวที เป็นต้น