Page 91 - การจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์
P. 91
แสงและทัศนูปกรณ์ 11-83
ข้อเสยี ของก ล้องโทรทรรศน์ชนิดห ักเหแ สง
1) เส้นผ่านศูนย์กลางของกล้อง (หรือเลนส์วัตถุ) มีค่าน้อย ทำให้รับแสงได้น้อย ไม่
เหมาะส ำหรับใช้ด ูว ัตถุท ี่อ ยู่ไกล และมีความเข้มแสงน ้อย เช่น กาแ ล็กซ ี เนบิวลา
2) ใช้เลนส์เป็นอ ุปกรณ์รับแ สง แสงขาวเมื่อห ักเหผ ่านเลนส์จะแ ยกอ อกเป็นแ สงส ีต ่างๆ
ส่งผ ลใหเ้กิดก ารค ลาดส ไีดถ้ า้ ใชเ้ลนสค์ ุณภาพไมด่ พี อ จึงต อ้ งใชเ้ลนสห์ ลายอ นั ป ระกอบก ันห รือใชเ้ลนสพ์ เิ ศษ
เช่น เลนส์อ รงค์ (achromatic lens) เพื่อล ดหรือแ ก้ไขความคลาดส ี ทำให้กล้องมีราคาส ูง
3) ภาพท ีไ่ดจ้ ากก ลอ้ งโทรทรรศนช์ นิดห ักเหแ สงเปน็ ภ าพห ัวก ลับแ ละก ลบั ซ า้ ยข วา (อา่ น
ตัวหนังสือไม่ได้) ทำให้ใช้กล้องโทรทรรศน์ชนิดหักเหแสงดูวิวทิวทัศน์เป็นภาพปกติไม่ได้ (ซึ่งไม่เป็นปัญหา
ต่อการดูดาว) ถ้าต้องการให้ภาพที่เห็นจากกล้องชนิดนี้เหมือนภาพปกติ ภายในกล้องต้องมีอุปกรณ์เบี่ยง
เบนแสงเพื่อแ ก้ไขภ าพ เช่น ใช้ป ริซึมช่วยก ลับภาพให้เป็นภาพหัวต ั้งเหมือนภ าพป กติ
7.2 กลอ้ งโทรทรรศนช์ นดิ ส ะทอ้ นแ สง (reflecting telescope) ใชก้ ระจกเวา้ เปน็ อ ปุ กรณร์ บั แ สง
และรวมแสงแทนเลนส์ โดยแสงที่เข้าสู่กล้องจะตกกระทบกระจกเว้าซึ่งเรียกว่า กระจกหลัก (primary
mirror) ที่อ ยู่ท้ายก ล้อง กระจกเว้าจะรวมแสงให้ไปก ระทบก ับก ระจกราบหรือปริซึม ซึ่งเรียกว่า กระจกรอง
(secondary mirror) ทอี่ ยกู่ ลางล ำก ลอ้ ง กระจกร องจ ะส ะทอ้ นแ สงเขา้ ส เู่ ลนสต์ าเพือ่ ข ยายภ าพใหม้ ขี นาดโตข ึน้
จากภาพที่เกิดจากกระจกหลัก ดังภาพที่ 11.79 โดยกำลังขยายของกล้องโทรทรรศน์ชนิดสะท้อนแสงมีค่า
เท่ากับอัตราส่วนระหว่างค วามยาวโฟกัสของก ระจกเว้าก ับค วามยาวโฟกัสของเลนส์ตา
แสงจากดวงดาวท ี่เข้าสู่กล้อง
เลนส์ใกล้ต า
กระจกห ลัก (กระจกเว้า)
ภาพท ่ี 11.79 ระบบท างแ สงข องก ลอ้ งโทรทรรศน์ชนดิ ส ะท้อนแ สง