Page 46 - การบริหารงานภาพยนตร์
P. 46

2-34 การบรหิ ารงานภาพยนตร์
สื่อมวลชนได้น�ำมาใช้เป็นเคร่ืองมือของการเผยแพร่ข่าวสารเพ่ือเป็นการสนับสนุนและสร้างความคิดและ
อุดมการณ์ของประชาธิปไตยให้แก่สมาชกิ ในสงั คม

       จากที่กล่าวมาข้างต้น อาจสรุปได้ว่าปัจจัยทางด้านการเมืองการปกครองไม่ว่าจะเป็นระบบแบบ
ใดก็ล้วนแตม่ คี วามสมั พันธเ์ กี่ยวข้องกนั จนเป็นแรงผลกั ดนั ตอ่ การบรหิ ารงานภาพยนตร์ทงั้ สิ้น เพียงแตจ่ ะ
เป็นแรงผลักดันในลักษณะหรือรูปแบบใด มากน้อยเพียงใด ท้ังลักษณะที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ
แรงผลักดันทางการเมืองที่เป็นทางการจะส่งผลให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายภาพยนตร์หรือกฎหมายที่
เกี่ยวข้อง ซ่ึงถือเป็นการควบคุมภาพยนตร์ของรัฐ โดยรัฐพิจารณาว่าภาพยนตร์เป็นส่ือมวลชนประเภท
หนึ่งท่ีส่ือสารกับประชาชนจ�ำนวนมากและอาจส่งผลกระทบต่อบุคคล ท�ำให้ต้องมีการควบคุมทั้งการผลิต
และการเผยแพร่ เชน่ พระราชบญั ญตั ิภาพยนตร์และวีดิทศั น์ พ.ศ. 2551 ซึ่งเร่มิ มีการตรวจพิจารณาโดย
ก�ำหนดเนื้อหาของภาพยนตร์ให้เหมาะสมกับอายุของคนดู ในลักษณะการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ กฎหมาย
ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั โรงภาพยนตร์ โดยรฐั มองวา่ ภาพยนตรเ์ ปน็ อตุ สาหกรรมประเภทหนงึ่ จงึ มกี ฎหมายทบี่ รหิ าร
จดั การภาพยนตร์ ทงั้ ดา้ นการเกบ็ ภาษี การสนบั สนนุ การผลติ ภาพยนตร์ การจำ� กดั โควตา กฎหมายลขิ สทิ ธิ์
สว่ นแรงผลักดนั ทางการเมอื งทไ่ี มเ่ ป็นทางการจะปรากฏในรูปแบบของอำ� นาจมืดและอิทธิพลแอบแฝง ซ่งึ
อ�ำนาจมืดและอิทธพิ ลแทรกซ้อนทางการเมืองท่ีมลี ักษณะแอบแฝงเหล่าน้ี แมใ้ นปจั จบุ ันจะลดน้อยลงตาม
ลำ� ดบั กต็ าม แตก่ ย็ งั ไมห่ มดสน้ิ ไปเสยี ทเี ดยี ว ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากกรณที ภี่ าพยนตรบ์ างเรอื่ งมกั ไดร้ บั ผลกระทบ
จากปัจจัยด้านการเมืองจนท�ำให้ต้องมีการปรับเปล่ียนเนื้อหาหรือบทภาพยนตร์ หรือบางเร่ืองถึงข้ันระงับ
การจดั ฉาย

       สำ� หรบั กรณใี นประเทศไทย ดว้ ยเหตทุ ภ่ี าพยนตรเ์ ปน็ สอ่ื มวลชนประเภทใหค้ วามบนั เทงิ ทสี่ ามารถ
เข้าถึงกลุ่มคนจ�ำนวนมาก ภาพยนตร์จึงมีบทบาท อิทธิพล และมีผลกระทบต่อสังคม ผู้บริหารหรือผู้มี
อ�ำนาจในทางการเมือง การปกครอง หรือรัฐบาลจึงมักไม่ค่อยปล่อยให้ผู้สร้างภาพยนตร์สามารถด�ำเนิน
การไดโ้ ดยอิสระเสรี รัฐบาลได้น�ำวิธีการตรวจพิจารณาภาพยนตรม์ าเปน็ เครื่องมอื สำ� คัญในการกำ� กบั ดแู ล
หรอื ควบคมุ ภาพยนตร์ (นกั ศกึ ษาสามารถศกึ ษารายละเอยี ดไดใ้ นเนอ้ื หาหนว่ ยท่ี 14) โดยจะเขม้ งวดกวดขนั
มากหรอื นอ้ ยเพยี งไรนนั้ กข็ นึ้ อยกู่ บั บรรยากาศทางการเมอื งของแตล่ ะยคุ แตล่ ะสมยั เชน่ ในชว่ ง พ.ศ. 2516
ทปี่ ญั ญาชนไดเ้ คลอ่ื นไหวเรยี กรอ้ งรฐั ธรรมนญู จนทำ� ใหเ้ กดิ เหตกุ ารณ์ “14 ตลุ าคม” ทที่ ำ� ใหก้ ารเมอื งไทย
กา้ วเขา้ สยู่ คุ ประชาธปิ ไตยเบกิ บานนนั้ ปรากฏวา่ วงการภาพยนตรไ์ ทยไดฟ้ มู ฟกั หรอื กอ่ กำ� เนดิ กลมุ่ ผสู้ รา้ ง
ภาพยนตร์ท่ีเป็นคนรุ่นใหม่เพิ่มมากข้ึน ในขณะเดียวกันเนื้อหาของภาพยนตร์ก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็น
ภาพยนตร์ที่มีความสมจริง มีเหตุผล ให้แง่คิด มีการน�ำหยิบยกประเด็นปัญหาในสังคมขณะนั้นๆ มาน�ำ
เสนอและทา้ ทายตอ่ การโตแ้ ย้งของผูช้ มและสังคม ฉะนั้นจงึ อาจกล่าวไดว้ า่ บรรยากาศทางการเมืองเขา้ มา
มีอิทธิพลต่อการกำ� หนดแนวเนอื้ หาของภาพยนตร์อยู่ไมน่ ้อย

       ดงั นนั้ ผบู้ รหิ ารงานภาพยนตรจ์ งึ ตอ้ งมกี ารตดิ ตามความเปลยี่ นแปลงหรอื การเคลอื่ นไหวทางการ
เมอื งดว้ ยการวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ โดยเฉพาะในประเดน็ ทางการเมอื งทอ่ี าจสง่ ผลกระทบตอ่ การดำ� เนนิ งาน
ธุรกิจภาพยนตรใ์ นทุกขน้ั ตอน นบั แตก่ ารด�ำเนินงานสรา้ ง การจดั จำ� หน่ายและการจัดฉายภาพยนตร์ รวม
ถึงธุรกิจเสริมอนื่ ๆ ที่เกีย่ วข้อง
   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51