Page 61 - ความรู้เบื้องต้นการสื่อสารชุมชน
P. 61

การกำ� กับดูแลการสื่อสารชมุ ชน 14-51
ตอ้ งการตคี วามสารตาม “เนอื้ หา” จรงิ ๆ จะตอ้ งนำ� สารนน้ั มาพจิ ารณา โดยไมป่ ลอ่ ยใหค้ วามรสู้ กึ เหลา่ นนั้
เข้ามาแทรกแซงการตีความของตน

       3)	 ความตระหนักรใู้ นหน้าทขี่ องสารที่นำ� เสนอผา่ นสื่อ ผบู้ ริโภคสือ่ จ�ำเปน็ ตอ้ งรูห้ น้าท่ีของสารที่
นำ� เสนอผ่านสือ่ ว่ามีหนา้ ทใ่ี นการแจง้ ขา่ วสาร สอน/ใหก้ ารศึกษา โน้มนา้ วใจ หรือใหค้ วามบันเทงิ เพอ่ื ที่
ผบู้ รโิ ภคสอ่ื จะไดร้ บั รสู้ ารไดต้ รงตามหนา้ ทขี่ องสารทมี่ กี ารกำ� หนดรรู้ ว่ มกนั เชน่ การเสนอขา่ ว ควรเปน็ ไป
เพื่อแจ้งข่าวสาร ไม่ใช่เพ่ือโน้มน้าวใจให้ผู้บริโภคส่ือมีความเอนเอียงทางการเมืองไปในด้านใดด้านหนึ่ง
เปน็ ต้น

       4) 	ความตระหนักรู้ในเทคนิควิธีการน�ำเสนอสารของส่ือ สื่อมีเทคนิควิธีการน�ำเสนอสารให้ตอบ
สนองวัตถุประสงค์ที่ต้ังไว้เสมอ เทคนิควิธีการเหล่านี้มีความแตกต่างกันไปตามธรรมชาติของส่ือแต่ละ
ประเภท เช่น หนังสือพิมพ์มีวิธีการใช้พาดหัว เพ่ือท�ำให้ประเด็นข่าวท่ีต้องการน�ำเสนอเป็นที่สนใจของ
ผู้อ่าน และสื่อโทรทัศน์มีเทคนิคการใช้ขนาดภาพ หรือมุมกล้องเพื่อสร้างอารมณ์ในลักษณะต่างๆ ให้
เกดิ ข้ึนกับผ้ชู ม เป็นตน้

       5) 	ความตระหนกั รู้ในผลกระทบของสอื่ ทม่ี ีต่อปัจเจกบุคคลและสังคม ส่ือก่อใหเ้ กดิ ผลกระทบต่อ
ผู้บริโภคส่ือทั้งต่อปัจเจกบุคคลและสังคม ในระดับท่ีแตกต่างกันออกไป ดังน้ันการบริโภคส่ือ จึงต้องเป็น
ไปดว้ ยความระมัดระวงั และตระหนักรถู้ ึงผลกระทบดังกล่าวตลอดเวลา

       อย่างไรก็ตาม การรู้เท่าทันสื่อไม่ใช่ทักษะท่ีเกิดจากสัญชาตญาณ หากเป็นทักษะท่ีเกิดจากการ
เรียนรู้ ดังนั้นบุคคลจึงสามารถเรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนา เพ่ือเสริมสร้างทักษะดังกล่าวได้ ไม่ว่าจะอยู่ใน
ชว่ งวัยใดก็ตาม

       การพฒั นาตนเองเพอื่ การรเู้ ทา่ ทนั สอื่ สามารถกระทำ� ไดห้ ลายแนวทาง สำ� หรบั แนวทางการพฒั นา
ตนเองเพ่ือการรู้เท่าทันสื่อที่จะได้น�ำเสนอต่อไปน้ี ดัดแปลงมาจากกลยุทธ์การเสริมสร้างการรู้เท่าทัน
ส่ือมวลชนของพอทเตอร์ (Potter, 2001: 378 -382 ) ซึง่ สามารถสรุปเปน็ ขน้ั ตอนตา่ งๆ ไดด้ งั ต่อไปน้ี

       1. 	พัฒนาการตระหนักรู้ในการเปิดรับส่ือ หมายถึง การเปิดรับส่ืออย่างต้ังใจ ไม่ใช่แค่พลิกดู
อย่างผ่านๆ ในกรณีของสื่อสิ่งพิมพ์ ในกรณีของสื่อวิทยุมิใช่เปิดวิทยุทิ้งไว้เพ่ือไม่ให้บ้านเงียบ ฆ่าเวลา
เพราะไม่รู้ว่าจะท�ำอะไร ในกรณีของส่ือโทรทัศน์และภาพยนตร์ก็มิใช่เปิดผ่านไป เนื่องจากการบริโภคส่ือ
อยา่ งตง้ั ใจและมวี ตั ถปุ ระสงคอ์ ยา่ งชดั เจน เปน็ การกระทำ� แรกทท่ี ำ� ใหเ้ ราตอบคำ� ถามตนเองไดว้ า่ เรากำ� ลงั
ใช้ส่ือเพ่ืออะไร การเปิดรับสื่อในขณะนั้นเป็นไปเพ่ือตอบสนองวัตถุประสงค์ดังกล่าวหรือไม่ และเรามีการ
ยดึ ติดกบั ส่อื มากนอ้ ยเพยี งใด

       ข้ันตอนของการพัฒนาการตระหนักรู้ในการเปิดรับส่ือน้ีดูเหมือนจะเป็นขั้นตอนง่ายๆ แต่จริงๆ
แลว้ เป็นขัน้ ตอนที่ตอ้ งใชร้ ะยะเวลาในการฝกึ ฝนพอสมควร เนือ่ งจากในปัจจบุ นั คนสว่ นมากมกั มกี ารเปดิ
รับสื่อด้วยความเคยชิน เช่น เมื่อกลับเข้าบ้านก็ต้องเปิดโทรทัศน์ทันที โดยต้องเลือกเปิดไปท่ีช่องท่ีเรามี
ความเคยชนิ ด้วยมากท่ีสดุ เสียก่อน ทงั้ ๆ ทไ่ี ม่มีเหตผุ ลอะไรทตี่ อ้ งท�ำอยา่ งนน้ั

       2. 	สร้างนิสัยการตระหนักรู้ในการเปิดรับสื่อ เมื่อพัฒนาการตระหนักรู้ในการเปิดรับสื่อได้จาก
การเฝ้าระวังพฤติกรรมของตนเองด้วยการจดบนั ทกึ ในเบื้องตน้ ได้แลว้ เราตอ้ งสร้างนิสยั การตระหนักรใู้ น
การเปดิ รบั สอ่ื ใหเ้ ปน็ ไปอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ดว้ ยการเปดิ รบั สอ่ื ดว้ ยความตง้ั ใจทกุ ครงั้ ไมใ่ ชท่ ำ� ไปดว้ ยความเคยชนิ
   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66