Page 65 - ความรู้เบื้องต้นการสื่อสารชุมชน
P. 65

การส่อื สารชุมชนกับการพัฒนาสตรใี นชุมชน 9-55
คำ� วา่ เควยี ร์ (queer) ที่มคี วามหมายเชน่ เดยี วกนั แต่มที มี่ าจากประเทศสหรัฐอเมรกิ า (วภิ าดา เอย่ี มคง,
2553: 3-4)

       เน้ือหาต่อไปน้ีผู้เขียนจะได้น�ำเสนอเก่ียวกับการสื่อสารและกลุ่มเพศสภาวะที่หลากหลาย โดยจะ
พจิ ารณาใน 2 ประเดน็ หลกั คือ การสอื่ สารของเพศสภาวะทห่ี ลากหลาย และการสอ่ื สารชมุ ชนเพอื่ พฒั นา
เพศสภาวะทีห่ ลากหลาย ดังเน้ือหาต่อไปนี้

1. 	การสื่อสารของเพศสภาวะท่ีหลากหลาย

       ในประเดน็ นผี้ เู้ ขยี นไดก้ ลา่ วถงึ ประวตั ศิ าสตรท์ เี่ กย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ คนทมี่ เี พศสภาวะทหี่ ลากหลายใน
บรบิ ทสงั คมไทย เพอื่ สร้างความเขา้ ใจถงึ ทีม่ าทีไ่ ปของการส่อื สารเพือ่ การพัฒนาเพศสภาวะทหี่ ลากหลาย
ในสงั คมไทยว่าคนกลุม่ นี้สื่อสารอะไร อยา่ งไร และเพราะเหตุใด โดยเฉพาะในมิตขิ องการสอ่ื สารท่ีเข้าไปมี
บทบาทในการผลิตซำ�้ ภาพลักษณเ์ ชิงลบ และกดทบั ความเป็นเพศที่หลากหลาย

       1.1 	ประวัติศาสตร์เพศสภาวะท่ีหลากหลายในสังคมไทย ในประวตั ศิ าสตรไ์ ทยทเ่ี กีย่ วข้องกับผู้
ทมี่ คี วามหลากหลายทางเพศนนั้ ไมม่ กี ารบนั ทกึ ไวเ้ ปน็ หลกั ฐานทแ่ี นช่ ดั แตม่ คี วามเชอื่ กนั วา่ มอี ยนู่ านแลว้
ดังปรากฏในพุทธชาดกและพระไตรปิฎก กล่าวถึง “บัณเฑาะก์” ซ่ึงหมายถึง ผู้ชายที่มีราคะกล้า ชอบ
ประพฤตินอกรีตในการเสพกาม และเป็นบุคคลที่ถูกห้ามหรือถูกปฏิเสธไม่ให้ท�ำการอุปสมบท (พจนา
ธปู แก้ว, 2547 และวภิ าดา เอยี่ มคง, 2553) นอกจากนใี้ นสมยั พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
มหาราช ทรงมีพระราชโองการให้ก�ำหนดกฎหมายว่าด้วยการให้ราษฎรรักษาศีล คือ ศีลห้าในฐานะเป็น
นิจศีลและศีลแปดในฐานะเป็นอุโบสถศีล ในกฎหมายระบุว่า การเสพเมถุนทางมุกขมรรคและเวจมรรค
(ปากและทวารหนัก) ในกิริยาตนเองเป็นการละเมิดศีลข้อท่ี 3 ท่ีว่าด้วยการประพฤติผิดในกาม และการ
เสพเมถุนทางเวจมรรคกับผู้หนึ่งผู้ใดท่ีต้องห้ามตามศีลข้อ 3 เป็นการละเมิดศีลข้ออพรหมจริยา (การถือ
พรหมจรรย์) อนั เป็นอโุ บสถศีล อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับนีไ้ ม่มกี ารก�ำหนดโทษส�ำหรับการละเมิดศีล
ตามพระราชกำ� หนดไว้เปน็ การเฉพาะ เพียงแต่ระบวุ า่ “...ถา้ แลผู้ใดมไิ ดก้ ระทำ� ตามพระราชกำ� หนดน้ี จะ
เอาผู้นน้ั เปน็ โทษตามโทษานโุ ทษ...”

       ในพระราชพงศาวดารกรุงรตั นโกสนิ ทรส์ มัยรัชกาลท่ี 2 มีการบันทกึ วา่ พระสังฆราชวัดมหาธาตุ
มพี ฤตกิ รรมที่มีความสมั พนั ธ์กับลูกศิษยห์ นมุ่ แมไ้ ม่ถงึ ขนั้ มเี พศสัมพันธแ์ ต่มกี ารสมั ผสั ลูบคลำ� อวัยวะเพศ
จงึ ไมถ่ งึ กบั ปาราชกิ แตถ่ อื วา่ เปน็ ความผดิ เชน่ เดยี วกนั จงึ ถกู ถอดจากสมณศกั ดแ์ิ ละเนรเทศใหอ้ อกไปจาก
วัดมหาธาตุ เพ่ือลงโทษท่ีประพฤติปฏิบัติผิดหลักพระวินัยของสงฆ์อย่างหนึ่ง (พจนา ธูปแก้ว, อ้างแล้ว:
86)

       การแสดงออกถงึ พฤตกิ รรมแบบรกั เพศเดยี วกนั ในอดตี มกั เปน็ ทร่ี บั รใู้ นสงั คมไทยเฉพาะชนชน้ั สงู
ที่เรียกกนั วา่ “เล่นเพือ่ น” หมายถึง การมพี ฤตกิ รรมรักเพศเดยี วกนั ของผ้หู ญิง และ “เลน่ สวาท” หมาย
ถงึ การมพี ฤติกรรมรกั เพศเดียวกนั ของผ้ชู าย แตกต่างจากค�ำวา่ “กะเทย” ทห่ี มายถงึ บคุ คลทม่ี ลี กั ษณะ
การแสดงกิริยาท่าทางท่ีแตกต่างไปจากผู้หญิงและผู้ชายท่ัวไป พฤติกรรมทางเพศเหล่านี้ถูกมองว่าเป็น
เพยี งพฤตกิ รรมทเี่ บย่ี งเบนของความเปน็ ผหู้ ญงิ และความเปน็ ผชู้ าย ในกาลเทศะอนั จำ� กดั เชน่ ในวดั หรอื
   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70