Page 46 - ความรู้และทักษะการสื่อสารชุมชน
P. 46

14-36 ความร้แู ละทกั ษะการสือ่ สารชุมชน
สำ� คัญจากมากไปหาน้อย และมหี ลายย่อหนา้ เพอื่ สะดวกในการจบั ใจความและกรณีท่เี กินเวลาต้องมกี าร
ตดั ขา่ ว โดยจะประกอบดว้ ยสว่ นสำ� คญั 3 ส่วนคอื หวั ข้อข่าว (Headline) ความนำ� (Lead) และเน้อื หา
(Body) ดงั น้ี

            1.	 หัวข้อข่าว จะเขียนไวท้ ีม่ ุมบนซ้ายของหนา้ โดยเขียนเป็นขอ้ ความสน้ั ๆ เป็นการเขยี น
สรุปประเดน็ สำ� คญั ของขา่ วเพื่อให้ผูฟ้ ังรู้วา่ เป็นข่าวเกย่ี วกบั เรอ่ื งอะไร โดยมีความยาวประมาณ 1 บรรทัด
ซง่ึ จะอย่ใู นหน้าแรกของข่าวท่ีเสนอในช่วงเวลานัน้ ๆ และในบรรทดั แรกของขา่ วแตล่ ะข่าว

            2. ความน�ำ เป็นส่วนที่ส�ำคัญท่ีสุดของข่าว เป็นประโยคแรกหรือย่อหน้าแรกของข่าว เพ่ือ
ขยายความดงึ ดดู ความสนใจผฟู้ งั ใหอ้ ยากตดิ ตาม และชใี้ หเ้ หน็ ทศิ ทางของเนอื้ ความขา่ วในสว่ นทเี่ หลอื โดย
เป็นการเขียนที่บอกให้ผู้ฟังทราบว่าข่าวน้ันเป็นข่าวเก่ียวกับอะไร มีอะไรเกิดข้ึน โดยหยิบเอาประเด็นที่
สำ� คญั ทส่ี ดุ ของขา่ วมาเขยี นเพอื่ บอกเรอื่ งราวและดงึ ความสนใจของผฟู้ งั สว่ นรายละเอยี ดจะไปเขยี นอยใู่ น
เน้ือเรื่อง จึงควรใช้รูปประโยคบอกเล่า ใช้ภาษาเรียบง่าย ตรงไปตรงมาและเขียนให้สั้น กระชับ ในการ
เขยี นความน�ำสามารถใช้รปู แบบดงั ตอ่ ไปน้ี

                 2.1	 ความน�ำแบบสรุป (Summary Lead) เปน็ การเขยี นความน�ำท่ีสรปุ เนอื้ หาส�ำคัญ
ไวอ้ ยา่ งครบถว้ น โดยใชห้ ลกั การ 5Ws + 1H ขน้ึ อยกู่ บั วา่ องคป์ ระกอบใดสำ� คญั ทส่ี ดุ เชน่ บคุ คล เหตกุ ารณ์
สาเหตหุ รือวธิ ีการ เป็นตน้

                 2.2	 ความนำ� แบบยกเอาคำ� พดู ทส่ี ำ� คญั มาเขยี น (Quotation Lead) เปน็ การเขยี นความ
นำ� โดยยกเอาคำ� พดู ทสี่ ำ� คญั ของบคุ คลในขา่ วมาเขยี น โดยมสี ว่ นขยายเพอื่ บอกแหลง่ ทม่ี าและโอกาสทบี่ คุ คล
น้นั ๆ พูด ซ่ึงอาจใส่ไว้ในตอนตน้ หรือตอนท้ายค�ำพูดทย่ี กมา

                 2.3	 ความน�ำแบบสร้างภาพพจน์ (Colorful Lead) เปน็ การเขยี นความนำ� เพอื่ ใหผ้ ฟู้ งั
เกดิ ภาพพจน์หรอื จนิ ตนาการไดถ้ งึ เหตุการณน์ นั้ ๆ

                 2.4	 ความน�ำแบบรุนแรง (Punch Lead) เปน็ การเขยี นความนำ� ทใี่ ชค้ ำ� พดู หรอื สำ� นวน
ท่รี นุ แรงกระทบต่อความร้สู กึ ของผฟู้ ัง

                 2.5	 ความนำ� แบบขดั แยง้ (Contrast Lead) เปน็ การเขยี นความนำ� ในกรณที มี่ เี หตกุ ารณ์
ทีเ่ ป็นความขดั แย้ง

                 2.6	 ความน�ำแบบให้ภูมิหลัง (Background Lead) เปน็ การเขยี นความนำ� ในลักษณะ
ใหภ้ ูมหิ ลงั ของเหตกุ ารณ์

                 2.7	 ความน�ำแบบต้ังค�ำถาม (Question Lead) เป็นการเขียนความน�ำเพื่อให้ผู้ฟัง
อยากรู้ผลของเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้เขียนจงใจท่ีจะถามผู้ฟังเพ่ือกระตุ้นให้เกิดความสนใจ
ในเหตุการณ์

            3.	 เน้ือหา ในการเขยี นเนอ้ื หาขา่ วจะเรม่ิ ดว้ ยขอ้ เทจ็ จรงิ ทส่ี ำ� คญั ทส่ี ดุ เปน็ การเขยี นโดยเรยี ง
ล�ำดับความสำ� คัญจากมากไปหาน้อย และควรเขียนใหส้ ้นั ได้ใจความ เนื่องจากเป็นการใหข้ ้อมูลสนั้ ๆ แต่
ครอบคลมุ คำ� ถามทวี่ า่ ใคร ทำ� อะไร ทไ่ี หน เมอื่ ไร ทำ� ไม และอยา่ งไร ทง้ั นโี้ ดยทวั่ ไปจะมงุ่ ตอบคำ� ถาม ใคร
ท�ำอะไร ทไี่ หน เม่อื ไร
   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51