Page 48 - ไทยศึกษา
P. 48
๑๔-38 ไทยศกึ ษา
เร่ืองที่ ๑๔.๔.๑
การส่งเสริมให้ความรู้และการจัดแสดงเผยแพร่ผลงานช่างไทย
งานช่างไทยได้รับการสืบทอดส�ำหรับได้ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ�ำวันพร้อมกับการรักษาคุณค่า
ทางงานชา่ งไว้ได้สบื มานั้น นอกจากจะมกี ารถ่ายทอดความรใู้ นแตล่ ะหมูช่ ่าง ทั้งในครอบครวั ชมุ ชน และ
หน่วยงานของราชการที่ท�ำงานช่างโดยตรงแล้ว ผู้น�ำเเละองค์กรของรัฐทุกยุคทุกสมัยยังทะนุบ�ำรุงงาน
ช่างไทยด้วยการส่งเสริมให้ความรู้และการสนับสนุนจัดเเสดงเผยแพร่ผลงานให้เป็นท่ีรู้จักแพร่หลายท้ังใน
ประเทศ และในสงั คมนานาชาติ ดังน้ี
การส่งเสริมให้ความรู้ทางวิชาการเก่ียวกับการผลิตไหม แต่เดิมมีไหมพันธุ์พื้นเมืองที่เล้ียงผลิต
กนั อยทู่ วั่ ไปในภาคอสี านแตผ่ ลติ ไดจ้ ำ� นวนไมม่ ากนกั ทางราชการตอ้ งนำ� เขา้ เสน้ ไหมจากตา่ งประเทศเปน็
จ�ำนวนมาก ในรชั กาลที่ ๕ โปรดฯ ให้กระทรวงเกษตราธิการสง่ เสรมิ การเลยี้ งไหม โดยวา่ จ้างผเู้ ชย่ี วชาญ
ญ่ปี ุ่น ซ่งึ มี ดร.โทยามา่ เป็นหัวหนา้ คณะเขา้ มาฝึกให้คนไทยพฒั นาความรู้ในการเพาะเลีย้ งตัวไหม การ
เลยี้ งไหม การทำ� เสน้ ไหม เรม่ิ ตน้ จากตงั้ สถานเี ลยี้ งไหมปลกู หมอ่ น ณ ตำ� บลทงุ่ ศาลาแดง กรงุ เทพมหานคร
ยกแผนกไหมขึ้นเป็นกรมช่างไหม ต่อมาได้ขยายงานตั้งสาขาข้ึนท่ีจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์
และร้อยเอด็ จนถงึ พ.ศ. ๒๔๕๖ การสง่ เสริมการเล้ยี งไหมต้องชะงกั ลงล้มเลิกไป เพราะประสบปญั หาเกิด
โรคระบาดและได้ผลไม่คุม้ ทนุ
ใน พ.ศ. ๒๔๗๘ ทางราชการไดฟ้ น้ื ฟอู าชพี การปลูกหมอ่ นเลี้ยงไหมอีกคร้ัง มกี ารจดั ต้ัง โรงสาว
ไหมกลาง ขน้ึ ทจ่ี งั หวดั นครราชสมี า เปน็ ศนู ยก์ ลางกสกิ รผเู้ ลยี้ งไหมในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื แตก่ ต็ อ้ ง
ล้มเลิก หยุดกิจการเมอ่ื เกิดสงครามมหาเอเชยี บรู พา ตอ่ มาใน พ.ศ. ๒๔๘๔ รัฐบาลได้เริม่ สง่ เสริมกิจการ
เกยี่ วกบั ไหมอกี โดยจดั ตง้ั หมวดสง่ เสรมิ การเลย้ี งไหมทอ่ี ำ� เภอปากชอ่ ง อำ� เภอพทุ ไธสง ทจ่ี งั หวดั หนองคาย
ขอนแก่น และรอ้ ยเอด็ จนถึง พ.ศ. ๒๔๙๕ จงึ ไดย้ กฐานะขน้ึ เป็นสถานสี ่งเสรมิ การเลี้ยงไหม โดยไดข้ ยาย
ตัง้ ขน้ึ ที่จังหวดั อบุ ลราชธานีและบุรรี ัมย์อกี สองแห่ง
ใน พ.ศ. ๒๕๐๙ ไดร้ ว่ มมอื กบั รฐั บาลญป่ี นุ่ ตามแผนโคลมั โบ กอ่ ตงั้ ศนู ยว์ จิ ยั และอบรมไหม ดำ� เนนิ
งานค้นคว้าวิจัย และเป็นศูนย์กลางวิชาการเกี่ยวกับเรื่องหม่อนไหม เพ่ือน�ำไปส่งเสริมแก่กสิกรอย่าง
กว้างขวางมาจนปจั จุบนั
การส่งเสริมการผลิตเป็นอุตสาหกรรม รัฐบาลในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงครามได้มีนโยบาย
สง่ เสรมิ งานศลิ ปหตั ถกรรมพนื้ บา้ น จกั สาน ไมไ้ ผ่ และดนิ เผา เรยี กโดยยอ่ วา่ จผด. เพอ่ื ยกระดบั ฝมี อื และ
การผลิตเปน็ สนิ คา้ จำ� หน่ายเพื่อเพ่ิมพนู รายได้ และยงั ไดส้ ่งเสรมิ กิจกรรมทอผ้า ทัง้ การป่ันดา้ ย การทอผ้า
ตามหมู่บ้านให้ถูกหลักวิชา รวมท้ังให้มีการดูแลควบคุมการผลิต การจัดจําหน่าย อยู่ในความรับผิดชอบ
ของกรมสง่ เสรมิ อตุ สาหกรรม ซงึ่ ปจั จบุ นั กรมนย้ี งั คงดำ� เนนิ การสง่ เสรมิ การผลติ งานศลิ ปหตั ถกรรมพน้ื บา้ น
ในทอ้ งถิ่นตา่ งๆ อย่างกวา้ งขวาง มีการตั้งศนู ยก์ ารแสดงเเละจำ� หน่ายผลติ ภณั ฑ์ การจดั เเสดงนิทรรศการ
แสดงสินคา้ ผลิตภณั ฑเ์ ป็นประจ�ำทกุ ปี