Page 17 - เศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรม เทคโนโลยี และความจำเริญทางเศรษฐกิจ
P. 17
แนวคดิ ทฤษฎที ี่เก่ียวข้องกับความจำ�เริญทางเศรษฐกจิ II 3-7
เรื่องที่ 3.1.1
ทฤษฎีความจ�ำเริญทางเศรษฐกิจกับอุปทานแรงงานของลูวิส
ความน�ำ
จากการศกึ ษาในตอนท่ี 2.4 มาแลว้ นน้ั ในความเปน็ จรงิ แลว้ ขน้ั ตอนของความจำ� เรญิ ทางเศรษฐกจิ
มิได้แบ่งแยกออกไปในแต่ละข้ันอย่างเด็ดขาด เช่น เมื่อสังคมเปลี่ยนสภาพจากการเกษตรไปเป็น
อตุ สาหกรรมนนั้ การผลติ ทางการเกษตรกย็ งั ด�ำเนนิ การอยู่ แมส้ งั คมบางสว่ นจะเปลยี่ นเปน็ สงั คมเมอื ง แต่
กย็ งั มสี งั คมหลายแหง่ ยงั เปน็ สงั คมชนบท ดงั นน้ั ระบบเศรษฐกจิ จงึ มสี องระบบหรอื เศรษฐกจิ ทวภิ าค (Dual
Economy) คอื มภี าคเศรษฐกจิ ทเี่ จรญิ กา้ วหนา้ ทนั สมยั และภาคเศรษฐกจิ ทล่ี า้ หลงั อยรู่ ว่ มกนั ลกั ษณะของ
เศรษฐกิจทวิภาคท่ีพบมีหลายลักษณะ ท้ังลักษณะด้านการผลิต สถาบันการผลิต ลักษณะทางด้านที่ตั้ง
และลกั ษณะทางสงั คม คอื ทกุ ลกั ษณะจะมภี าคทท่ี นั สมยั และภาคทย่ี งั ลา้ หลงั อยดู่ ว้ ยกนั ซง่ึ การเกดิ เศรษฐกจิ
ทวิภาคน้ันอาจเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหน่ึงหรือหลายสาเหตุ คือ เกิดจากการกระจุกตัวของการพัฒนา
โดยมีการพัฒนาเฉพาะในเมืองขนาดใหญ่ เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจมากกว่าการพัฒนาในเมืองเล็ก
เนอื่ งจากมงี บประมาณจำ� กดั ขณะเดยี วกนั กม็ กี ารกระจกุ ตวั ของบรกิ ารดา้ นการศกึ ษา คอื มกี ารกระจายตวั
ของสถาบันการศึกษาไม่ท่ัวถึง ประชากรมีโอกาสได้รับการศึกษาไม่เท่ากันผู้ที่มาจากครอบครัวท่ียากจน
ขาดโอกาสในการศึกษา เนื่องจากขาดทุนทรัพย์ และการติดต่อสัมพันธ์กับต่างประเทศ ท้ังในรูปการค้า
การลงทนุ การใหค้ วามช่วยเหลอื แบบให้เปลา่ ซง่ึ มีการกระจุกตวั ประชาชนบางสว่ นไดป้ ระโยชน์เท่าน้ัน
ดังน้ันแนวคิดของทฤษฎีความจ�ำเริญทางเศรษฐกิจของนักเศรษฐศาสตร์หลายท่านจึงมีแนวคิดว่าจะท�ำ
อยา่ งไรในการพฒั นาทจี่ ะทำ� ใหภ้ าคการผลติ ทเี่ จรญิ กา้ วหนา้ มสี ว่ นชว่ ยผลกั ดนั ภาคเศรษฐกจิ ทล่ี า้ หลงั ใหม้ ี
การพฒั นามากขน้ึ จนใกลเ้ คยี งกนั โดยในเรอ่ื งที่ 3.1.1 จะไดก้ ลา่ วถงึ ทฤษฎคี วามจำ� เรญิ ทางเศรษฐกจิ ของลวู สิ
แนวคิดทฤษฎีความจ�ำเริญทางเศรษฐกิจของลูวิส
อารเ์ ธอร์ ลวู สิ (Arthur Lewis) ไดศ้ กึ ษาเกย่ี วกบั สาเหตขุ องความดอ้ ยพฒั นาของประเทศตา่ งๆ
หลงั สงครามโลกครง้ั ทส่ี องสนิ้ สดุ ลง โดยเขยี นบทความเรอื่ ง “Economic Development with Unlimited
Supplies of Labor” ใน ค.ศ. 1954 และลูวิสมีความเชื่อวา่ สาเหตุของความดอ้ ยพฒั นาเกิดจากลกั ษณะ
ทวภิ าค (Dualism) ของระบบเศรษฐกจิ ของประเทศเหลา่ นน้ั และประเทศจะพฒั นาไดก้ ต็ อ้ งใหภ้ าคการผลติ
ที่ทนั สมัยที่มกี ารแลกเปลีย่ นผลผลิตและบรกิ ารขยายตัว ในขณะที่ภาคท้องถ่นิ ด้ังเดมิ หดตวั ลง
ลกั ษณะทวภิ าคของระบบเศรษฐกจิ ของลวู สิ หมายถงึ ระบบทปี่ ระกอบดว้ ยสองภาค คอื ภาคการผลติ
นายทุน (Capitalist Sector) และภาคการผลิตท่ีไม่ใช่นายทุน (Non–capitalist Sector) หรือภาค
ที่มีระบบการผลิตแบบพอยังชีพ ภาคทุนเป็นภาคการผลิตท่ีทันสมัยมีการใช้ทุนในการผลิตและมีการจ้าง
แรงงาน ในขณะที่ภาคไม่ใช้ทุนมีการใช้ทุนในระดับต่�ำ และไม่มีการจ้างแรงงาน แรงงานท่ีใช้เป็นแรงงาน
ครอบครวั มลี กั ษณะการวา่ งงานแอบแฝง (Disguised Unemployment) โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในการผลิต

