Page 40 - ภาษาและทักษะเพื่อการสื่อสาร
P. 40
4-30 ภาษาและทกั ษะเพ่อื การสอ่ื สาร
นอกจากภาษาไทยแล้ว ค�ำในภาษาองั กฤษ เช่น class, fast, chance ออกเสยี ง a เปน็ อา หรือ
แอ กไ็ ด้ ดังนั้นเราจงึ พบว่ามีผูอ้ อกเสยี งทงั้ คลาส–แคลส, ฟาสต–์ แฟสต,์ ชานซ์–แชนซ์ เปน็ ต้น
3.2 การแปรรูปแบบของภาษา หมายถึง การเปล่ียนต�ำแหน่งการเรียงค�ำในประโยค การใช้
ลักษณะนาม และการเปลยี่ นแปรคำ� ศัพท์ ดังนี้
1) การเรียงค�ำในประโยค มกี ารเรยี บเรยี งคำ� ตามรปู แบบตะวนั ตก เชน่ เอาผถู้ กู ระทำ� หรอื
“กรรม” ขนึ้ มาเปน็ ประธานของประโยค หรือใชป้ ระโยคตามสำ� นวนตะวันตก การเรียงประโยคแบบนเี้ รา
มักจะพบเห็นจากการใช้ภาษาในหนังสือพิมพ์ เช่น
- เศรษฐนี ถี ูกโจรเห้ยี มสงั หารอย่างทารณุ
- นายกรฐั มนตรีถูกรุมล้อมดว้ ยกองทัพนักขา่ ว
- รถถกู น�ำไปเปลี่ยนสภาพโดยโจรมอื อาชีพ
- รฐั มนตรกี ระทรวงการคลงั ซงึ่ กลายเปน็ อดตี ไปแลว้ มคี วามหว่ งใยตอ่ สภาพเศรษฐกจิ
ในปจั จุบนั
2) การใช้ลักษณะนาม ลกั ษณะนาม หมายถึง คำ� ที่บอกลกั ษณะของคำ� นามที่อยู่ขา้ งหน้า
เช่น แหวน 2 วง สร้อยคอ 1 เส้น ต�ำรวจ 3 นาย ศิลปิน 2 คน เปน็ ตน้ ในภาษาไทยคำ� ลกั ษณะนามตอ้ ง
อยหู่ ลงั จำ� นวนนบั แตใ่ นวงการสอื่ มวลชนโดยเฉพาะหนงั สอื พมิ พ์ ในการพาดหวั ขา่ วมกั ตดั ลกั ษณะนามออก
แลว้ ใช้คำ� นามอย่หู ลังจำ� นวนนบั เพอื่ ประหยัดพ้ืนทแ่ี ละเร้าความสนใจของผอู้ ่าน เช่น
- 2 ศิลปินไทยสร้างชอ่ื กอ้ งโลก
- 3 วัยรุน่ ควงลกู ซองยิงเพื่อนดบั
- 6 ชีวติ ถูกทิ้งกลางปา่ นอนหนาวซกุ เพงิ สงั กะสี
- 2 โจรสวมหมวกกนั น็อค บุกปล้นร้านสะดวกซอ้ื
3.3 การเปล่ียนแปรในด้านศัพท์ ปจั จบุ นั มคี ำ� ใหมเ่ กดิ ขน้ึ ในภาษาไทยมากมาย ทง้ั ภาษาพดู และ
ภาษาเขยี น ค�ำใหม่เหลา่ นี้มาจากทีต่ ่างๆ กนั คอื
1) ค�ำภาษาต่างประเทศ ภาษาไทยเรารบั เอาคำ� ภาษาของชาตติ า่ งๆ มาใชเ้ ปน็ จำ� นวนมาก
จนกลายเปน็ ภาษาไทย เชน่ ภาษาบาล–ี สนั สกฤต ภาษาจนี ภาษาเขมร ภาษาองั กฤษ เปน็ ตน้ ยกตวั อยา่ ง
ค�ำภาษาองั กฤษทีเ่ รานำ� มาใช้ เช่น อินเทอร์เนต็ (internet) โลจสิ ตกิ ส์ (logistic) สตาร์ตอปั (startup)
แพ็กเกจ (package) โปรโมชัน (promotion) ดิจิทลั (digital) อิมเมจ (image) ฮารด์ แวร์ (hardware)
โนต้ บุ๊ก (notebook) ฯลฯ และมหี ลายค�ำได้กลายเป็นคำ� ทีใ่ ชใ้ นชวี ิตประจำ� วัน เช่น แก๊ส (gas) รถปกิ อัป
(pick-up) แบงค์ (bank) โคมา (coma) โชว์ (show) และคำ� อื่นๆ อกี มากมาย เปน็ ต้น
2) ค�ำคะนอง หรือค�ำสแลง แต่เดิมคะนองเป็นค�ำที่ใช้ในกลุ่มคนบางกลุ่ม และใช้ในช่วง
เวลาหนงึ่ เท่าน้ัน ปัจจุบันมีการใช้คำ� คะนองโดยท่ัวไป โดยสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์เป็นผู้เผยแพร่
ทำ� ใหค้ นทว่ั ไปเขา้ ใจความหมายไมเ่ ฉพาะในกลมุ่ หนงึ่ ๆ เทา่ นนั้ เชน่ กก๊ิ ชวิ ๆ เซอรๆ์ เดก็ สกอ๊ ย เดก็ แวนส์
องค์ลง หงายเงิบ ขั้นเทพ ตัวแม่ เมาท์มอย นอย ตะมุตะมิ เป็นต้น