Page 21 - ทักษะชีวิต
P. 21

ทักษะการทำ�งานในศตวรรษท่ี 21 10-11
       1) 	ชมุ ชนชนบทแบบดงั้ เดมิ ทำ� งานไปตามชว่ งจงั หวะของธรรมชาตแิ ละวฒั นธรรมประเพณี ไมต่ งั้
เปา้ หมายในการทำ� งาน มงุ่ เพยี งเพอ่ื เลย้ี งชพี หรอื ดำ� รงชวี ติ อยไู่ ดแ้ ละไมค่ อ่ ยคดิ วางแผนหรอื สรา้ งสงิ่ แปลกใหม่
       2) ชุมชนชนบทสมัยใหม่ เปลี่ยนจากการอาศยั ธรรมชาติและประเพณี มาเปน็ อาศยั โอกาสจาก
ตลาดและเทคโนโลยีมากขึน้ มองการทำ� งานว่าเป็นการสร้างฐานะและพฒั นาสถานภาพทางสังคม
       3) 	ชุมชนเมืองเล็ก เปน็ จดุ รวมของวฒั นธรรมการทำ� งานแบบชนบทและแบบเมอื ง โดยทเ่ี ปน็ การ
รวมแบบ “ปะปนกนั ” มากกวา่ “หลอมเขา้ ด้วยกัน” เพราะความคิดและพฤตกิ รรมหลายอยา่ งหลอมเข้า
กนั ไดย้ าก คนในชมุ ชนเชอื่ ในการพง่ึ ผ้มู ีอำ� นาจมากกวา่ ชุมชนประเภทอ่นื
       4) 	ชุมชนเมืองใหญ่ เชน่ ตวั จังหวดั มสี ภาพแวดลอ้ มทางกายภาพทีต่ า่ งกบั ชนบท ลกั ษณะของ
การท�ำงานก็ต่างออกไป แต่ก็ยงั ยึดแนวคดิ ท�ำงานเพอ่ื สร้างรายได้ เพ่ือเงิน ท�ำใหม้ กี ารแขง่ ขันกันมากข้นึ
       แนวโน้มความเปลีย่ นแปลงของการท�ำงานพบวา่ ในอดีตแตกตา่ งจากปจั จุบันไปมาก ท้งั ในส่วนท่ี
เก่ียวกับสภาพแวดล้อมทางกายภาพ วัตถุสิ่งของ ตลอดจนเครื่องมือเคร่ืองใช้ รวมถึงเทคโนโลยี ซึ่งใน
ระยะยาวจะสง่ ผลใหเ้ กดิ ความเปลย่ี นแปลงดา้ นความคดิ ความรสู้ กึ และคา่ นยิ ม อนั เปน็ วฒั นธรรมทางจติ ใจ

2. 	 ความส�ำคัญของการท�ำงาน

       การทำ� งานของมนุษย์น้นั ส�ำคญั มากเพราะส่งผลตอ่ ท้ังระบบเศรษฐกิจ สงั คม การเมือง และดา้ น
จิตวทิ ยา โดยสามารถสรปุ ประโยชน์และความส�ำคญั ของการทำ� งานได้ ดังน้ี

       2.1 	ดา้ นจติ ใจ การทำ� งานมผี ลโดยตรงกบั การพฒั นาศกั ยภาพของบคุ คล เมอ่ื บคุ คลทำ� งานประสบ
ความสำ� เร็จจะสง่ ผลดตี ่อจติ ใจ ดังนี้

            2.1.1 	ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง บุคคลท่ีท�ำงานย่อมได้รับความภูมิใจท่ีสามารถ
ควบคุมตนเองและสภาพแวดล้อมได้ เช่น การไปท�ำงานแสดงให้เห็นว่าบุคคลนั้นมีความสามารถในการ
ควบคมุ ตนเองให้ต่นื แต่เชา้ และเดนิ ทางไปท�ำงานได้

            2.1.2 	รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า การท่ีงานผูกผันกับกิจกรรมที่ท�ำให้เกิดสินค้าและบริการท่ีมี
คุณค่าต่อผู้อื่น ท�ำให้บุคคลนั้นรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า เพราะแม้ว่าบุคคลจะมีเงินทองมากพอใช้จนไม่ต้อง
ทำ� งาน กย็ งั พบวา่ บคุ คลเหลา่ นนั้ ยงั ตอ้ งการทจี่ ะทำ� งานตอ่ ไป เพราะการทำ� งานจะทำ� ใหเ้ กดิ ความรสู้ กึ ผกู พนั
และเปน็ สว่ นหนงึ่ ของสงั คม การมเี ปา้ หมายหรอื ภารกจิ ทจ่ี ะตอ้ งปฏบิ ตั จิ ะทำ� ใหบ้ คุ คลรสู้ กึ มคี ณุ คา่ และมเี ปา้ หมาย
ในชีวิต (Devies, & Sheleton, 1974, p. 4; Morse, & Weiss, 1968, pp. 7-8)

            2.1.3 	มีความเชื่อม่ันในตนเอง หากเปรียบเทียบบุคคลท่ีมีงานท�ำกับบุคคลที่ตกงาน หรือ
ยงั หางานทำ� ไมไ่ ดน้ น้ั สภาพจติ ใจของบคุ คลทตี่ กงานจะหดหู่ ทอ้ แท้ ความเชอ่ื มนั่ ในตนเองจะตำ�่ กวา่ คนท่ี
มีงานท�ำ (เฉลียว บุรีภกั ดี และคณะ, 2529, น. 2-8)

       2.2 	ด้านเศรษฐกิจ การทำ� งานของบคุ คลยอ่ มสง่ ผลใหเ้ ศรษฐกจิ เจรญิ เตบิ โต ทำ� ใหม้ ขี องกนิ ของใช้
เพ่มิ ข้ึน มีเงินมรี ายได้เพ่อื นำ� ไปซ้อื ข้าวของเครอ่ื งใชอ้ ่ืนๆ ตอ่ ไป ทำ� ใหร้ ะบบเศรษฐกจิ ขบั เคลอ่ื นตอ่ ไปได้
ดงั คำ� ขวญั ทจ่ี งู ใจใหค้ นไทยขยนั ทำ� งานเพอ่ื กระตนุ้ เศรษฐกจิ ทว่ี า่ “งานคอื เงนิ เงนิ คอื งาน บนั ดาลสขุ ” เมอ่ื
คนในชาติทำ� งานมีรายได้มาเล้ยี งตนเองและครอบครวั จะสง่ ผลให้อตั ราการว่างงานลดลง ซง่ึ เป็นการชว่ ย
รัฐในการลดปญั หาสงั คมอกี ทางหน่งึ เมือ่ บุคคลมีสภาพสงั คมมคี วามเปน็ อยู่ที่ดี มีการใชท้ รัพยากรภายใน
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26