Page 11 - เทพนิยายสงเคราะห์เรื่อง เมขลา-รามสูร และพระคเณศ
P. 11
1
ถ้าจะถือว่าความรู้ที่สมควรเรียกว่าเป็นประโยชน์น่าเอาใจใส่นั้น
จะต้องได้แก่ความรู้ที่ช่วยทวีทรัพย์สินโภคสมบัติ หรือที่ยกฐานะหน้าที่ทาง
สมาคมให้ดีเด่นขึ้นไซร้ เรื่องเทพนิยายอย่างที่จะเล่าต่อไป ก็จะอ้างไม่ได้ว่า
เป็นความรู้ด ้วย แต่ถ ้าถ ือว่าสิ่งที่ย ่อมทำให้ได้รับค วามบันเทิงใจ หรือท ำให้เกิด
ความคิดน ึก อันเป็นอาหารท างใจ ย่อมเป็นค วามรู้ด ้วยแล้วเรื่องเทพนิยายก ็
น่าจะถือว่าเป็นความรู้ด ้วย เพราะท่านว่าเทพนิยายเป็นเครื่องช่วยในก ารอ่าน
วรรณคดี และวรรณคดีท ี่ย ังต้องเรียนต้องศึกษากันอ ยู่ก็เพราะเป็นสหายท ี่ด ีย ิ่ง
ดว้ ยเป็นสิง่ ท ีเ่ พิม่ พนู ค ณุ ธรรมแ ละความสขุ ใหแ้ กผ่ อู้ ่าน แตถ่ ้าการอ า่ นน ัน้ ผ อู้ ่าน
ขาดค วามรู้ในเรื่องเทพนิยาย ก็จะท ำให้ค วามเข้าใจในเรื่องลดน ้อยลง ไม่เป็นท ี่
ดูดด ื่มซ ึมซาบ ยกต ัวอย่างเรื่องเมขลารามสูรท ีจ่ะก ล่าวต ่อไปน ี้ จินตกวแี ตก่ ่อน ๆ
เมื่อต ้องการจะเปรียบเทียบความค มข องแ ววต าห ญิงงามท ีช่ ม ้ายช ายม าป ระสบ
ว่าม ีแ สงค มแ ปลบกระทบห ัวใจผ ู้ท ี่ต ้องส ายตา กระทำให้ผ ู้น ั้นเกิดอาการวิปลาส
ใจวาบหวามงงจังงัง ก็ม ักน ำเอาเรื่องเมขลารามสูรขึ้นมาเปรียบอ ้าง เช่น
*เสฐียรโกเศศ และนาคะประทีป แต่งเรื่องนี้ร่วมกัน