Page 313 - องค์การและการจัดการและการจัดการทรัพยากรมนุษย์
P. 313

การ​ติดตาม​ควบคุม 6-85

            3.3	 นวัตกรรม (Innovation) หมาย​ถึง ความ​สามารถ​ใน​การ​คิดค้น​หรือ​ประดิษฐ์​สิ่ง​ใหม่​ใน​การ​สร้าง​
คุณค่า (Value Creation) ให้ก​ ับ​ลูกค้า องค์การ​ที่ป​ ระสบ​ความส​ ำเร็จ​จะต​ ้องใ​ห้ค​ วาม​สำคัญก​ ับน​ วัตกรรม ซึ่งอ​ าจเ​กิด​
ได้ก​ ับผ​ ลิตภัณฑ์ (Product Innovation) เช่น Gillette พัฒนาม​ ีดโกนไ​ปเ​รื่อยๆ จาก​ใบ​มีด 1 ใบ เป็น 2 ใบ และ 3
ใบ และ​มีแ​ ผ่น​เคลือบเ​พื่อค​ วาม​ลื่นไ​หล หรือ​มีด​ ้ามย​ าวก​ ว่าเ​พื่อ​ความส​ ะดวก​จับ หรือ​นวัตกรรม​อาจเ​กิด​ได้​กับช​ ่อง​ทาง​
จำหน่าย (Channel Innovation) เช่น การท​ ี่ผ​ ู้ป​ ระกอบก​ ารอ​ าหารจ​ านด​ ่วน เช่น Burger King. KFC และ Pizza Hut
ใช้​รูป​แบบ​ร้าน​ที่​เป็น Kiosk ตาม​สนามบิน หรือ​ที่​เป็น​ร้าน​สะดวก​ซื้อ​ตาม​สถานี​บริการ​น้ำมัน เป็นต้น และ​แม้​กระทั่ง​
นวัตกรรมด​ า้ นร​ าคา เช่น Southwest Airline ในส​ หรัฐอเมริกา ใชน้​ โยบายร​ าคาต​ ่ำเ​ป็นท​ างเ​ลอื กใ​นก​ ารแ​ ข่งขัน เปน็ ตน้
เครื่องม​ ือใ​นก​ ารว​ ัดน​ วัตกรรมซ​ ึ่งอ​ าจน​ ำม​ าใ​ช้ เช่น จำนวนผ​ ลิตภัณฑ์ใ​หม่ซ​ ึ่งน​ ำเ​ข้าส​ ู่ต​ ลาด ระยะเ​วลาท​ ี่ใ​ช้ใ​นก​ ารพ​ ัฒนา​
เทคโนโลยีใ​หม่ ความส​ ามารถใ​น​การนำส​ ิน​ค้า​ใหม่ๆ เข้าต​ ลาด​ได้​ก่อน​คู่​แข่งขัน และต​ ้นทุน​ของ​การ​พัฒนา​เทคโนโลย​ี
ใหม่ๆ และ​ผลิต​ภัณฑ์ใ​หม่ๆ เป็นต้น

            3.4 	ความส​ ามารถใ​นก​ ารต​ อบส​ นองค​ วามต​ ้องการข​ องล​ ูกค้า (Customers Responsiveness) องค์การใ​ด​
ที่​มี​ความ​สามารถ​ใน​การ​ตอบ​สนอง​ความ​ต้องการ​ของ​ลูกค้า​ได้​ดี โดย​เฉพาะ​ทำได้​อย่าง​เบ็ดเสร็จ​สมบูรณ์ (Total
Solution) จะ​สามารถ​สร้าง​ความ​พอใจ​ให้​กับ​ลูกค้า และ​นำไ​ปส​ ู่​ความ​จงรัก​ภักดี​ใน​ตราสิน​ค้า (Brand Loyalty) ของ​
องค์การ การ​ตอบ​สนอง​ความ​ต้องการ​ของ​ลูกค้า​ได้​อย่าง​เบ็ดเสร็จ​สมบูรณ์ อาจ​ทำได้​ดัง​กรณี​ตัวอย่าง​ของ Nestle’s
ซึ่งเ​ปิด​สาย​ด่วน (Hotline) เพื่อใ​ห้​ลูกค้าม​ ีโ​อกาสโ​ทรศัพท์ป​ รึกษา​กับ​หมอเ​รื่อง​สุขภาพ​ของล​ ูกห​ ลานข​ องต​ น หรือ​กรณ​ี
ที่ Southwest Airline ปรับ​ตารางเ​วลาน​ ั้น เพื่อ​ให้น​ ักศึกษาแ​ พทย์ส​ ามารถเ​ดิน​ทางจ​ าก Dallas ไป Austin เพื่อเ​ข้า​
เรยี นไ​ดท​้ นั เ​วลา กเ​็ ปน็ ต​ วั อยา่ งท​ ดี​่ ใ​ี นเ​รือ่ งน​ ี้ เครือ่ งม​ อื ซ​ ึง่ อ​ าจน​ ำม​ าใ​ชว​้ ดั ใ​นด​ า้ นน​ ี้ เชน่ จำนวนล​ กู คา้ ท​ กี​่ ลบั ม​ าใ​ชบ​้ รกิ ารซ​ ำ้
ระดับข​ อง​ระยะ​เวลา​ที่​ใช้ใ​น​การบ​ ริการ หรือร​ ะดับ​ความม​ ากน​ ้อยข​ อง​การ​ให้​บริการ​กับล​ ูกค้า เป็นต้น

       4. 	 ผล​ประกอบ​การ​ของ​องค์การ (Output Performance) ใน​ขั้น​ตอน​สุดท้าย​ของ Balanced Scorecard
Model ที่​เสนอ​ไว้​ก็​คือ การ​วัดผลป​ ระกอบก​ ารข​ อง​องค์การ​ใน​ภาพ​รวม​ว่าม​ ีผ​ ลก​ าร​ดำเนิน​การ​เป็น​อย่างไร ใน​ขั้น​ตอนน​ ี้​
อาจน​ ำม​ าตรว​ ัดท​ างการเ​งินต​ ่างๆ มาใ​ช้ได้ เช่น อัตราผ​ ลต​ อบแทนจ​ ากก​ ารล​ งทุน (ROI) กำไรต​ ่อห​ ุ้น (EPS) อัตราร​ ้อยล​ ะ​
ของ​กำไร​ต่อย​อด​ขาย (Yield) ราคาข​ องห​ ุ้น (Stock Price) ส่วนค​ รองต​ ลาด (Market Share) และ/หรืออ​ ัตรา​เพิ่มข​ ึ้น​
ของ​ยอด​ขาย เป็นต้น

       จาก​ที่​กล่าว​มา​ข้าง​ต้น จะ​เห็น​ได้​ว่า Balanced Scorecard Model ช่วย​ให้​ฝ่าย​บริหาร​สามารถ​มี​ระบบ​การ​
ติดตาม​ควบคุม​ที่​มี​ขอบเขต​ครอบคลุม​มิติ​ต่างๆ อย่าง​สมบูรณ์ ไม่มี​ลักษณะ​คงที่ (Static) เหมือน​ระบบ​การ​ติดตาม​
ควบคุม​แบบ​เดิม​ที่​ใช้​อยู่​ซึ่ง​จะ​เน้น​เพียง​การ​ใช้​มาตร​วัด​ทางการ​เงิน​เพียง​อย่าง​เดียว​ใช้​วัดผล​ลัพธ์​เท่านั้น ใน​ทาง​ตรง​
กันข​ ้าม​ตัวแ​ บบ Balanced Scoreard จะ​ใช้​การ​วัดผล​ทั้งท​ ี่​เป็นแ​ นวทางห​ ลัก การ​กำหนด​กลยุทธ์​และโ​ครงสร้าง และ​
รวม​ถึงม​ ิติ​ด้าน​ความ​ได้เ​ปรียบ​ทางการ​แข่งขัน ซึ่งม​ ีล​ ักษณะ​เป็น​พลวัตตามส​ ภาพข​ องก​ าร​แข่งขัน​ตลอดเ​วลา​ด้วย

                              ลขิ สิทธิ์ของมหาวทิ ยาลยั สุโขทัยธรรมาธริ าช
   308   309   310   311   312   313   314   315   316   317   318