Page 49 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 49
แนวคิด หลักการและกลวิธิีของการป้องกันโรค 2-47
การสังเกตว่า เด็กหรือวัยรุ่นจะมีแนวโน้มเป็นคนก้าวร้าว ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาหรือไม่นั้น
นอกจากการสังเกตได้ง่ายจากเด็กที่มีปัญหาพฤติกรรมด้านอารมณ์อยู่แล้ว เช่น ชอบก่อกวน โหดร้ายทารุณสัตว์
ชกต่อย ทำร้ายร่างกายตนเองและผู้อื่น ทำลายข้าวของ ขู่คุกคาม ไม่เคารพกฎระเบียบต่างๆ เด็กวัยรุ่นที่เก็บตัว
เก็บกด ไม่เคยได้ระบายความรู้สึกออกมาอย่างเหมาะสม จะเป็นกลุ่มเด็กที่น่าเป็นห่วงและควรเฝ้าระวังด้วยเช่นกัน
เพราะมีโอกาสที่จะแสดงความก ้าวร้าวรุนแรง เป็นอ ันตรายต่อต นเอง คนรอบข้าง และสังคมได้ท ุกเมื่ออย่างน่าก ลัว
แนวทางป้องกันความรุนแรงที่เกิดขึ้นต้องแบ่งกลุ่มเด็กออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่เป็นปัญหามาก เป็น
หัวโจกในการปลุกระดม กับกลุ่มเด็กปกติ หรือกลุ่มเด็กที่มีแนวโน้มจะก่อความก้าวร้าวรุนแรง ซึ่งเด็กกลุ่มแรก
อาจต้องใช้กระบวนการทางกฎหมายมาช่วยแก้ จะเป็นหนทางหนึ่งในการฝึกความอดทนและเป็นระเบียบวินัย
ให้เด็กเกิดการยอมรับว่า เขาทำผิด ต้องได้รับผลจากการกระทำความผิดนั้น ทั้งนี้ ในระบบกฎหมายจะมีเรื่อง
การฟื้นฟูจิตใจให้ดีขึ้น ทั้งการปรับพฤติกรรมและอารมณ์ เพื่อให้ผู้กระทำผิดออกมาเป็นคนดีของสังคม ขณะที่
ครอบครัว ชุมชน สังคม ก็ต้องให้การยอมรับ ไม่ตีตรา ตอกย้ำ ดูถูกเหยียดหยามถึงความผิดของพวกเขา เพื่อให้
พวกเขามีโอกาสท ี่จ ะป รับตัว สามารถก ลับม าเป็นคนดีของส ังคมได้
ส่วนเด็กกลุ่มปกติหรือมีความเสี่ยงควรมีการส่งเสริมป้องกัน โดยมีพื้นที่ให้เด็กหรือวัยรุ่นได้ทำกิจกรรม
ที่เสริมสร้างคุณค่าให้แก่ตัวเอง มากกว่าการคอยห้ามปรามหรือตำหนิพวกเขา ในส่วนของพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู
อาจารย์ ต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เข้าใจธรรมชาติของเด็ก ช่วยพวกเขาหาตัวตนให้ได้ พัฒนาความฉลาดทาง
อารมณ์ (EQ) โดยเฉพาะการควบคุมอารมณ์ การเสริมทักษะชีวิต มีกิจกรรมเสริมให้เรียนรู้ถึงผลที่จะได้รับจาก
การใช้ความร ุนแรงในก ารแก้ไขปัญหา กิจกรรมฝึกค วามอดทน แยกแยะความถูกผ ิด รู้จักการให้อภัย สร้างระเบียบ
วินัยให้ตนเองได้ สำหรับเด็กและกลุ่มเพื่อนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างคุณค่าในตัวเอง และช่วยลดปัญหา
ความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยการปลูกฝังความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เป็นห่วงเป็นใยกัน คอยเตือนกันเมื่อเพื่อนจะ
ทำผ ิด ชักจูงเพื่อนให้เปลี่ยนแปลงในทางท ี่ดี ร่วมก ันสร้างสรรค์ก ิจกรรมท ี่เป็นป ระโยชน์ท ี่เกิดจ ากความต้องการของ
เด็กเอง
กจิ กรรม 2.3.2
การป อ้ งกนั แบบเลอื กสรรม ีลักษณะอยา่ งไร
แนวต อบกิจกรรม 2.3.2
การป อ้ งกนั แ บบเลอื กสรร เปน็ การป อ้ งกนั ท เี่ นน้ ห นกั แ ตล่ ะบ คุ คลในก ลมุ่ ห รอื ก ลมุ่ ท ม่ี คี วามเสยี่ งซ งึ่ แ บง่
แยกตามล กั ษณะ เชน่ อายุ เพศ ประวัตคิ รอบครวั สถานะทางเศรษฐกิจ เป็นตน้
ลิขสิทธข์ิ องมหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธริ าช